***เพื่อความแฟร์ ขอเรียบเรียงข้อมูลใหม่ครับ
ขออภัยล่วงหน้าที่ยาวหน่อยครับ (พยายามย่อแล้ว)
นานมาแล้ว ผมเคยเรียน ป.โท
มีบางเรื่องผมไม่ถนัด ผมเลยนึกถึงเพื่อน ก็มีเพื่อน 2-3 คนที่ถนัดแนวนี้
ผมก็เลยลองทักไปให้เพื่อนช่วยทีละคน ถ้าไม่ว่างก็ไม่เป็นไรยังมีเพื่อนคนอื่นอีก
ผมทักเพื่อนผมคนนี้ไปคนแรก เพื่อนก็ตกลงช่วยผม โดยใช้เวลาไม่กี่วัน (ถ้าทำจริงๆ ประมาณวันเดียวก็อาจจะเสร็จ)
ก็ไม่มีสถานการณ์กดดัน ไม่ต้องรีบ ผมให้เวลาทำแบบสบายๆ
แล้วผมก็จบ ป.โท แล้วผมก็ลงเครดิต ขอบคุณให้เพื่อนในเล่ม พาเพื่อนไปเลี้ยงใหญ่
หลังจากนั้นมีคุยกันบ้างประปราย ส่วนใหญ่ผมเป็นคนทักไป แต่เพื่อนผมก็คุยแบบประมาณถามคำตอบคำ
ผ่านไปหลายปีมากๆ
ไม่กี่ปีที่ผ่านมา ประมาณช่วงปลดล็อคดาวน์โควิดใหม่ๆ คือ
เพื่อนคนที่ว่านี้ จู่ๆ ก็ติดต่อมาครับ หลังจากแทบไม่ได้คุยกันเลย
ก็คุยกันในรอบหลายปี
ทำให้ผมทราบว่า เพื่อนได้ทำงานที่ทำงานที่มีชื่อเสียงระดับประเทศแห่งหนึ่ง ผมก็ดีใจกับเพื่อนด้วยนะครับ ได้ที่ทำงานดี
และเพิ่มเติม คือ ณ ตอนนั้น เพื่อนกำลังเรียน ป.เอกครับ
แต่ก็เกิดความล่าช้าครับ เพราะ ณ ตอนนั้น เพื่อนทำ ป.เอก ไปได้ไม่เยอะ ยังเหลืออีกบาน เรียกได้ว่าแค่เริ่มต้นไปได้เล็กน้อยประมาณนึง
เท่าที่ฟัง ปัญหาส่วนหนึ่งก็มาจากล็อคดาวน์โควิดด้วยหละมั้งครับ
เพราะเขาไม่เลื่อน หรือยืดเวลาทำให้ครับ เวลาทำ ป.เอก มีเท่าเดิม ไม่สนใจว่ามีล็อคดาวน์โควิด
แผนที่วางไว้เพี้ยนหมด เช่น นัดแล้วยกเลิก ต้องทำหนังสือจากมหาลัยใหม่ ลายเซ็นต์ล่าช้า ต้องไปยื่นคำร้อง-ไปรับหนังสือรับรอง โทรตามว่าได้หรือยัง ข้อมูลที่ขอจากหน่วยงานแล้วก็เลื่อนเพราะโควิดฯ ฯลฯ
ปัญหาใหญ่ คือ
ณ ตอนนั้น เพื่อนทำงานประจำโดยใช้วุฒิ ป.โท โควต้าทดลองงาน (สัญญาจ้างรายปี)
ต้องทำ ป.เอกให้เสร็จภายในโควต้าทำ ป.เอก
ถ้าเพื่อน ทำ ป.เอก เสร็จไม่ทัน คือ นอกจากเพื่อนจะเสียเวลาเรียน เสียค่าเรียนแล้ว เพื่อนก็จะตกงานด้วย เพราะงานที่เพื่อนทำ เขารับแค่วุฒิ ป.เอก
ต้องจบ ป.เอกเพื่อให้ได้งานประจำ (เขารับแล้ว แต่ต้องจบ ป.เอก)
ถ้าตกงานนี้ก็ต้องไปหางานใหม่ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะได้ที่ทำงานดีเท่าที่นี่ไหม เพราะที่ทำงานปัจจุบันก็มีชื่อเสียงระดับประเทศ ใครๆ ก็อยากทำที่นี่
ความยาก คือ
เพื่อนต้องรับผิดชอบงานประจำไปด้วย และทำทีสีส ป.เอกไปด้วยในเวลาที่จำกัดมากๆ (ประมาณ 1 ปี)
ฟังเพื่อนเล่าแล้ว ก็ดูสถานการณ์กดดันพอสมควร
เพื่อนเห็นว่าทำ ป.เอก ไม่ทันแน่ๆ จึงมาขอร้องให้ผมช่วยทำ ป.เอก เพราะจะหมดเวลาแล้ว
เพิ่งเริ่มไปได้แค่ 20% - 30% หมายความว่า ต้องทำส่วนที่เหลือโดยใช้เวลาแค่ประมาณไม่ถึง 1 ปี
ณ ตอนนั้น มองแบบความเป็นจริง โอกาสที่จะทำ ป.เอกจบ คือ ต่ำมากครับ
คือ ชั่วโมงนั้นผมยังคิดไม่ออกเลยว่าจะเริ่มยังไง เริ่มอันไหนก่อน ก็ค่อยๆ คิด ค่อยๆ แก้ปมไปทีละอย่างไปเรื่อยๆ
เหตุผล ที่ต้องเป็นผมช่วย
เพราะผมไม่ได้ทำงานประจำ และงานผมที่ทำอยู่ก็ค่อนข้างเป็นแนวแสตนด์บาย
ดังนั้น ไม่มีใครเหมาะไปกว่านี้แล้ว
เพื่อนผมก็พูดไปบ่นไปร้องไห้ไป ขอร้องให้ผมช่วย
ผมก็เลยรับปากช่วย
และผมก็ถือว่าเป็นการตอบแทนบุญคุณที่เพื่อนผมก็เคยช่วยผมมาก่อนเหมือนกัน (แม้ scale ความยาก ความเหนื่อยจะแตกต่างกันหลาย 100 เท่า เพราะเพื่อนผมช่วยผมไม่กี่วันแบบชิลๆ แต่ผมช่วยเกือบตลอดปี)
แล้วนิสัยผม คือ รับปากไปแล้วคือต้องทำตามที่พูดไว้
ส่วนที่ผมช่วยเพื่อนทำ ผมจะเป็นแนวมดงานครับ
- ช่วยคิดในเวลาที่เพื่อนตัน บางทีก็ทำแทนในส่วนนั้นให้เลย
- หาข้อมูลตามโจทย์
- หารูป ทำรูปตามโจทย์ ทำรูปโปรโมท ทำรูปประกอบ
- ช่วยพิมพ์ช่วงแรกๆ ประมาณ 40-50% ผมจะเป็นคนพิมพ์ (หลังๆ ข้อมูลค่อนข้างเฉพาะทางเพื่อนต้องพิมพ์เอง)
- ช่วยหาคนให้ไปช่วยงาน (งานเฉพาะทางมากๆ ครับ หาคนยาก ต้องใช้ connection ส่วนตัวด้วย) และเรื่องนี้ก็ทำให้ผมซวยไปด้วย เพราะเพื่อนก็ไปทำไม่ค่อยดีใส่คนที่ผมหาให้อีก ในทางเทคนิคแล้ว ผมก็โดนคนที่ผมแนะนำให้เพื่อนมองผมไม่ดีไปด้วย ผมทำได้แค่ปลง (ก็เข้าใจว่ามันเกิดขึ้นได้ เพราะเพื่อนน่าจะเครียดทีสีสอยู่)
- ไปเป็นเพื่อนเวลาหาข้อมูลบางอย่าง หรือไปในบางสถานที่ที่มันดูไม่น่าไปคนเดียว
- จัดรูปเล่ม (หลังจากข้อมูลครบแล้ว) ค่อนข้างจุกจิกเสียเวลามาก เพราะต้องพิมพ์ตามฟอร์แมตของเขา ต้องหาคำสั่งที่ไม่รู้จักใน microsoft word ด้วย ไหนจะต้องเรียงลำดับใส่เลขหน้าให้ถูก
เรื่องบางอย่างก็เป็นที่ผมเอง ที่ผมก็อาสาเองด้วยครับ (เพื่อนผมไม่ได้บอกให้ทำแต่ผมอาสาเอง) เพราะผมไม่ได้คิดอะไรมากครับ ผมคิดแค่ว่า ทำยังไงก็ได้ให้ทำ ป.เอกเสร็จให้เร็วที่สุด
เรื่องบางเรื่องค่อนข้างเทคนิคเฉพาะทาง ผมก็ไม่รู้หรอก แต่ผมก็ต้องไปอ่าน ต้องไปเรียนรู้จนทำเป็นครับ
ทั้งหมดนี้ก็ช่วยทำเกือบทุกวัน ตลอดเกือบ 1 ปี
บางวันอดหลับอดนอนทำให้ทั้งคืน เพื่อให้ทันกำหนดการณ์ เช่น ต้องทำแบบให้เสร็จทันไปส่งช่าง เพราะช่างมีคิวว่างให้แค่วันนั้น ฯลฯ
ส่วนใหญ่จะคุยงาน ทำงาน กันผ่านทางออนไลน์ครับ
แต่ถ้าวันไหนมีนัดคุยงานนัดเจอกัน เพื่อนก็เลี้ยงข้าว เลี้ยงข้าวแบบทั่วๆ ไปครับ
จะมีเลี้ยงมื้อใหญ่มื้อนึง ตอนทำ ป.เอกเสร็จ ก็ไม่ได้แพงมากอะไรหรอกครับ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะไม่เกิน 2,000
หลังจากเพื่อนเรียน ป.เอก จบ เพื่อนผมก็มีลงรูปทีสีสที่ทำเสร็จใน Facebook มีพิมพ์ขอบคุณคนนู้นคนนี้แต่ไม่มีชื่อผม
แล้วรูปบางรูปเป็นรูปผลงาน ก็ในทางเทคนิคเป็นฝีมือผมเกือบจะ 100% ก็มีคนมาชม แต่เพื่อนผมก็ไม่บอกว่าผมเป็นคนช่วยทำ (คนที่มาชมผมก็รู้จัก เพราะก็เพื่อนผมเหมือนกัน)
ตอนนี้ ผมก็ไม่ได้คิดอะไรมากครับ คิดแค่ว่า เห็นเพื่อนเรียนจบก็ดีใจด้วยสุดๆ
หลังจากเพื่อนทำ ป.เอกเสร็จ
ผมก็ไม่ได้คุยกับเพื่อนอีกเลย เพื่อนก็ไม่คุยกับผม ตอนแรกผมก็ไม่ได้คิดอะไรนะ เพื่อนคงไม่ว่าง
จนผ่านไปซักช่วง
จู่ๆ ผมก็อยากเห็นรูปเล่มทีสีส ป.เอกเพื่อน เพราะส่วนหนึ่งผมก็เป็นคน ช่วยพิมพ์ หารูป ทำรูป จัดรูปเล่ม ก็เลยลองเสิร์ชชื่อเพื่อนดู
แต่เล่ม .pdf ก็ยังไม่ขึ้นเว็บ
ผ่านไปหลายปี ประมาณต้นปีที่ผ่านมาเนี่ยแหละครับ ผมเห็นรูปเพื่อนใน facebook โผล่มา มันก็เลยทำให้ผมนึกขึ้นได้อีก
เลยเสิร์ชชื่อเพื่อน ปรากฏว่า คราวนี้เจอ .pdf แล้วครับ
ณ ตอนนั้น คือ ผมคิดแค่อยากเห็นผลงานที่ผมช่วยเพื่อนทำ แค่นี้จริงๆ ครับ ไม่ได้คิดอะไรเยอะ
ก็ไล่ดูทีละหน้า จนมาถึงหน้ากิตติกรรมประกาศ เห็นเพื่อนเขียนขอบคุณคนนู้นคุนนี้ ส่วนใหญ่ก็เป็นชื่อนักวิชาการ ครอบครัว แต่ไม่มีชื่อผมเลยอะ
ไม่ต้องเป็นชื่อผมก็ได้ เป็นแค่คำรวมๆ ก็ได้ เช่น เพื่อนที่ให้ความช่วยเหลือ
โอเคไม่มีในกิตติกรรมประกาศก็ได้ แต่ก็ไม่มีในช่องทางอื่นด้วยเหมือนกัน เช่น facebook
จากที่ตอนแรกไม่ได้คิดอะไรเลย มันกลายเป็นว่ามันค่อนข้างกวนใจผมมาซักพักละครับ
ประมาณว่า กวนใจนิดหน่อยนะครับ ไม่ได้กวนใจเยอะอะไรแบบนั้น แค่ผมรู้สึกว่าทำไมผมเลิกคิดไม่ได้แค่นั้นแหละครับ น่าจะออกแนวคาใจมั้งครับ
คือ รู้สึกไม่ดีหนะครับ
เพราะมันทำให้ผมคิดย้อนกลับ เหตุการณ์ที่ผมลืมไปแล้ว มันก็คือ เหตุการณ์ที่เพื่อนผมให้ผมช่วยหาคนเฉพาะทางไปทำงานให้
ซึ่งผมก็หาให้ด้วยความยากลำบาก กว่าจะถามมาได้ กว่าจะช่วยพูดให้มาทำงาน
แล้วเพื่อนผมไปทำไม่ดีใส่คนที่ผมหามา แล้วผมก็โดนคนที่ผมหามาเคืองใส่ตามไปด้วย
ผมก็ไม่น่า google เสิร์ช ทีสีสเพื่อน .pdf มาดูเลย พอเห็นแล้วมันกลายเป็นรู้สึกไม่ดี
รบกวนถามความเห็น
- ถ้าเพื่อนไม่ใส่ เครดิต หรือ คำขอบคุณ ไม่ว่าจะ facebok หรือ ในเล่มทีสีส จะซีเรียสไหมครับ
- ถ้าเป็นคุณ จะยังไงต่อครับ ถามไหม หรือว่า เฉยๆ จะช่างมันเถอะ พูดไปเสียเวลา ลืมๆ มันไปเหอะ
ขอบคุณครับ
เพื่อนมาให้ช่วยทำ ป.เอก ก็ช่วยทำตลอดเกือบ 1 ปี ถ้าเพื่อนไม่ใส่ เครดิต หรือ คำขอบคุณในวิจัย ซีเรียสไหม
ขออภัยล่วงหน้าที่ยาวหน่อยครับ (พยายามย่อแล้ว)
นานมาแล้ว ผมเคยเรียน ป.โท
มีบางเรื่องผมไม่ถนัด ผมเลยนึกถึงเพื่อน ก็มีเพื่อน 2-3 คนที่ถนัดแนวนี้
ผมก็เลยลองทักไปให้เพื่อนช่วยทีละคน ถ้าไม่ว่างก็ไม่เป็นไรยังมีเพื่อนคนอื่นอีก
ผมทักเพื่อนผมคนนี้ไปคนแรก เพื่อนก็ตกลงช่วยผม โดยใช้เวลาไม่กี่วัน (ถ้าทำจริงๆ ประมาณวันเดียวก็อาจจะเสร็จ)
ก็ไม่มีสถานการณ์กดดัน ไม่ต้องรีบ ผมให้เวลาทำแบบสบายๆ
แล้วผมก็จบ ป.โท แล้วผมก็ลงเครดิต ขอบคุณให้เพื่อนในเล่ม พาเพื่อนไปเลี้ยงใหญ่
หลังจากนั้นมีคุยกันบ้างประปราย ส่วนใหญ่ผมเป็นคนทักไป แต่เพื่อนผมก็คุยแบบประมาณถามคำตอบคำ
ผ่านไปหลายปีมากๆ
ไม่กี่ปีที่ผ่านมา ประมาณช่วงปลดล็อคดาวน์โควิดใหม่ๆ คือ
เพื่อนคนที่ว่านี้ จู่ๆ ก็ติดต่อมาครับ หลังจากแทบไม่ได้คุยกันเลย
ก็คุยกันในรอบหลายปี
ทำให้ผมทราบว่า เพื่อนได้ทำงานที่ทำงานที่มีชื่อเสียงระดับประเทศแห่งหนึ่ง ผมก็ดีใจกับเพื่อนด้วยนะครับ ได้ที่ทำงานดี
และเพิ่มเติม คือ ณ ตอนนั้น เพื่อนกำลังเรียน ป.เอกครับ
แต่ก็เกิดความล่าช้าครับ เพราะ ณ ตอนนั้น เพื่อนทำ ป.เอก ไปได้ไม่เยอะ ยังเหลืออีกบาน เรียกได้ว่าแค่เริ่มต้นไปได้เล็กน้อยประมาณนึง
เท่าที่ฟัง ปัญหาส่วนหนึ่งก็มาจากล็อคดาวน์โควิดด้วยหละมั้งครับ
เพราะเขาไม่เลื่อน หรือยืดเวลาทำให้ครับ เวลาทำ ป.เอก มีเท่าเดิม ไม่สนใจว่ามีล็อคดาวน์โควิด
แผนที่วางไว้เพี้ยนหมด เช่น นัดแล้วยกเลิก ต้องทำหนังสือจากมหาลัยใหม่ ลายเซ็นต์ล่าช้า ต้องไปยื่นคำร้อง-ไปรับหนังสือรับรอง โทรตามว่าได้หรือยัง ข้อมูลที่ขอจากหน่วยงานแล้วก็เลื่อนเพราะโควิดฯ ฯลฯ
ปัญหาใหญ่ คือ
ณ ตอนนั้น เพื่อนทำงานประจำโดยใช้วุฒิ ป.โท โควต้าทดลองงาน (สัญญาจ้างรายปี)
ต้องทำ ป.เอกให้เสร็จภายในโควต้าทำ ป.เอก
ถ้าเพื่อน ทำ ป.เอก เสร็จไม่ทัน คือ นอกจากเพื่อนจะเสียเวลาเรียน เสียค่าเรียนแล้ว เพื่อนก็จะตกงานด้วย เพราะงานที่เพื่อนทำ เขารับแค่วุฒิ ป.เอก
ต้องจบ ป.เอกเพื่อให้ได้งานประจำ (เขารับแล้ว แต่ต้องจบ ป.เอก)
ถ้าตกงานนี้ก็ต้องไปหางานใหม่ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะได้ที่ทำงานดีเท่าที่นี่ไหม เพราะที่ทำงานปัจจุบันก็มีชื่อเสียงระดับประเทศ ใครๆ ก็อยากทำที่นี่
ความยาก คือ
เพื่อนต้องรับผิดชอบงานประจำไปด้วย และทำทีสีส ป.เอกไปด้วยในเวลาที่จำกัดมากๆ (ประมาณ 1 ปี)
ฟังเพื่อนเล่าแล้ว ก็ดูสถานการณ์กดดันพอสมควร
เพื่อนเห็นว่าทำ ป.เอก ไม่ทันแน่ๆ จึงมาขอร้องให้ผมช่วยทำ ป.เอก เพราะจะหมดเวลาแล้ว
เพิ่งเริ่มไปได้แค่ 20% - 30% หมายความว่า ต้องทำส่วนที่เหลือโดยใช้เวลาแค่ประมาณไม่ถึง 1 ปี
ณ ตอนนั้น มองแบบความเป็นจริง โอกาสที่จะทำ ป.เอกจบ คือ ต่ำมากครับ
คือ ชั่วโมงนั้นผมยังคิดไม่ออกเลยว่าจะเริ่มยังไง เริ่มอันไหนก่อน ก็ค่อยๆ คิด ค่อยๆ แก้ปมไปทีละอย่างไปเรื่อยๆ
เหตุผล ที่ต้องเป็นผมช่วย
เพราะผมไม่ได้ทำงานประจำ และงานผมที่ทำอยู่ก็ค่อนข้างเป็นแนวแสตนด์บาย
ดังนั้น ไม่มีใครเหมาะไปกว่านี้แล้ว
เพื่อนผมก็พูดไปบ่นไปร้องไห้ไป ขอร้องให้ผมช่วย
ผมก็เลยรับปากช่วย
และผมก็ถือว่าเป็นการตอบแทนบุญคุณที่เพื่อนผมก็เคยช่วยผมมาก่อนเหมือนกัน (แม้ scale ความยาก ความเหนื่อยจะแตกต่างกันหลาย 100 เท่า เพราะเพื่อนผมช่วยผมไม่กี่วันแบบชิลๆ แต่ผมช่วยเกือบตลอดปี)
แล้วนิสัยผม คือ รับปากไปแล้วคือต้องทำตามที่พูดไว้
ส่วนที่ผมช่วยเพื่อนทำ ผมจะเป็นแนวมดงานครับ
- ช่วยคิดในเวลาที่เพื่อนตัน บางทีก็ทำแทนในส่วนนั้นให้เลย
- หาข้อมูลตามโจทย์
- หารูป ทำรูปตามโจทย์ ทำรูปโปรโมท ทำรูปประกอบ
- ช่วยพิมพ์ช่วงแรกๆ ประมาณ 40-50% ผมจะเป็นคนพิมพ์ (หลังๆ ข้อมูลค่อนข้างเฉพาะทางเพื่อนต้องพิมพ์เอง)
- ช่วยหาคนให้ไปช่วยงาน (งานเฉพาะทางมากๆ ครับ หาคนยาก ต้องใช้ connection ส่วนตัวด้วย) และเรื่องนี้ก็ทำให้ผมซวยไปด้วย เพราะเพื่อนก็ไปทำไม่ค่อยดีใส่คนที่ผมหาให้อีก ในทางเทคนิคแล้ว ผมก็โดนคนที่ผมแนะนำให้เพื่อนมองผมไม่ดีไปด้วย ผมทำได้แค่ปลง (ก็เข้าใจว่ามันเกิดขึ้นได้ เพราะเพื่อนน่าจะเครียดทีสีสอยู่)
- ไปเป็นเพื่อนเวลาหาข้อมูลบางอย่าง หรือไปในบางสถานที่ที่มันดูไม่น่าไปคนเดียว
- จัดรูปเล่ม (หลังจากข้อมูลครบแล้ว) ค่อนข้างจุกจิกเสียเวลามาก เพราะต้องพิมพ์ตามฟอร์แมตของเขา ต้องหาคำสั่งที่ไม่รู้จักใน microsoft word ด้วย ไหนจะต้องเรียงลำดับใส่เลขหน้าให้ถูก
เรื่องบางอย่างก็เป็นที่ผมเอง ที่ผมก็อาสาเองด้วยครับ (เพื่อนผมไม่ได้บอกให้ทำแต่ผมอาสาเอง) เพราะผมไม่ได้คิดอะไรมากครับ ผมคิดแค่ว่า ทำยังไงก็ได้ให้ทำ ป.เอกเสร็จให้เร็วที่สุด
เรื่องบางเรื่องค่อนข้างเทคนิคเฉพาะทาง ผมก็ไม่รู้หรอก แต่ผมก็ต้องไปอ่าน ต้องไปเรียนรู้จนทำเป็นครับ
ทั้งหมดนี้ก็ช่วยทำเกือบทุกวัน ตลอดเกือบ 1 ปี
บางวันอดหลับอดนอนทำให้ทั้งคืน เพื่อให้ทันกำหนดการณ์ เช่น ต้องทำแบบให้เสร็จทันไปส่งช่าง เพราะช่างมีคิวว่างให้แค่วันนั้น ฯลฯ
ส่วนใหญ่จะคุยงาน ทำงาน กันผ่านทางออนไลน์ครับ
แต่ถ้าวันไหนมีนัดคุยงานนัดเจอกัน เพื่อนก็เลี้ยงข้าว เลี้ยงข้าวแบบทั่วๆ ไปครับ
จะมีเลี้ยงมื้อใหญ่มื้อนึง ตอนทำ ป.เอกเสร็จ ก็ไม่ได้แพงมากอะไรหรอกครับ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะไม่เกิน 2,000
หลังจากเพื่อนเรียน ป.เอก จบ เพื่อนผมก็มีลงรูปทีสีสที่ทำเสร็จใน Facebook มีพิมพ์ขอบคุณคนนู้นคนนี้แต่ไม่มีชื่อผม
แล้วรูปบางรูปเป็นรูปผลงาน ก็ในทางเทคนิคเป็นฝีมือผมเกือบจะ 100% ก็มีคนมาชม แต่เพื่อนผมก็ไม่บอกว่าผมเป็นคนช่วยทำ (คนที่มาชมผมก็รู้จัก เพราะก็เพื่อนผมเหมือนกัน)
ตอนนี้ ผมก็ไม่ได้คิดอะไรมากครับ คิดแค่ว่า เห็นเพื่อนเรียนจบก็ดีใจด้วยสุดๆ
หลังจากเพื่อนทำ ป.เอกเสร็จ
ผมก็ไม่ได้คุยกับเพื่อนอีกเลย เพื่อนก็ไม่คุยกับผม ตอนแรกผมก็ไม่ได้คิดอะไรนะ เพื่อนคงไม่ว่าง
จนผ่านไปซักช่วง
จู่ๆ ผมก็อยากเห็นรูปเล่มทีสีส ป.เอกเพื่อน เพราะส่วนหนึ่งผมก็เป็นคน ช่วยพิมพ์ หารูป ทำรูป จัดรูปเล่ม ก็เลยลองเสิร์ชชื่อเพื่อนดู
แต่เล่ม .pdf ก็ยังไม่ขึ้นเว็บ
ผ่านไปหลายปี ประมาณต้นปีที่ผ่านมาเนี่ยแหละครับ ผมเห็นรูปเพื่อนใน facebook โผล่มา มันก็เลยทำให้ผมนึกขึ้นได้อีก
เลยเสิร์ชชื่อเพื่อน ปรากฏว่า คราวนี้เจอ .pdf แล้วครับ
ณ ตอนนั้น คือ ผมคิดแค่อยากเห็นผลงานที่ผมช่วยเพื่อนทำ แค่นี้จริงๆ ครับ ไม่ได้คิดอะไรเยอะ
ก็ไล่ดูทีละหน้า จนมาถึงหน้ากิตติกรรมประกาศ เห็นเพื่อนเขียนขอบคุณคนนู้นคุนนี้ ส่วนใหญ่ก็เป็นชื่อนักวิชาการ ครอบครัว แต่ไม่มีชื่อผมเลยอะ
ไม่ต้องเป็นชื่อผมก็ได้ เป็นแค่คำรวมๆ ก็ได้ เช่น เพื่อนที่ให้ความช่วยเหลือ
โอเคไม่มีในกิตติกรรมประกาศก็ได้ แต่ก็ไม่มีในช่องทางอื่นด้วยเหมือนกัน เช่น facebook
จากที่ตอนแรกไม่ได้คิดอะไรเลย มันกลายเป็นว่ามันค่อนข้างกวนใจผมมาซักพักละครับ
ประมาณว่า กวนใจนิดหน่อยนะครับ ไม่ได้กวนใจเยอะอะไรแบบนั้น แค่ผมรู้สึกว่าทำไมผมเลิกคิดไม่ได้แค่นั้นแหละครับ น่าจะออกแนวคาใจมั้งครับ
คือ รู้สึกไม่ดีหนะครับ
เพราะมันทำให้ผมคิดย้อนกลับ เหตุการณ์ที่ผมลืมไปแล้ว มันก็คือ เหตุการณ์ที่เพื่อนผมให้ผมช่วยหาคนเฉพาะทางไปทำงานให้
ซึ่งผมก็หาให้ด้วยความยากลำบาก กว่าจะถามมาได้ กว่าจะช่วยพูดให้มาทำงาน
แล้วเพื่อนผมไปทำไม่ดีใส่คนที่ผมหามา แล้วผมก็โดนคนที่ผมหามาเคืองใส่ตามไปด้วย
ผมก็ไม่น่า google เสิร์ช ทีสีสเพื่อน .pdf มาดูเลย พอเห็นแล้วมันกลายเป็นรู้สึกไม่ดี
รบกวนถามความเห็น
- ถ้าเพื่อนไม่ใส่ เครดิต หรือ คำขอบคุณ ไม่ว่าจะ facebok หรือ ในเล่มทีสีส จะซีเรียสไหมครับ
- ถ้าเป็นคุณ จะยังไงต่อครับ ถามไหม หรือว่า เฉยๆ จะช่างมันเถอะ พูดไปเสียเวลา ลืมๆ มันไปเหอะ
ขอบคุณครับ