พี่สาวคุณทำถูกแล้วครับ มองมุมพี่สาวคุณ ไม่ได้อยู่ด้วย ทำไมต้องรับหนี้ ถ้ารับไปแล้วอนาคตคุณไม่ผ่อนต่อ หนี้ก็ตกมาถึงเค้าด้วย ที่เค้าไม่ยอมเซ็นต์ก็เพราะเครดิตการเงินของพวกคุณไม่ดีเนี่ยแหละ เรื่องเงินเป็นเรื่องสำคัญมาก

ปัญหาของคุณล้วนๆ   แต่จะให้พี่สาว(ที่ไม่ถูกกัน)มารับผิดชอบหนี้
คุณติดเครดิตบูโร  บ้านนั้นก็บ้านคุณ  ... มันไม่เกี่ยวอะไรกับพี่สาว  
(ผู้จัดการมรดก ก็ไม่ใช่ทายาท  และน่าจะมีทรัพย์มรดกน้อยมาก หรือแบ่งกันเสร็จแล้ว)
"บ้าน ไม่ได้อยู่ในกองมรดก   .... แต่เจือกจะให้รับ หนี้บ้าน "

1) เดานะ  พ่อที่ยอมร่วมกู้ให้ลูกชาย  คือรักลูกชายมาก
ซึ่งลูกชายและเมียถึงขนาดติดเครดิตบูโรทั้ง2คน  แปลว่า พ่อต้องจ่ายๆๆและให้ๆๆลูกชายจนสุดกำลังแล้ว
และเงินที่จ่ายค่าบ้านทุกวันนี้  ก็อาจมาจากมรดกพ่อนี่แหล่ะ  (เงินที่เคยจ่าย ก็อาจจะพ่อนั่นแหล่ะ)

2) พี่สาวไม่ถูกกัน ... มีแนวโน้มว่า   พ่อรักแต่ลูกชาย  , ลูกชายไม่ดี , ลูกชายเอาเปรียบพี่สาวและเห็นแก่ได้
เป็นไปได้ว่า  พี่สาวต้องเลี้ยงดูพ่อด้วยซ้ำ  เพราะพ่อน่าจะเปย์ลูกรักจนหมด ถึงปล่อยติดเครดิตบูโรได้
เดาว่า   อาจไม่มีมรดกให้พี่สาวด้วยซ้ำ  .... แล้วพี่สาวที่ไม่พอใจคุณ จะมาเซ็นรับหนี้บ้าน ที่ไม่ได้อยู่ในมรดกทำไม

คุณต้องแก้ปัญหาของคุณเอง   อย่าให้คนอื่นแบกคุณ  (พ่อที่เคยแบกคุณก็ตายแล้ว  คุณโตแล้ว)

ปล. คุณอาจเปลี่ยนผู้จัดการมรดก  หลังพี่สาวแบ่งกันเสร็จแล้ว ทันใน1ปี
แต่แบงก์ไม่ได้ต้องการ คุณเป็นผู้จัดการมรดกหรอก ..... เค้าต้องการเงินปิดจบ หรือรีไฟแนนซ์
เพราะผู้กู้3คน  คนนึงตาย  อีก2คนติดเครดิตบูโร  ..แปลว่า เครดิตติดลบ หรือเป็นศูนย์  

(เราไม่เคยกู้หนี้  เราไม่รู้    แต่แอบคิดว่า  ถ้าหนี้ตัวอื่นที่คุณชักดาบ  ฟ้องร้องยึดทรัพย์มาขาย
==  บ้านนี้จะโดนด้วยไหม??  แบงก์ก็ต้องคิดเรื่องนี้??)
ถ้าตอนนี้คุณจ่ายค่าบ้าน  แต่ชักดาบหนี้อื่น .. แปลว่าเงินเทมาที่บ้าน   มันได้เหรอ??