(กระทู้แลกเปลี่ยสนทนา) กุศลที่เจริญนั้นควรเป็นไปเพื่อขัดเกลากิเลส

ไม่ว่าจะให้ทาน ,รักษาศีล , เจริญภาวนา และ อบรมปัญญา

เห็นหลายๆคนทำบุญ เพราะหวังว่า จะได้รวย ถูกหวย หรือเป็นเศรษฐี หรือ บางคนอยากไปเกิดบนสวรรค์ เสวยสุขในกามคุณ บางคนทำบุญเพราะไม่อยากตกนรก หรือ ไปเกิดในอบาย ทั้งหมดที่ว่าโดนตัณหา 3 ,  โดน โลภะ โมหะ ครอบงำโดยไม่รู้ตัว

จากประสบการณ์ที่พบมา บางคนทำบุญ แต่ไม่ได้ขัดเกลากิเลสเลย ซ้ำร้ายบางคนทำจนหมดเนื้อหมดตัว แถม เดือดร้อนคนอื่นๆอีก ภาษาท่านว่า "เมาบุญ"  พอเวลาคนยินดีในการให้ทานมากๆ ปัญญาจะลดถอยลง และมักให้โดยไม่คิดพิจารณอะไร  เป็นการให้ทานโดยที่ไม่มีปัญาประกอบ หรือ พิจารณา อย่างถี่ถ้วน

ชาวพุทธส่วนมากมักชอบให้ทาน แต่ บางคนนั้น

1.ให้ทานด้วยความโลภ เช่น อยากรวย อยากไปสวรรค์ อยากมีโชค

2.ให้ทานด้วยความหลง ให้จนลำบากตัวเอง คิดว่าให้สิ่งนี่ สิ่งโน้น สิ่งนั้น กับคนนี้ คนโน้น คนนั่น และ แบบโน้น นี้ นั้น เวลาโน้น นี้ นั้น  จน คิดเข้าใจแบบผิดๆว่าผลจะต้องออกมาเป็น  แบบนี้ แบบโน้น แบบนั้น

3.ให้ทานเพราะความไม่รู้  ไม่พิจารณาก่อนให้ ขาดการคิดแยบคาย เห็นเขาทำอะไรก็ทำตาม

โดยทั้งหมดที่ว่ามา ยังไม่รู้จุดประสงค์ที่แท้จริงของการให้ทาน

ยังไม่นับบุญกุศล จากการรักษาศีล ด้วยนะ บางคนมักไปวัด ปฎิบัติธรรม ถือ ศีล นุ่งขาว ห่มขาว เพราะหวังเอาบุญ อยากได้บุญเยอะๆ  หรือ ถ่ายรูปอวดลงโซเชียล พร้อมคำคมแคปชั่นลง Social Network  ทั้งๆที่หลายคน นั้นยังไม่รู้เลยว่าจุดประสงค์ของการรักษาศีลนั้นคืออะไร เพื่ออะไร จุดประสงค์ของศีล 5 และ 8 คืออะไร

กุศลกรรม จากการให้ทาน ไม่รู้จะส่งผลตอนไหนชาติไหน แต่ รักษาศีล ภาวนา อบรมปัญญา ให้ผลทันทีเมื่อปฎิบัติ

ป.ล. ทุกครั้งที่เราให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา และ อบรมปัญญา ลองตั้งคำถามกับตัวเองดูว่า กิเลสที่มีมันได้ถูกขัดเกลาไปบ้างหรือยัง หรือยังเท่าเดิม และ ซ้ำร้าย อาจยังมากกว่าเดิม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่