ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังคงดอกเบี้ยตามคาดที่อัตรา 4.25% ถึง 4.50% ชี้ปีนี้ลดแค่ 2 ครั้งเช่นเคย แต่ส่งสัญญาณถึงความเข้มงวดมากขึ้นโดยการปรับลดประมาณการเศรษฐกิจลงเหลือ 1.7% ปีนี้
วันที่ 19 มีนาคม 2025 เวลา 14.00 น. ตามเวลา EDT สหรัฐอเมริกา ซึ่งตรงกับเวลา 01.00 น. วันที่ 20 มีนาคม ตามเวลาประเทศไทย ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) เผยผลการประชุมตัดสินใจนโยบายการเงินว่า ที่ประชุมมีมติเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่อัตรา 4.25% ถึง 4.50% ตามคาด
แถลง FMOC
แถลงการณ์ของ FOMC ระบุว่า “ตัวชี้วัดล่าสุดชี้ให้เห็นว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจมีการขยายตัวในอัตราที่มั่นคง อัตราการว่างงานมีเสถียรภาพและอยู่ในระดับต่ำ การจ้างงานยังคงแข็งแกร่ง อัตราเงินเฟ้อยกระดับขึ้นเล็กน้อย”
“คณะกรรมการพยายามที่จะบรรลุเป้าหมายการจ้างงานสูงสุดและเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อที่อัตรา 2% ในระยะยาว ขณะที่แนวโน้มเศรษฐกิจมีความไม่แน่นอนเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งคณะกรรมการนั้นมุ่งให้ความสำคัญกับความเสี่ยงทั้งสองด้านของภารกิจคู่ขนาน (Dual Mandate)”
เพื่อสนับสนุนเป้าหมายดังกล่าว คณะกรรมการจึงตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่อัตรา 4.25% ถึง 4.50%
“ในการประเมินจุดยืนที่เหมาะสมของนโยบายการเงิน คณะกรรมการจะติดตามผลกระทบของข้อมูลแนวโน้มเศรษฐกิจที่เข้ามาใหม่อย่างต่อเนื่อง คณะกรรมการจะเตรียมปรับจุดยืนของนโยบายการเงินตามความเหมาะสม หากเกิดความเสี่ยงที่อาจขัดขวางการบรรลุเป้าหมายของคณะกรรมการ การประเมินของคณะกรรมการจะพิจารณาข้อมูลที่หลากหลาย รวมถึงข้อมูลสภาวะตลาดแรงงาน แรงกดดันด้านเงินเฟ้อ และการคาดการณ์เงินเฟ้อ และพัฒนาการด้านการเงินและด้านการระหว่างประเทศ” ถ้อยแถลงของเฟดระบุ
Dot Plot ชี้ลด 2 ครั้งเหมือนเดิม
ใน Dot Plot ของเฟด ซึ่งเป็นการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยที่ผู้กำหนดนโยบายแต่ละคนคิดว่าเหมาะสม ส่งสัญญาณว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้ ครั้งละ 0.25% สอดคล้องกับคาดการณ์ครั้งก่อนในเดือนธันวาคม 2024
โดยมีเจ้าหน้าที่ 2 คนจากทั้งหมด 19 คนเห็นควรปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ขึ้นไป ขณะที่อีก 4 คนมองว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง ส่งสัญญาณถึงท่าทีที่เข้มงวดมากขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2024
คาดการณ์ดอกเบี้ย-เศรษฐกิจ
ในการประชุมครั้งนี้ FOMC มีกำหนดเผยแพร่คาดการณ์ตัวเลขสำคัญ ประกอบด้วยคาดการณ์อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจ อัตราว่างงาน อัตราเงินเฟ้อจากดัชนีราคารายจ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE inflation) และอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐ
สำหรับคาดการณ์อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐ มีค่ากลาง (median) ของคาดการณ์อยู่ที่อัตรา 1.7% ในปีนี้ ลดลงจาก 2.1% ที่ประมาณการไว้ครั้งก่อนในเดือนธันวาคม 2024 และคงระดับที่ 1.8% ในปี 2026 และ 2027 ซึ่งถูกปรับลงจากเดิมเช่นกัน
อัตราเงินเฟ้อจากดัชนีราคารายจ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE inflation) แตะระดับ 2.7% ในปีนี้ สูงกว่าที่ประมาณการไว้เมื่อเดือนธันวาคมที่ 2.5% ก่อนจะชะลอตัวลงเหลือ 2.2% ในปี 2026 และ 2.0% ในปี 2027
นอกจากนี้ เฟดยังปรับเพิ่มประมาณการอัตราการว่างขึ้นเป็น 4.4% ปีนี้ สูงกว่าประมาณการครั้งก่อนที่ 4.3% ซึ่งคาดว่าจะลดลงเหลือ 4.3% ในปี 2026 และคงระดับต่อไปจนปี 2027...
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ :
https://www.prachachat.net/world-news/news-1776521
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นในวันพุธ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐคงอัตราดอกเบี้ยไว้ไม่เปลี่ยนแปลงตามที่คาดไว้ ขณะราคาทองคำยังคงทำสถิตินิวไฮต่อเนื่อง
ธนาคารกลางคงอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานไว้ไม่เปลี่ยนแปลงในช่วง 4.25%-4.50% และระบุว่ามีแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 จุดในไตรมาสในปลายปีนี้ ซึ่งเป็นค่ากลางที่คาดการณ์ไว้ในระดับเดียวกันกับเมื่อ 3 เดือนก่อน เฟดยังคาดการณ์ว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจจะชะลอตัวลงและอัตราเงินเฟ้อยังคงสูงขึ้น
นักลงทุนยังคงประเมินว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยลงอย่างน้อยสองครั้งที่ 25 จุดพื้นฐานในเดือนธันวาคม โดยมีโอกาส 62.2% ในการปรับลดอย่างน้อย 25 จุดในเดือนมิถุนายน ตามข้อมูลที่รวบรวมโดย LSEG
ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (.DJI) เพิ่มขึ้น 383.32 จุด หรือ 0.92% ปิดที่ 41,964.63 จุด
ส่วน S&P 500 (.SPX) เพิ่มขึ้น 60.63 จุด หรือ 1.08% ปิดที่ 5,675.29 จุด
และดัชนี Nasdaq Composite (.IXIC) เพิ่มขึ้น 246.67 จุด หรือ 1.41% สู่ 17,750.79 จุด
ราคาน้ำมันขยับขึ้นในวันพุธ หลังจากที่ข้อมูลของรัฐบาลสหรัฐฯ แสดงให้เห็นว่าสต็อกน้ำมันเชื้อเพลิงลดลง รวมถึงการตัดสินใจของธนาคารกลางสหรัฐที่จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้
ราคาน้ำมันดิบเบรนต์ล่วงหน้า เพิ่มขึ้น 22 เซนต์หรือ 0.31% สู่ระดับ 70.78 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบ West Texas Intermediate (WTI) ของสหรัฐปิด 26 เซนต์หรือ 0.39% สูงขึ้นที่ 67.16 ดอลลาร์
ราคาทองคำพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันพุธ หลังการแถลงของประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ ในขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐคงอัตราดอกเบี้ยไว้ตามที่คาดการณ์ไว้ แต่ส่งสัญญาณว่าต้นทุนการกู้ยืมอาจลดลงครึ่งหนึ่งภายในสิ้นปีนี้
ราคาทองสปอตเพิ่มขึ้น 0.5% สู่ระดับ 3,047.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากแตะระดับสูงสุดตลอดกาลที่ 3,051.99 ดอลลาร์ในช่วงต้นการซื้อขาย
สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าของสหรัฐฯ ส่วนใหญ่ไม่เปลี่ยนแปลงที่ 3,041.20 ดอลลาร์
เฟดคงดอกเบี้ย ตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวก ทองทำนิวไฮต่อ
วันที่ 19 มีนาคม 2025 เวลา 14.00 น. ตามเวลา EDT สหรัฐอเมริกา ซึ่งตรงกับเวลา 01.00 น. วันที่ 20 มีนาคม ตามเวลาประเทศไทย ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) เผยผลการประชุมตัดสินใจนโยบายการเงินว่า ที่ประชุมมีมติเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่อัตรา 4.25% ถึง 4.50% ตามคาด
แถลง FMOC
แถลงการณ์ของ FOMC ระบุว่า “ตัวชี้วัดล่าสุดชี้ให้เห็นว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจมีการขยายตัวในอัตราที่มั่นคง อัตราการว่างงานมีเสถียรภาพและอยู่ในระดับต่ำ การจ้างงานยังคงแข็งแกร่ง อัตราเงินเฟ้อยกระดับขึ้นเล็กน้อย”
“คณะกรรมการพยายามที่จะบรรลุเป้าหมายการจ้างงานสูงสุดและเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อที่อัตรา 2% ในระยะยาว ขณะที่แนวโน้มเศรษฐกิจมีความไม่แน่นอนเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งคณะกรรมการนั้นมุ่งให้ความสำคัญกับความเสี่ยงทั้งสองด้านของภารกิจคู่ขนาน (Dual Mandate)”
เพื่อสนับสนุนเป้าหมายดังกล่าว คณะกรรมการจึงตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่อัตรา 4.25% ถึง 4.50%
“ในการประเมินจุดยืนที่เหมาะสมของนโยบายการเงิน คณะกรรมการจะติดตามผลกระทบของข้อมูลแนวโน้มเศรษฐกิจที่เข้ามาใหม่อย่างต่อเนื่อง คณะกรรมการจะเตรียมปรับจุดยืนของนโยบายการเงินตามความเหมาะสม หากเกิดความเสี่ยงที่อาจขัดขวางการบรรลุเป้าหมายของคณะกรรมการ การประเมินของคณะกรรมการจะพิจารณาข้อมูลที่หลากหลาย รวมถึงข้อมูลสภาวะตลาดแรงงาน แรงกดดันด้านเงินเฟ้อ และการคาดการณ์เงินเฟ้อ และพัฒนาการด้านการเงินและด้านการระหว่างประเทศ” ถ้อยแถลงของเฟดระบุ
Dot Plot ชี้ลด 2 ครั้งเหมือนเดิม
ใน Dot Plot ของเฟด ซึ่งเป็นการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยที่ผู้กำหนดนโยบายแต่ละคนคิดว่าเหมาะสม ส่งสัญญาณว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้ ครั้งละ 0.25% สอดคล้องกับคาดการณ์ครั้งก่อนในเดือนธันวาคม 2024
โดยมีเจ้าหน้าที่ 2 คนจากทั้งหมด 19 คนเห็นควรปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ขึ้นไป ขณะที่อีก 4 คนมองว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง ส่งสัญญาณถึงท่าทีที่เข้มงวดมากขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2024
คาดการณ์ดอกเบี้ย-เศรษฐกิจ
ในการประชุมครั้งนี้ FOMC มีกำหนดเผยแพร่คาดการณ์ตัวเลขสำคัญ ประกอบด้วยคาดการณ์อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจ อัตราว่างงาน อัตราเงินเฟ้อจากดัชนีราคารายจ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE inflation) และอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐ
สำหรับคาดการณ์อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐ มีค่ากลาง (median) ของคาดการณ์อยู่ที่อัตรา 1.7% ในปีนี้ ลดลงจาก 2.1% ที่ประมาณการไว้ครั้งก่อนในเดือนธันวาคม 2024 และคงระดับที่ 1.8% ในปี 2026 และ 2027 ซึ่งถูกปรับลงจากเดิมเช่นกัน
อัตราเงินเฟ้อจากดัชนีราคารายจ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE inflation) แตะระดับ 2.7% ในปีนี้ สูงกว่าที่ประมาณการไว้เมื่อเดือนธันวาคมที่ 2.5% ก่อนจะชะลอตัวลงเหลือ 2.2% ในปี 2026 และ 2.0% ในปี 2027
นอกจากนี้ เฟดยังปรับเพิ่มประมาณการอัตราการว่างขึ้นเป็น 4.4% ปีนี้ สูงกว่าประมาณการครั้งก่อนที่ 4.3% ซึ่งคาดว่าจะลดลงเหลือ 4.3% ในปี 2026 และคงระดับต่อไปจนปี 2027...
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.prachachat.net/world-news/news-1776521