ต่อเนื่องมาจาก
http://www.ppantip.com/cafe/religious/topic/Y13093814/Y13093814.html---------------------------------------------------------------------
“ทรงสอนมนุษย์ในสิ่งที่พวกเขาไม่รู้”
อัลลอฮ์ ทรงสอนมนุษย์ในสิ่งที่พวกเขาไม่รู้ และทรงสอนทุกอย่างที่เป็นความจำเป็นสำหรับการดำเนินชีวิตทั้งในโลกนี้และปรโลก (โลกอาคีเราะฮ์)
องค์ความรู้ที่พระองค์ทรงสอนนั้นคือ ความรู้ที่มนุษย์ไม่รู้หรือยังไม่รู้ เป็นสิ่งที่น่ายินดียิ่งสำหรับการได้เรียนรู้และเข้าใจ โดยเฉพาะความรู้ที่ไม่อาจเรียนรู้ได้ด้วยสติปัญญาและความสามารถของมนุษย์ เว้นแต่ผ่านการสอนจากพระองค์เท่านั้น “สิ่งที่พวกเขาไม่รู้” ในที่นี้คือทุกอย่างที่เกี่ยวกับวิถีชีวิตของมนุษย์ทั้งในโลกนี้ ในหลุมฝังศพและวันปรโลก (โลกอะคีเราะฮ์) และมวลความรู้ทั้งก่อนการกำเนิดมนุษย์จนกระทั่งวาระสุดท้ายของโลก ซึ่งประมวลคำสอนเหล่านี้คือ “ศาสนา” หรือ “อัลอิสลาม”
ความรู้ในทัศนะอิสลามคือ
1. การทำความเคารพ (อิบาดะฮ์) ความรู้ที่ช่วยให้มนุษย์ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะบ่าวของอัลลอฮ์ เช่น การละหมาด การถือศีลอด เป็นต้น
2. การอธิบาย (อัลคิลาฟะฮ์) ความรู้ที่ช่วยเสริมให้มนุษย์ปฏิบัติภารกิจในฐานะผู้แทนของอัลลอฮ์ เช่น ความรู้ในเรื่องการบริหารจัดการ การพัฒนา เป็นต้น
ความรู้ที่เข้าข่ายของคำว่า “สิ่งที่เขาไม่รู้” นั่นคือ
1. ความรู้เกี่ยวกับอัลลอฮ์ ได้แก่ความรู้ในคุณลักษณะของพระองค์ และการกระทำของพระองค์
2. ความรู้เกี่ยวกับคำสั่งใช้ของอัลลอฮ์ ได้แก่ความรู้เกี่ยวกับบทบัญญัติและศาสนาของพระองค์
3. ความรู้เกี่ยวกับสรรพสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมา ได้แก่ความรู้ต่าง ๆ ที่มนุษย์ค้นพบ เช่นศาสตร์ต่างๆ ภาษา วัฒนธรรม ประเพณี การอยู่ร่วมกัน การแสวงหาผลประโยชน์หรือการป้องกันภยันตรายจากสรรพสิ่งต่างๆ
คำว่า “สิ่งที่พวกเขาไม่รู้” เป็นคำที่ครอบคลุมรากฐานและสาขาแห่งศาสตร์ต่างๆ แต่ความรู้ที่อัลลอฮ์ ทรงประทานมีเพียงเล็กน้อย ดังจะเห็นว่ามนุษย์ไม่สามารถที่จะรู้และเข้าใจตัวเองหรือสิ่งที่มองเห็นและสัมผัสได้ทั้งหมด และสิ่งที่อยู่นอกกาย หรือสิ่งที่ไม่สามารถมองเห็นด้วยเช่นกัน ซึ่งการบังเกิดมนุษย์นั้นประกอบด้วยหลักสองส่วน คือจิตวิญญาณ และเรือนร่าง แต่มนุษย์ยังไม่รู้จักจิตวิญญาณที่เป็นรากฐานของชีวิต อัลลอฮ์ ตรัสไว้ความว่า
“ และพวกเขา (คือบรรดาชาวยิว) จะถามเจ้า (โอ้มุฮัมมัด) เกี่ยวกับจิตวิญญาณ เจ้าจงกล่าวเถิดว่า เรื่องวิญญาณนั้นเป็นไปตามพระบัญชาของพระเจ้าของฉัน และพวกท่านจะไม่ได้รับความรู้ใด ๆ เว้นแต่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น” (อัลกุรอาน 17 : 85)
“ทรงสอนมนุษย์ในสิ่งที่พวกเขาไม่รู้”
อัลลอฮ์ ทรงสอนสิ่งต่าง ๆ ที่มนุษย์ยังไม่รู้ พระองค์ทรงสอนในฐานะบ่าวของพระองค์ อิสลามถือว่าทุกสรรพสิ่งถูกสร้างขึ้น และศาสตร์ทั้งมวลเป็นของพระองค์ที่ทรงสอนแก่มนุษย์ ไม่มีการยกเว้นว่ามนุษย์ผู้นั้นจะภักดีหรือปฏิเสธ จงใคร่ครวญในดำรัสที่ว่า “ทรงบังเกิดมนุษย์” และ “ทรงสอนมนุษย์” คือทรงบังเกิดและทรงสอนมนุษย์โดยไม่เจาะจงเฉพาะมุสลิมเท่านั้น อัลลอฮ์ เป็นผู้ทรงบังเกิด ดังนั้นพระองค์จึงเป็นผู้ทรงสอนมนุษย์โดยไม่คำนึงถึงคุณลักษณะหรือสถานะของมนุษย์คนใดคนหนึ่ง
โดย อ.มัสลัน มาหะมะ
ต่อที่นี่ครับ
http://www.ppantip.com/cafe/religious/topic/Y13095963/Y13095963.html
เรียนรู้อิสลาม สำหรับผู้ไม่เป็นมุสลิม ๓
---------------------------------------------------------------------
“ทรงสอนมนุษย์ในสิ่งที่พวกเขาไม่รู้”
อัลลอฮ์ ทรงสอนมนุษย์ในสิ่งที่พวกเขาไม่รู้ และทรงสอนทุกอย่างที่เป็นความจำเป็นสำหรับการดำเนินชีวิตทั้งในโลกนี้และปรโลก (โลกอาคีเราะฮ์)
องค์ความรู้ที่พระองค์ทรงสอนนั้นคือ ความรู้ที่มนุษย์ไม่รู้หรือยังไม่รู้ เป็นสิ่งที่น่ายินดียิ่งสำหรับการได้เรียนรู้และเข้าใจ โดยเฉพาะความรู้ที่ไม่อาจเรียนรู้ได้ด้วยสติปัญญาและความสามารถของมนุษย์ เว้นแต่ผ่านการสอนจากพระองค์เท่านั้น “สิ่งที่พวกเขาไม่รู้” ในที่นี้คือทุกอย่างที่เกี่ยวกับวิถีชีวิตของมนุษย์ทั้งในโลกนี้ ในหลุมฝังศพและวันปรโลก (โลกอะคีเราะฮ์) และมวลความรู้ทั้งก่อนการกำเนิดมนุษย์จนกระทั่งวาระสุดท้ายของโลก ซึ่งประมวลคำสอนเหล่านี้คือ “ศาสนา” หรือ “อัลอิสลาม”
ความรู้ในทัศนะอิสลามคือ
1. การทำความเคารพ (อิบาดะฮ์) ความรู้ที่ช่วยให้มนุษย์ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะบ่าวของอัลลอฮ์ เช่น การละหมาด การถือศีลอด เป็นต้น
2. การอธิบาย (อัลคิลาฟะฮ์) ความรู้ที่ช่วยเสริมให้มนุษย์ปฏิบัติภารกิจในฐานะผู้แทนของอัลลอฮ์ เช่น ความรู้ในเรื่องการบริหารจัดการ การพัฒนา เป็นต้น
ความรู้ที่เข้าข่ายของคำว่า “สิ่งที่เขาไม่รู้” นั่นคือ
1. ความรู้เกี่ยวกับอัลลอฮ์ ได้แก่ความรู้ในคุณลักษณะของพระองค์ และการกระทำของพระองค์
2. ความรู้เกี่ยวกับคำสั่งใช้ของอัลลอฮ์ ได้แก่ความรู้เกี่ยวกับบทบัญญัติและศาสนาของพระองค์
3. ความรู้เกี่ยวกับสรรพสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมา ได้แก่ความรู้ต่าง ๆ ที่มนุษย์ค้นพบ เช่นศาสตร์ต่างๆ ภาษา วัฒนธรรม ประเพณี การอยู่ร่วมกัน การแสวงหาผลประโยชน์หรือการป้องกันภยันตรายจากสรรพสิ่งต่างๆ
คำว่า “สิ่งที่พวกเขาไม่รู้” เป็นคำที่ครอบคลุมรากฐานและสาขาแห่งศาสตร์ต่างๆ แต่ความรู้ที่อัลลอฮ์ ทรงประทานมีเพียงเล็กน้อย ดังจะเห็นว่ามนุษย์ไม่สามารถที่จะรู้และเข้าใจตัวเองหรือสิ่งที่มองเห็นและสัมผัสได้ทั้งหมด และสิ่งที่อยู่นอกกาย หรือสิ่งที่ไม่สามารถมองเห็นด้วยเช่นกัน ซึ่งการบังเกิดมนุษย์นั้นประกอบด้วยหลักสองส่วน คือจิตวิญญาณ และเรือนร่าง แต่มนุษย์ยังไม่รู้จักจิตวิญญาณที่เป็นรากฐานของชีวิต อัลลอฮ์ ตรัสไว้ความว่า
“ และพวกเขา (คือบรรดาชาวยิว) จะถามเจ้า (โอ้มุฮัมมัด) เกี่ยวกับจิตวิญญาณ เจ้าจงกล่าวเถิดว่า เรื่องวิญญาณนั้นเป็นไปตามพระบัญชาของพระเจ้าของฉัน และพวกท่านจะไม่ได้รับความรู้ใด ๆ เว้นแต่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น” (อัลกุรอาน 17 : 85)
“ทรงสอนมนุษย์ในสิ่งที่พวกเขาไม่รู้”
อัลลอฮ์ ทรงสอนสิ่งต่าง ๆ ที่มนุษย์ยังไม่รู้ พระองค์ทรงสอนในฐานะบ่าวของพระองค์ อิสลามถือว่าทุกสรรพสิ่งถูกสร้างขึ้น และศาสตร์ทั้งมวลเป็นของพระองค์ที่ทรงสอนแก่มนุษย์ ไม่มีการยกเว้นว่ามนุษย์ผู้นั้นจะภักดีหรือปฏิเสธ จงใคร่ครวญในดำรัสที่ว่า “ทรงบังเกิดมนุษย์” และ “ทรงสอนมนุษย์” คือทรงบังเกิดและทรงสอนมนุษย์โดยไม่เจาะจงเฉพาะมุสลิมเท่านั้น อัลลอฮ์ เป็นผู้ทรงบังเกิด ดังนั้นพระองค์จึงเป็นผู้ทรงสอนมนุษย์โดยไม่คำนึงถึงคุณลักษณะหรือสถานะของมนุษย์คนใดคนหนึ่ง
โดย อ.มัสลัน มาหะมะ
ต่อที่นี่ครับ http://www.ppantip.com/cafe/religious/topic/Y13095963/Y13095963.html