ระวังภัยเงียบตัวร้าย ‘มะเร็งกระเพาะอาหาร’ และ ป่วยมะเร็งเพราะฝุ่น

โรคมะเร็งกระเพาะอาหาร เป็นหนึ่งในโรคมะเร็งที่คร่าชีวิตคนจำนวนมาก แต่กลับเป็นโรคที่หลายคนมองข้าม เพราะมักไม่มีอาการในระยะแรก กว่าจะรู้ตัวต่อเมื่อเกิดอาการรุนแรงและลุกลามแล้ว

โรคมะเร็งกระเพาะอาหาร เป็นหนึ่งในโรคมะเร็งที่พบได้เป็นลำดับ 6 ทั่วโลก และคร่าชีวิตคนจำนวนมาก แต่กลับเป็นโรคที่หลายคนมองข้าม เพราะมักไม่มีอาการในระยะแรก กว่าจะรู้ตัวต่อเมื่อเกิดอาการรุนแรงและลุกลามสู่อวัยวะอื่นๆ

“คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล” บอกเล่าเกร็ดความรู้เกี่ยวกับโรคร้ายดังกล่าว พร้อม

สำหรับในประเทศไทย ผู้ชายพบเป็นอันดับ 8 และผู้หญิงพบเป็นลำดับ 9 ซึ่งพบน้อยกว่า มะเร็งปอด มะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งตับ ตับอ่อน และ กลุ่มมะเร็งทางนรีเวช แต่กลับพบว่าเป็นสาเหตุการเสียชีวิตเป็นลำดับ 3 ในผู้ชาย และลำดับ 5 ในผู้หญิง ซึ่งทำให้มักเป็นโรคที่หลายคนอาจมองข้าม เนื่องจากในระยะแรกอาการยังไม่แสดงชัดเจน มักมีอาการคล้ายโรคกระเพาะ เช่น อาการท้องอืด จุก แน่นท้อง แต่เมื่อพบแล้วจะรักษาหายได้ยาก ดังนั้น การทำความเข้าใจเกี่ยวกับสาเหตุ อาการ และการป้องกันโรคมะเร็งกระเพาะอาหารจึงเป็นสิ่งสำคัญ บทความจึงรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับมะเร็งกระเพาะอาหาร เพื่อให้คุณสามารถปกป้องสุขภาพของตนเองและคนที่คุณรักได้ดียิ่งขึ้น

สาเหตุเกิดจากอะไร

โรคมะเร็งกระเพาะอาหารมีหลายลักษณะ ทั้งเยื่อบุกระเพาะอาหาร มะเร็งต่อมน้ำเหลืองของกระเพาะอาหาร มะเร็งจีส และ มะเร็งของเนื้อเยื่อเกี่ยวพันต่าง ๆ เป็นต้น แต่ที่พบบ่อย คือมะเร็งเยื่อบุกระเพาะอาหาร และมะเร็งจีส ซึ่งมีสาเหตุที่แตกต่างกันออกไป เช่น

-การติดเชื้อเอช.ไพโลไร (H. Pylori) เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดมะเร็งเยื่อบุกระเพาะอาหารหรือมะเร็งต่อมน้ำเหลืองของกระเพาะแบบชนิดที่ไม่รุนแรง

-การอักเสบของกระเพาะอาหารเรื้อรัง

-การกินอาหารบางอย่างที่กระตุ้นทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรัง เช่น อาหารปิ้งย่าง รมควัน อาหารแปรรูปบางชนิดโดยเฉพาะที่มีโซเดียมไนเตรตปริมาณมากๆ เป็นต้น ซึ่งการกินอย่างต่อเนื่องและเป็นเวลานาน อาหารเหล่านี้จะเป็นส่วนหนึ่งที่กระตุ้นทำให้เกิดมะเร็งได้

-มะเร็งเนื้อเยื่อเกี่ยวพันหรือมะเร็งจิสต์ (GIST) เกิดจากความผิดปกติของเซลล์ของกระเพาะอาหารเอง ไม่มีสาเหตุในการกระตุ้นอย่างชัดเจน


อาการของโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร

อาการระยะแรกมักไม่มีอาการผิดปกติใดๆมากนัก นอกจากอาการเล็กๆน้อยๆ เช่น อาการท้องอืด จุก แน่นท้อง ซึ่งผู้ป่วยส่วนใหญ่มักขาดการใส่ใจ เพราะคิดว่าเป็นแค่โรคกระเพาะ จึงไม่ได้รับการตรวจวินิจฉัย จนมีอาการมากขึ้นถึงขนาดอาเจียนเป็นเลือด กินไม่ได้ น้ำหนักลดลงเยอะ แล้วมารับการตรวจ ซึ่งทำให้เราขาดการรักษาตั้งแต่ระยะเริ่มแรกไป

การรักษา “มะเร็งกระเพาะอาหาร”

โดยทั่วไป ถ้ามีการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งกระเพาะอาหาร เราต้องแยกก่อนว่าเป็นชนิดไหน

@ มะเร็งของเยื่อบุกระเพาะอาหาร โดยทั่วไป แพทย์จะต้องทำการส่องกล้องตรวจกระเพาะอาหารและจะทำการตัดชิ้นเนื้อไปพิสูจน์ในบริเวณที่ผิดปกติ หลังจากวินิจฉัยแล้วว่าเป็นมะเร็ง ก็จะต้องกระเมินดูระยะของโรคว่ามีการแพร่กระจาย หรือลุกลามไปที่ไหน หรือไม่ เพื่อวางแผนการรักษา

ซึ่งผู้ป่วยอาจได้รับการรักษาแตกต่างกันไปตามระยะของโรค เช่น ถ้ามีการลุกลามไปยังต่อมน้ำเหลือง ก็จะให้ยาเคมีบำบัดก่อนแล้วค่อยตามด้วยการผ่าตัด หรือถ้าตรวจพบว่าเป็นระยะเริ่มแรก ก็จะแนะนำให้ผู้ป่วยรักษาด้วยการผ่าตัดก่อน เพราะการผ่าตัดในระยะเริ่มแรกจะได้ผลดี และเป็นความหวังเดียวที่จะรักษาให้หายขาดได้


@ มะเร็งต่อมน้ำเหลืองของกระเพาะอาหาร ต้องดูตามระยะว่าเป็นระยะไหน และมีภาวะแทรกซ้อนอย่างอื่นด้วยหรือไม่ ซึ่งโดยส่วนใหญ่มักจะได้รับยาเคมีบำบัดในการรักษา

@ มะเร็งเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน ถ้ายังเป็นไม่มาก และยังไม่มีการแพร่กระจาย การผ่าตัดจะทำให้หายขาดได้ ส่วนยาเคมีบำบัดในมะเร็งเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน มักจะไม่ค่อยได้ผล

@ มะเร็งจีสกระเพาะอาหาร เป็นมะเร็งใต้ชั้นเยื่อบุผิวทางเดินอาหาร และมะเร็งชนิดจีสนี้มักพบได้บ่อยที่กระเพาะอาหาร และมักรักษาได้ด้วยการผ่าตัดก้อนมะเร็งออกให้หมด ซึ่งถ้าก้อนมะเร็งมีขนาดใหญ่หรือ มีการแพร่กระจาย จะต้องให้ยารักษาซึ่งโดยทั่วไปไม่ตอบสนองต่อยาเคมีบำบัด

แต่มะเร็งชนิดนี้จะตอบสนองได้ค่อนข้างดีกับยาพุ่งเป้า แต่ยาจะมีราคาแพงซึ่งถ้าให้แล้ว ก้อนมะเร็งลดลง จะทำการผ่าตัดออก เพราะการให้ยาพุ่งเป้าอาจใช้ได้ผลดีช่วงประมาณ 1-2 ปีแรก แต่หลังจากนั้นมะเร็งอาจปรับตัวเพื่อต่อต้านกับยา จึงอาจต้องเพิ่มปริมาณยาหรือเปลี่ยนชนิดของยาไปเรื่อยๆ

การป้องกัน “มะเร็งกระเพาะอาหาร”

1.ถ้ามีอาการปวดท้องครั้งแรกเมื่ออายุ 50 ปีขึ้นไป ควรได้รับการตรวจคัดกรองเพราะมะเร็งกระเพาะอาหารเป็นมะเร็งที่รักษาได้ถ้าเราเจอในระยะแรก

2.หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง เช่น ระวังการกินอาหารบางชนิดที่เสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งซึ่งการที่กินต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารแปรรูปอาหารปิ้งย่างที่กระตุ้นให้เกิดการอักเสบเรื้อรัง และทำให้เกิดมะเร็งได้ นอกจากนี้ การติดเชื้อเอช.ไพโลไร พบว่าเป็นตัวสำคัญที่ทำให้เกิดมะเร็งกระเพาะอาหาร

มะเร็งกระเพาะอาหารเป็นโรคที่สามารถป้องกันได้ หากเราเข้าใจและดูแลสุขภาพอย่างถูกวิธี อาการที่พบในระยะแรกอาจไม่รุนแรง และคล้ายคลึงกับโรคกระเพาะอาหารทั่วไป ดังนั้น การสังเกตอาการผิดปกติของร่างกายและเข้ารับการตรวจสุขภาพเป็นประจำ จะช่วยให้เราสามารถป้องกันและรักษาได้ทันเวลา

นอกจากนี้ การเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง และการรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้เราห่างไกลจากโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร....

สามารถติดตามต่อได้ที่ : https://www.dailynews.co.th/news/4558877



สาววัย 41 ปี ป่วยมะเร็งระยะ 4 เพราะฝุ่น

แคปไม่ได้และข้อความยาวมาก อ่านต่อที่ https://today.line.me/th/v2/article/YaNvlq8

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่