บทความนี้แปลจากข้อมูล ที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ของ [
THR] ณ วันที่ 12 มีนาคม ค.ศ. 2025, ตามเวลาต่างประเทศ
เมื่อ 5 ปีก่อน การรีบูตภาพยนตร์เรื่อง 'สโนว์ไวท์' ของดิสนีย์ เป็นไลฟ์แอ็กชั่น
ที่นำแสดงโดย เรเชล เซกเลอร์ (Rachel Zegler) และกัล กาด็อท ดูทรงคงใช่ โปรเจ็กต์ที่ไม่ควรพลาด
แต่การทำผิดพลาด ด้านประชาสัมพันธ์, ร่วมกับกระแสต่อต้าน การตื่นรู้ (anti-woke outrage)
อาจส่งผลให้ การทำตลาด ของภาพยนตร์เรื่องนี้, กลายเป็นแอปเปิลอาบพิษ
สโนว์ไวท์ของดิสนีย์ ยังไม่ฉาย ตามโรงภาพยนตร์ จนกว่าวันที่ 21 มีนาคม (ในไทยวันที่ 20)
แต่สำหรับทีมงานของ เจ้าบ้านแห่งมิกกี้เมาส์, วันดังกล่าว ดูจะมาถึง ช้ากว่าที่ควรเป็น
ภาพยนตร์คนแสดง แบบเน้นตัวละครหญิง ซึ่งสร้างใหม่โดยอิง
หนังแอนิเมชั่นคลาสสิก ปี 1937 ของวอลต์ ดิสนีย์ ที่เคยได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม
ถูกวิพากษ์วิจารณ์ บนโซเชียลมีเดีย, มาหลายต่อหลายปี
เนื่องมาจาก แนวทางสร้างผลงาน สไตล์หัวก้าวหน้าจ๋า
ร่วมกับการแสดงความเห็น ที่ก่อให้เกิดการโต้แย้ง, ของเรเชล เซกเลอร์
นอกจากนี้ หนังยังถูกโจมตี ด้วยสงครามวัฒนธรรม
อันมาดมั่นตั้งเป้าว่า จะบ่อนทำลายภาพยนตร์, ที่เห็นกันจะ ๆ ว่ามาสาย "ตื่นรู้" (woke)
ด้วยเหตุนี้ ดิสนีย์จึงเปิดตัวภาพยนตร์, โดยวิธีที่ค่อนข้าง เฉพาะตัวอยู่บ้าง
ข่าวที่ออกมา เมื่อต้นสัปดาห์นี้, ระบุว่าดิสนีย์ กำลังดำเนินการขั้นต่อไป
ในการจัดเวที สำหรับรอบปฐมทัศน์โลก ของภาพยนตร์, ณ ลอสแองเจลิส วันที่ 15 มีนาคม
แม้ว่างานดังกล่าว เปล่าถูก ปรับลดขนาดลง, ตามที่สื่อบางสำนักอ้าง
แต่ทางสตูดิโอ ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชน เดินพรมแดงเข้าร่วมงาน
เพื่อป้องกันไม่ให้เซกเลอร์ และกัล กาด็อต, ผู้รับบทราชินี แห่งความชั่วร้าย ตอบคำถามอะไรทันที
(ทางสตูดิโอมีจุดยืน ว่าอยากเลือก "อีเวนท์ช่วงบ่าย ที่เน้นการเฉลิมฉลอง และเหมาะสำหรับครอบครัว มากกว่า
เพื่อให้เข้ากับโทน และกลุ่มเป้าหมาย ของภาพยนตร์")
สโนว์ไวท์ ไม่ใช่ภาพยนตร์เรื่องแรก, ที่จำกัด การเข้าถึงพรมแดง
วอร์เนอร์บราเธอร์ส ก็เคยทำแบบเดียวกัน ในการฉายรอบปฐมทัศน์โลกของ The Flash
อันนำแสดงโดย เอซรา มิลเลอร์, ผู้ถูกกล่าวหา ว่าก่อความผิดทางอาญาหลายครั้ง
สำหรับกรณีเซกเลอร์ เธอสร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์ บนโซเชียลมีเดีย
จากสารพัดคอมเมนต์ ที่มีทั้งการตำหนิ ภาพยนตร์ต้นฉบับ, สนับสนุนปาเลสไตน์, และว่าร้ายโดนัลด์ ทรัมป์
ขณะเดียวกัน กาด็อตก็กลายเป็นบุคคล ที่สร้างความแตกแยก ในโซเชียลมีเดีย
เนื่องจากนักแสดงสาว ชาวอิสราเอล, ออกมากล่าวสนับสนุน ประเทศบ้านเกิดของตน
ตั้งแต่เกิดการโจมตี โดยกลุ่มฮามาส เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม
หลังจากที่เธอปรากฏตัว ในงานออสการ์, ก็มีข่าวลือ ที่ไม่มีมูลความจริง
แพร่สะพัด ทางออนไลน์, ว่าดารานำหนัง Wonder Woman
ปฏิเสธที่จะ มอบรางวัลสารคดียอดเยี่ยม, ให้กับภาพยนตร์ปาเลสไตน์เรื่อง No Other Land
(ตัวแทนของเธอ แจ้งว่า, หล่อนไม่เคย ได้รับคำเชิญเลย)
นอกจากนี้ ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ไม่ได้ ฉายรอบปฐมทัศน์ ณ สหราชอาณาจักร (บริเตน) ตามแบบฉบับปกติ
แต่เซกเลอร์ — ที่คือผู้ชนะการคัดตัวดารา ให้รับบทมาเรีย ในเรื่อง West Side Story ของสตีเวน สปีลเบิร์ก —
จะมาแสดงหน้าปราสาท ในเมืองเซโกเวีย ประเทศสเปน
ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจ ให้กับปราสาท ในอนิเมต้นฉบับ (Snow White and the Seven Dwarfs) ของดิสนีย์
อย่างไรก็ตาม ก่อนข่าวการฉายรอบปฐมทัศน์ ณ ลอสแองเจลิสจะมาถึง
ก็มีกระแสเล่าลือ ว่าดิสนีย์แอบ กระอักกระอ่วน, เกี่ยวกับตัวหนังสโนว์ไวท์
เจ้าของโรงภาพยนตร์รายหนึ่ง และแหล่งข่าวจากสตูดิโอคู่แข่ง กล่าวว่า
กลไกการตลาด ขนาดใหญ่เบิ้มของดิสนีย์ เสียงเครื่องเงียบผิดปกติ, มาจนกระทั่ง เมื่อไม่นานนี้
โดยระบุว่า การขายตั๋วล่วงหน้า ไม่ได้เริ่มต้น จนถึงวันจันทร์
ซึ่งเท่ากับ เหลือไม่ถึง 2 สัปดาห์, ก่อนที่ภาพยนตร์จะออกฉาย
ในช่วงไม่กี่ปี ที่ผ่านมา โปรเจ็กต์ภาพยนตร์ครอบครัว ไลฟ์แอ็กชั่นหลายเรื่อง จากสตูดิโอนี้
มักเปิดให้จองที่ อย่างน้อย 1 เดือน, ก่อนปล่อยเข้าฉาย
รวมถึงมูฟาซา: เดอะไลอ้อนคิง ของคริสต์มาสปีที่แล้ว และโปรเจ็กต์หนังซัมเมอร์ปี 2023 อย่างเดอะลิตเติ้ลเมอร์เมด
--ยังไม่หมด จากที่แปลมา--
เบื้องหลังปัญหาของ Snow White แห่งค่ายดิสนีย์: "พวกเขาต้องจัดการเรื่องนี้ ให้จบ ๆ ไป" (by Filmaneo)