โค๊ดคำพูดของหลวงตาท่านนี้ตามภาพ พอยกขึ้นมาแล้ว จำได้ว่า พระพุทธเจ้าบอกว่าตัณหาเกิดดับก็ที่หทยวัตถุ ตรงกัน

กระทู้สนทนา

ถ้าบอกว่าตัณหาเกิดดับที่สมองเนี่ยแหละจะคัดค้านครับ
แต่ก็จะเป็นไปโดยสุภาพครับ โดยยกพระไตรปิฎกขึ้นมาให้ดูจะจะ ว่าพระพุทธเจ้า พระสารีบุตร พระสงฆสาวกทั้งหลายก็กล่าวตรงกันทั้งนั้นอย่างนี้อย่างนี้ว่า ตัณหาจะเกิดก็เกิดขึ้นที่หทยวัตถุ จะดับก็ดับที่หทยวัตถุ (เสียวผิด หากกล่าวผิดโปรดบอกให้รู้ด้วยนะครับ)
หากยื่นพระไตรปิฎกให้ดูแล้ว ไม่เชื่อ ก็จบภารกิจ( แปลว่า ช่างหัวมัน แต่ของผมใช้ ช่างหัวเผือก นะครับ)
เมื่อได้ดังใจก็เกิด อภิชฌา เมื่อไม่ได้ดังใจก็เกิดโทมนัส
มีสติอยู่ ก็พิจารณา ธัมมารมณ์ กระทบ หทยวัตถุ เกิด มโนวิญญาน เรื่องนี้ยากที่จะเห็นหรือยากที่จะนึกถึงนะครับ
คือกระผมก็ไปเรื่อยแหละครับ มโนทวาราวัชชนะจิต ไปโน่นแหละครับ

อาจารย์บอกกระผมว่าง่ายกว่าคือทางปัญจทวาราวัชชนะจิต

แต่ง่ายๆกว่าเนี่ย ก็เลยปัจจุบันขณะไปแล้วนะครับ กลายเป็น ธัมมารมณ์ไปหมดแล้ว โน่นแหละเจออีกทีคือ ตอนเวทนา เกิดโน่นแหละครับ ถ้าไม่มีสติก็เลยไปอีกไกล เกิดเป็นปฏิจสมุปบาทแล้วนะครับ เพราะสิ่งนี้มีสิ่งนี้จึงมี เพราะมี เวทนา จึงมีตัณหา เพราะมีตัณหาจึงมีอุปาทาน เพราะมีอุปาทานจึงมีกัมมะภวะ นะครับ
เรียนพระธรรมก็รู้เรื่องพระธรรม
แต่จะรู้ชัดก็ต้องได้มัค4อันใดอันหนึ่งนะครับ
อ่านตำราพระธรรมก็จะเป็นรู้แบบโลกิยะ
อันนี้เห็นด้วยกับหลวงตานะครับ
แต่พอเอาความรู้พระธรรมที่เรียนมามาใช้นะครับ ก็ไปด้วยกันได้กับการปฏิบัติ
เวลาปฏิบัติก็มักเผลอส่งจิตออกนอกนะครับ แต่ผมก็ส่งจิตออกนอกไปคิดเรื่องพระธรรมที่เรียนมาว่ามันเป็นอย่างนี้อย่างโน้นอ้าวสงสัยจำไม่ได้ก็ต้องกลับมาทบทวนหาอ่านอีกครั้งอ้าวที่จะหาๆไม่เจออีกไปเรื่องอื่นแล้วลืมเรื่องเก่าเสียแล้ว กว่าจะนึกขึ้นมาได้ก็ยังดี แต่ลืมไปเลยนี่สิก็เลยหายไปเลย
นะครับตามโค้ดและภาพที่ปรากฏอย่างนี้นะครับ เข้าใจนะครับ
------
แต่การยักเยื้องด้วยจิตอกุศลนี่แหละครับ ที่ทำให้เกิดอกุศลจิตต่อขันธ์ 5 อย่างกว้างขวางเกิดขึ้นครับ
เมื่อได้พิจารณาแล้วว่า เป็นอันตรายอย่างยิ่ง
แต่ก็เป็นคุณประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผู้ปฏิบัติธรรม หากพบเห็นการยักเยื้องอย่างนี้
เพราะนั่นคือ วิรัติ ทำให้เกิด สัมมากัมมันตะ สัมมาวาจา สัมมาอาชีวะ อย่างใดอย่างหนึ่งใด้เมื่อมีเหตุให้ต้องวิรัติครับ
จิตอันเป็นมหากุศลจิตดวงที่ 1 จึงประกอบด้วยเจตสิกแน่นอนปรากฏสภาวะมีชื่อด้วยจำนวน 29 เจตสิก, มีสภาวะเกิดแน่นอนอีก 4 แต่ไม่มีชื่อ , และเมื่อเกิดสัมมาวาจา ขึ้นแล้วดังนี้ มหากุศลจิตดวงที่ 1 ดวงนี้เองจึงมีเจตสิกประกอบด้วย 34 เจตสิก มากที่สุดแล้วที่จิตดวงนี้จะมีได้
เป็นไงครับ ปลื้มไหมครับ
ทำกุศลแล้วเกิดกุศล
โสมมะนัสสะสะหะคะตา ญานะสัมปะยุตตัง อะสังขาริกัง
จิตที่เกิดขึ้นด้วยความยินดี เกิดพร้อมกับปัญญา ไม่มีผู้ชักชวน
-----
ครับ ก็เป็นไปด้วยแบบนี้นะครับ แม้ปัจจัยที่เกิดจะเป็นอกุศล เราก็สามารถโยนิโสมนสิการให้เป็นปัจจยุบันธรรม คือ กุศลได้ครับ
เป็นอย่างนี้นะครับ พอเข้าใจไหมครับ
อนุโมทนาทุกท่านครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่