มีผลการศึกษาใหม่ที่น่าสนใจเกี่ยวกับการลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว โดยพบว่า กรดอะมิโนซิสเตอีน มีบทบาทสำคัญในการควบคุมการเผาผลาญพลังงานของเซลล์

การค้นพบที่น่าทึ่ง

นักวิจัยพบว่าหนูที่ถูกดัดแปลงพันธุกรรมให้ไม่สามารถสร้างซิสเตอีนได้ และได้รับอาหารที่ไม่มีซิสเตอีนด้วย สามารถลดน้ำหนักตัวได้ถึง 30% ภายในหนึ่งสัปดาห์! ผลการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร Nature ชี้ให้เห็นว่าการลดระดับซิสเตอีนจะรบกวนการทำงานปกติของเซลล์ในการเปลี่ยนอาหารให้เป็นพลังงาน ทำให้ร่างกายต้องหันไปเผาผลาญไขมันที่สะสมไว้แทน

กลไกการลดน้ำหนัก

การขาดซิสเตอีนทำให้ระดับของโมเลกุลที่เรียกว่า โคเอ็นไซม์เอ (CoA) ลดลง ซึ่งเป็นตัวสำคัญที่ทำให้กระบวนการเปลี่ยนคาร์โบไฮเดรตและไขมันไปเป็นพลังงานทำงานได้ไม่เต็มที่ ทำให้ร่างกายต้องดึงไขมันสำรองมาใช้เพื่อสร้างพลังงานแทน

นอกจากนี้ การลดระดับซิสเตอีนยังกระตุ้นให้เกิดการตอบสนองต่อความเครียดในเซลล์ 2 แบบพร้อมกัน ซึ่งปกติจะพบในเซลล์มะเร็งเท่านั้น การตอบสนองเหล่านี้ช่วยเพิ่มการผลิตฮอร์โมน GDF15 ซึ่งส่งผลต่อการลดความอยากอาหาร และยังยับยั้งการสร้างไขมันใหม่ ทำให้หนูมีน้ำหนักลดลงมากขึ้น

ข้อควรระวังและการพัฒนาในอนาคต

นักวิจัยย้ำว่า การค้นพบนี้ยังไม่สามารถนำมาใช้เป็นแนวทางในการลดน้ำหนักสำหรับคนได้ในทันที เพราะซิสเตอีนมีอยู่ในอาหารเกือบทุกชนิด การงดซิสเตอีนอย่างสมบูรณ์นั้นทำได้ยาก และอาจมีผลเสียต่อสุขภาพได้ เนื่องจากซิสเตอีนมีส่วนสำคัญในกระบวนการทำงานของเซลล์หลายอย่าง เช่น การกำจัดสารพิษออกจากร่างกาย

อย่างไรก็ตาม การศึกษานี้ได้เปิดเผยความรู้พื้นฐานที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับการเผาผลาญพลังงานของเซลล์ ซึ่งอาจนำไปสู่การพัฒนายาหรือวิธีการใหม่ๆ ในอนาคต เพื่อช่วยให้คนลดน้ำหนักได้โดยไม่จำเป็นต้องงดซิสเตอีนทั้งหมด นักวิจัยคาดหวังว่าจะสามารถหาวิธีที่จะเข้าไปควบคุมกลไกบางส่วนของกระบวนการนี้ เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่คล้ายคลึงกันในมนุษย์ได้

การค้นพบนี้จึงเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้เราเข้าใจการเผาผลาญพลังงานในร่างกายมากขึ้น และอาจนำไปสู่แนวทางใหม่ๆ ในการจัดการน้ำหนักในอนาคต

เรียบเรียงและสรุป # dinan dam