สวัสดีค่ะดิฉัน นศ นริศยา
วันนี้จะมาเล่าประสบการการกลางเต้นรอบสึดท้ายให้ฟังค่ะ
#ต้องบอกไว้ก่อนว่าเนื้อหาเราพิมพ์ทั้งหมดส่วนตัวไม่ชอบมองว่าเขียนถูกไหมหากเขียนผิดขอโทษนะที่นี้ด้วยค่ะ
เรื่องราวนี้เกิดขึ้นเมื่อ6เดือนที่เเล้วมาจะมีอยู่ช่วงเดือนหนึ่งที่เขานิยมกลางเต้นกันค่ะ
ตอนนั้น จำได้ว่าไอเจ้าก้อยเพื่อนเราชวนเราไปเที่ยวกลางเต้นที่จังหวัดหนึ่ง ทางโซนภาคอีสาน
เรานัดและตกลงกันว่าจะเอารถเก๋ง4ประตูไปกัน
โดยที่เราไปก็จะมี เจ้าของคนเล่า ก้อย พิน
หญิงสองชาย1
โดยเราตกลงกันว่าจะนำรถของไอเจ้าพินไป
ต้องขอพูด ณ ที่นี้ก่อนเลยว่าพินเป็นผ.ช ที่เหมือนจะมี ในเรื่องซิกเซ้นส์ มาก เพราะทางบ้านพิน ทางคุณปู่เหมือนมีวิชา ทำให้พินพอรู้คาถาอ่ะไรอยู่บ้างค่ั
จนถึงเวลาที่เรานัดกันบ่าย3กว่าแต่กว่าจะมาถึงล้ไป5โมงง หลังจากพวกเราเตรียมอะไรเสร็จปุ้ปก็ออกเดินทาง ด้วยความสมัยนี้บางโซนบางพื้นที่ตามจังหวัดก็ไม่มีไฟตามทางถ้าจะมีก็บางจุดหรือง่ายๆเลยตามชุมชนเลยค่ะ
มันจะมีช่วงหนึ่งขาออกกทม .ช่วงนั้นข้างทางจะเป็นคูน้ำ ด้วยความมันมดมากมีแต่แสงไฟรถกับไฟนิดๆหน่อย ด้วยความที่เราชอบเมารถจึงเลือกจะไม่คุยกับใครเลือกที่จะนั่งมองกระจก
(ขอแทนว่าหนูนะคะ)
หนูก็นั่งสังเกตุตามต้นไม้ตูน้ำไปเรื่อย เห็นเป็นเงาคน อยู่กลางน้ำรูปร่างคล้ายผู้ชายแต่เห็นแค่ครึ่งตัวนะคะ รอบแรกหนูคิดว่าต้นไม้หรือไร แต่พอขับผ่านไปเรื่อยๆ ภาพที่หนูเห็นมันชัดๆขึ้น
แต่หนูตัดสินใจจะเงียบเพราะคิดว่ามันมืดอาจตาฟาด
พอขับรถได้มาถึงจังหวัดหนึ่งเอาจริงๆมันเป็นเรื่องปกติของคนเมารถมากที่จะมองข้างทาง
หนูมองไปเห็นบ้านหลังหนึ่ง เป็นหลังเดียวจริงๆไม่มีไฟถนนรอบๆข้างเป็นป่าเป็นทุ่งนา
หนูเห็นบ้านหลังนั้นเปิดไฟ มันทำให้สายตาหนูโฟไปที่ตรงนั้น ภาพที่หนูเห็นคือ ผ.ญคนหนึ่งแต่งชุดสมัยเก่าๆรูปร่างเขาสวยเลยทีเดียวแต่ขนาดตัวเขา หัวของผ.ญคนนั้นติดฝาผนังบ้านเลยค่ะ
เรามองนานมากจนรถขี่ผ่านจนพ้นสายตาบ้านนั้น
แล้วก็มีการจดพักรถค่ะตอนั้นด้วยความที่เจออะไรก็ไม่รู้ เลยไม่ลงไป เพื่อนหนูเลยตัดสินใจจะไปร้านสะดวกซื้อในปั้ม ค่ะซึ่งตอนนั้นหนูอยู่คนเดียวบนรถก็ไม่ได้เอะอ่ะไร แต่เวลาผ่านไปประมาณ40กว่านาที หนูก็แอบหงุดหงิดนะคะ โอสะตกลงกันแล้วว่าจะแค่ซื้อของ จนเพื่อน2คนมาขึ้นรถ หนูก็บ่นไปว่าไหนบอกแค่ซื้อของ แอบไผกินข้าวมาหรอ ถ้าแอบไปอย่สงน้อยควรถามหน่อยอะไรประมาณนี้
แต่ไอตัวเจ้าพิมบอกว่าไม่ได้กินมันไปซื้อของยืนรอก้อยเข้าห้องน้ำ ก่อนมันจะบนก้อยว่านาน
จู่ก้อยก็พูดขึ้นประมาณว่า กูก็ไม่ได้เข้านานนะ
แต่มันมีแม่ชี2คนอ่ะมาคุยด้วย
แถมให้กำไลมาให้ด้วยนะ
ก่อนที่พินจะบ่นก่อนขอดูกำไลนั้น พอมันดูไปซักพัก มันมองหน้าไอก้อย ก่อนจะด่าว่าฟิวแบบมีงนี้นะรับของใครมั่วซั่ว ก่อนจะชี้นิ้วไปตรงต่นไม้ใหญ่ๆ แล้วพูดว่าเห็นนั้นไหม เดินไปหน้าต้นไม้ แล้วพูดตามที่กูบอก หักกำไลทิ้งนำครึ่งนึงวางบนต้นไม้ครึ่งนึงให้เดินรอบต้นไม้1รอบ
ก่อนที่ก้อยจะเถียงด้วยความพิมมันเป็นคนถ้ามันด่าใครคือต้องงทำตามไม่งั้นนะยาก ก่อนที่มันจะเดินไปทำตามที่พินบอก
จนเวลาผ่านไปตี2กว่ามาได้เลยครึ่งทางแต่ด้วยความง่วงจึงจอดพัก
แต่ระหว่างทางไม่มีแม้แต่ปั้ม ก่อนที่จะเห็นศาลา รอรถที่ไฟสว่างมากจึงคุยกันว่าแบบนอนพักก่อนนะพน.ค่อยไปต่อลพตกเย็นกลางเต้นไรงี้
พอจอดนอนได้สีกพักไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์
จู่ๆจากไฟที่เคยสว่างก็กลายเป็นไฟติดๆดับๆแต่ด้วยความง่วงก็ไม่ได้คิดอ่ะไร จนเวลาผ่านไปตี2ครึ่งก้อยมันตื่นขึ้นก่อนจะปลุกเเล้วบ่นๆว่าใครมานั่งศาลาตอนนี่ว่ะ หนูกับพินตื่นขึ้นมาก่อนจะมองไปที่ชายคนนั้นก่อน ผู้ชายที่นั่งศาลาหักมายิ้มให้ก่อนจะเดินมาเคาะประตูข้างไอเจ้าก้อยก่อนก้อยจะเปิดกรพจกนิดๆเพื่อพูดคุย
จากที่จะบใจความได้ก็ประมาณว่าเหมือนลุงเขาผู้ภาษาถิ่น
ประมาณว่าหนูไปไหนหรอลุงติดรถไปได้ไหมอ่ะไรประมาณนี้ด้วยความมืดเราเลยบอกประมาณว่าหนูแแจ้งตำรวจให้ไหมคือพวกหนูก็ผ.ญ2ไม่สะดวกก็ลุงจะหันมายิ้มให้เจ้าตัวพินกว่าจะเหมือนคนลอยถอยหลังไป
ก่อนสีกพักจะมีเสียงบนหลังคารถก่อนจะมีหน้าลุงโผล่มาทางด้วยหน้าคอยกลิ้งเลื่อยลงมาก่อนจะมายืนฝั่งห่อนแล้วค่อยหัว หุบกระจกรถไปมาตอน
เดี๋ยวต่อ2นะคะ
ศาลาพักรถข้างทาง
วันนี้จะมาเล่าประสบการการกลางเต้นรอบสึดท้ายให้ฟังค่ะ
#ต้องบอกไว้ก่อนว่าเนื้อหาเราพิมพ์ทั้งหมดส่วนตัวไม่ชอบมองว่าเขียนถูกไหมหากเขียนผิดขอโทษนะที่นี้ด้วยค่ะ
เรื่องราวนี้เกิดขึ้นเมื่อ6เดือนที่เเล้วมาจะมีอยู่ช่วงเดือนหนึ่งที่เขานิยมกลางเต้นกันค่ะ
ตอนนั้น จำได้ว่าไอเจ้าก้อยเพื่อนเราชวนเราไปเที่ยวกลางเต้นที่จังหวัดหนึ่ง ทางโซนภาคอีสาน
เรานัดและตกลงกันว่าจะเอารถเก๋ง4ประตูไปกัน
โดยที่เราไปก็จะมี เจ้าของคนเล่า ก้อย พิน
หญิงสองชาย1
โดยเราตกลงกันว่าจะนำรถของไอเจ้าพินไป
ต้องขอพูด ณ ที่นี้ก่อนเลยว่าพินเป็นผ.ช ที่เหมือนจะมี ในเรื่องซิกเซ้นส์ มาก เพราะทางบ้านพิน ทางคุณปู่เหมือนมีวิชา ทำให้พินพอรู้คาถาอ่ะไรอยู่บ้างค่ั
จนถึงเวลาที่เรานัดกันบ่าย3กว่าแต่กว่าจะมาถึงล้ไป5โมงง หลังจากพวกเราเตรียมอะไรเสร็จปุ้ปก็ออกเดินทาง ด้วยความสมัยนี้บางโซนบางพื้นที่ตามจังหวัดก็ไม่มีไฟตามทางถ้าจะมีก็บางจุดหรือง่ายๆเลยตามชุมชนเลยค่ะ
มันจะมีช่วงหนึ่งขาออกกทม .ช่วงนั้นข้างทางจะเป็นคูน้ำ ด้วยความมันมดมากมีแต่แสงไฟรถกับไฟนิดๆหน่อย ด้วยความที่เราชอบเมารถจึงเลือกจะไม่คุยกับใครเลือกที่จะนั่งมองกระจก
(ขอแทนว่าหนูนะคะ)
หนูก็นั่งสังเกตุตามต้นไม้ตูน้ำไปเรื่อย เห็นเป็นเงาคน อยู่กลางน้ำรูปร่างคล้ายผู้ชายแต่เห็นแค่ครึ่งตัวนะคะ รอบแรกหนูคิดว่าต้นไม้หรือไร แต่พอขับผ่านไปเรื่อยๆ ภาพที่หนูเห็นมันชัดๆขึ้น
แต่หนูตัดสินใจจะเงียบเพราะคิดว่ามันมืดอาจตาฟาด
พอขับรถได้มาถึงจังหวัดหนึ่งเอาจริงๆมันเป็นเรื่องปกติของคนเมารถมากที่จะมองข้างทาง
หนูมองไปเห็นบ้านหลังหนึ่ง เป็นหลังเดียวจริงๆไม่มีไฟถนนรอบๆข้างเป็นป่าเป็นทุ่งนา
หนูเห็นบ้านหลังนั้นเปิดไฟ มันทำให้สายตาหนูโฟไปที่ตรงนั้น ภาพที่หนูเห็นคือ ผ.ญคนหนึ่งแต่งชุดสมัยเก่าๆรูปร่างเขาสวยเลยทีเดียวแต่ขนาดตัวเขา หัวของผ.ญคนนั้นติดฝาผนังบ้านเลยค่ะ
เรามองนานมากจนรถขี่ผ่านจนพ้นสายตาบ้านนั้น
แล้วก็มีการจดพักรถค่ะตอนั้นด้วยความที่เจออะไรก็ไม่รู้ เลยไม่ลงไป เพื่อนหนูเลยตัดสินใจจะไปร้านสะดวกซื้อในปั้ม ค่ะซึ่งตอนนั้นหนูอยู่คนเดียวบนรถก็ไม่ได้เอะอ่ะไร แต่เวลาผ่านไปประมาณ40กว่านาที หนูก็แอบหงุดหงิดนะคะ โอสะตกลงกันแล้วว่าจะแค่ซื้อของ จนเพื่อน2คนมาขึ้นรถ หนูก็บ่นไปว่าไหนบอกแค่ซื้อของ แอบไผกินข้าวมาหรอ ถ้าแอบไปอย่สงน้อยควรถามหน่อยอะไรประมาณนี้
แต่ไอตัวเจ้าพิมบอกว่าไม่ได้กินมันไปซื้อของยืนรอก้อยเข้าห้องน้ำ ก่อนมันจะบนก้อยว่านาน
จู่ก้อยก็พูดขึ้นประมาณว่า กูก็ไม่ได้เข้านานนะ
แต่มันมีแม่ชี2คนอ่ะมาคุยด้วย
แถมให้กำไลมาให้ด้วยนะ
ก่อนที่พินจะบ่นก่อนขอดูกำไลนั้น พอมันดูไปซักพัก มันมองหน้าไอก้อย ก่อนจะด่าว่าฟิวแบบมีงนี้นะรับของใครมั่วซั่ว ก่อนจะชี้นิ้วไปตรงต่นไม้ใหญ่ๆ แล้วพูดว่าเห็นนั้นไหม เดินไปหน้าต้นไม้ แล้วพูดตามที่กูบอก หักกำไลทิ้งนำครึ่งนึงวางบนต้นไม้ครึ่งนึงให้เดินรอบต้นไม้1รอบ
ก่อนที่ก้อยจะเถียงด้วยความพิมมันเป็นคนถ้ามันด่าใครคือต้องงทำตามไม่งั้นนะยาก ก่อนที่มันจะเดินไปทำตามที่พินบอก
จนเวลาผ่านไปตี2กว่ามาได้เลยครึ่งทางแต่ด้วยความง่วงจึงจอดพัก
แต่ระหว่างทางไม่มีแม้แต่ปั้ม ก่อนที่จะเห็นศาลา รอรถที่ไฟสว่างมากจึงคุยกันว่าแบบนอนพักก่อนนะพน.ค่อยไปต่อลพตกเย็นกลางเต้นไรงี้
พอจอดนอนได้สีกพักไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์
จู่ๆจากไฟที่เคยสว่างก็กลายเป็นไฟติดๆดับๆแต่ด้วยความง่วงก็ไม่ได้คิดอ่ะไร จนเวลาผ่านไปตี2ครึ่งก้อยมันตื่นขึ้นก่อนจะปลุกเเล้วบ่นๆว่าใครมานั่งศาลาตอนนี่ว่ะ หนูกับพินตื่นขึ้นมาก่อนจะมองไปที่ชายคนนั้นก่อน ผู้ชายที่นั่งศาลาหักมายิ้มให้ก่อนจะเดินมาเคาะประตูข้างไอเจ้าก้อยก่อนก้อยจะเปิดกรพจกนิดๆเพื่อพูดคุย
จากที่จะบใจความได้ก็ประมาณว่าเหมือนลุงเขาผู้ภาษาถิ่น
ประมาณว่าหนูไปไหนหรอลุงติดรถไปได้ไหมอ่ะไรประมาณนี้ด้วยความมืดเราเลยบอกประมาณว่าหนูแแจ้งตำรวจให้ไหมคือพวกหนูก็ผ.ญ2ไม่สะดวกก็ลุงจะหันมายิ้มให้เจ้าตัวพินกว่าจะเหมือนคนลอยถอยหลังไป
ก่อนสีกพักจะมีเสียงบนหลังคารถก่อนจะมีหน้าลุงโผล่มาทางด้วยหน้าคอยกลิ้งเลื่อยลงมาก่อนจะมายืนฝั่งห่อนแล้วค่อยหัว หุบกระจกรถไปมาตอน
เดี๋ยวต่อ2นะคะ