รายงานของ Land Watch and EEC Watch ระบุว่า ทุนจีนที่เข้ามากว้านซื้อที่ดินไทย เป็นกลุ่มเดียวกับทุนจีนที่ทำธุรกิจ ‘ล้งทุเรียน’
โดยทุนจีนมักเลือกซื้อที่ดินใกล้แหล่งน้ำ เพื่อลดความเสี่ยงจากวิกฤตภัยแล้ง และไม่นิยมซื้อที่ดินที่มีโฉนด หรือ น.ส.3 เพราะที่ดินมีราคาแพง
ทุนจีนจึงเลือกซื้อที่ดินไม่มีเอกสารสิทธิ์ ซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นพื้นที่ป่าสงวน
.
กว้านซื้อที่ดิน ‘คนไทย’ ปลูกทุเรียน ‘คนจีน’
นอกจากล้งจีนที่ขยายตัวในไทยต่อเนื่อง ปัจจุบัน ทุนจีนเริ่มนิยมซื้อ ‘ที่ดินสวนทุเรียน’ มากขึ้น นั่นเพราะหากคนจีนเป็นเจ้าของสวนเสียเอง
นอกจากรีบประกันว่าจะมีผลผลิตเข้าสู้ล้งจีนเป็นจำนวนตามที่ต้องการแล้ว ยังสามารถทำกำไรได้มหาศาลอีกด้วย เพราะสามารถกำหนดราคา
ส่งออกได้ในราคาที่สูงได้นั่นเอง ข้อมูลจาก Land Watch and EEC Watch พบว่า จากการสำรวจ 4 อำเภอ (คือแก่งหางแมว เขาคิชฌกูฏ
มะขาม และนายายอาม) พบว่า ที่ดินส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ไม่มีเอกสารสิทธิ์ ทำให้ที่ดินราคาถูก โดยสวนทุเรียนคนจีนที่สำรวจพบ
จะมีจุดสังเกตคือ มีรูปหมูภาษาจีนติดไว้ที่หน้าสวน, สวนมีลักษณะรั้วรอบขอบชิด ไม่มีบ้านคนอาศัย, มีการใช้เทคโนโลยีเกษตรมากกว่าสวนทุเรียนไทยทั่วไป เช่น โดรนฉีดพ่นยา สปริงเกอร์ฝอยรดน้ำทั่งวัน ฯลฯ
.
ทุนจีน มีวิธีเข้ามาครอบครองสวนทุเรียนไทย 2 รูปแบบคือ
1. ซื้อที่ดินมีโฉนด ผ่านนอมินีคนไทย หรือซื้อในนามบริษัทที่เป็นนอมินีของทุนจีน
2. ซื้อที่ดินแบบผิดกฎหมาย ได้แก่ ซื้อที่ดินในพื้นที่ป่าสงวนฯ ผ่านนอมินีคนไทย
.
ตัวอย่างการสำรวจ
1. หมู่ 10 ตำบลพวา อำเภอแก่งหางแมว จันทบุรี พบแปลงสวนทุเรียนจีนราว 100 ไร่ มีรั้วรอบขอบชิด มีกล้องวงจรปิด ซื้อโดยนอมินีคนไทย
ทำสัญญาซื้อผิดกฎหมาย เพราะที่ดินนี้อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ไม่สามารถซื้อขายได้
.
2. ตำบลขุนซ่อง อำเภอแก่งหางแมว จันทบุรี ที่ดินแปลงนี้มีขนาด 300 ไร่ เดิมเป็นสวนปาล์มน้ำมัน ครอบครองโดย ‘เสี่ยมอม้า’
ตั้งอยู่บริเวณใต้อ่างเก็บน้ำคลองหางแมว และมีคลองหางแมวไหลผ่านพื้นที่ (ทำให้สวนได้รับน้ำจากอ่างเก็บน้ำตลอดทั้งปี) ปัจจุบัน
ที่ดินนี้กำลังทยอยทำเป็นสวนทุเรียน ถือครองที่ดินโดยทุนจีน
.
3. หมู่ 5 อำเภอพวา อำเภอแก่งหางแมว จันทบุรี พบว่า มีความพยายามครอบครองที่ดินของทุนจีน โดยบริษัทนอมินีขอเช่าที่ดินป่าสงวนแห่งชาติ
จากกรมป่าไม้ บริเวณที่เรียกว่า ‘สวนยางธีรพงษ์ 5’ พื้นที่ประมาณ 1,377 ไร่ โดยก่อนหน้านี้ บริษัทแกรนด์รับเบอร์ได้ขอเช่าที่ดินจากกรมป่าไม้
เป็นเวลา 30 ปีเพื่อปลูกยางพารา และเพิ่งหมดสัญญาไปเมื่อวันที่ 8 ก.พ. 2567 ต่อมามีบริษัทนอมินีของทุนจีน 2 บริษัท ได้ทำเรื่องขอเช่าที่ดิน
เพื่อปลูกทุเรียน ชาวบ้านในพื้นที่จึงได้ทำการตรวจสอบและพบว่า บริษัทดังกล่าวเป็นนอมินีของทุนจีนจริง ชาวบ้านจึงร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการที่ดิน
สภาผู้แทนราษฎร และผู้ตรวจการแผ่นดิน จากการตรวจสอบปรากฏว่า มีหลายประเด็นที่กรมป่าไม้ไม่สามารถชี้แจงได้ชัดเจน จึงขอให้ชะลอเรื่องนี้ไว้
นี่จึงเป็นตัวอย่างที่ชัดเจน ที่สะท้อนถึงความพยายามของทุนจีนในการครอบครองที่ดินเพื่อปลูกทุเรียน ด้วยการเช่าที่ดินราคาถูกจากรัฐบาล
.
4. ตำบลห้วยทับ ด้านข้างโรงเรียนบ้านน้ำกร่อย อำเภอเขาชะเมา จังหวัดระยอง พบว่า ที่ดินราว 150 ไร่ เดิมทีเป็นสวนยางพาราเพิ่งถูกโค่นไป
ไม่นาน และกำลังปรับพื้นที่ให้เรียบ ที่ดินนี้ไม่มีเอกสารสิทธิ์ แต่มีการถือครองที่ดินผ่านนอมินี (ไม่ทราบชื่อ) โดยทุนจีนเลือกซื้อสวนทุเรียนติดคลองน้ำ
เพื่อไม่ให้ขาดแคลนน้ำในหน้าแล้ง
.
5. สวนทุเรียนในอำเภอแกลง จังหวัดระยอง พบว่า ทุนจีนพยายามซื้อที่ดินที่มีเอกสารสิทธิ์ เช่น โฉนดที่ดิน หรือ น.ส.3 ส่วนมากเป็นสวนทุเรียนเก่า
โดยมีนอมินีจีนรายใหญ่ของอำเภอ คือ กำนัน ต. ซึ่งเป็นผู้ปลูกทุเรียนรายใหญ่ของระยองและเป็นผู้มีอิทธิพลคนหนึ่งของจังหวัด
(นอมินีคนนี้ปัจจุบันดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งหนึ่งด้วย) โดยกำนัน ต. ถือครองสวนทุเรียนแทนคนจีนประมาณ 900 กว่าไร่
รายงานของ Land Watch and EEC Watch ยังเปิดเผยข้อมูลจากประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์แห่งหนึ่งในจังหวัดจันทบุรี
ว่าในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ได้รับการติดต่อจากเจ้าของล้งจีน ให้มาช่วยออกแบบสวนทุเรียนและร่วมทำสวนทุเรียน โดยการแบ่งเปอร์เซ็นต์กัน
รวมพื้นที่ไม่ต่ำกว่า 10,000 ไร่ สะท้อนให้เห็นว่า ทุนจีนได้เข้ามากว้านซื้อที่ดินและควบคุมกลไกตลาดทุเรียน จากเดิมที่เป็นแค่พ่อค้าคนกลาง
แต่อยากมาเป็นผู้ผลิตเองด้วย ทำให้เกษตรกรรายย่อยค่อยๆ สูญเสียที่ดินทำกินไปเรื่อยๆ จนคาดว่าจะเกิดปัญหาอื่นตามมาในอนาคต.
.
วิธีการซื้อที่ดินคือ
1. มีนายหน้าคนไทยโพสต์ซื้อที่ดินในกลุ่มเฟซบุ๊กซื้อขายที่ดิน เช่น หาซื้อที่ดินเปล่า หรือสวนทุเรียน เนื้อที่ 100 ไร่ขึ้นไป ที่ดินติดแหล่งน้ำ เป็นต้น
2. จากนั้นจะมีนายหน้าคนไทยเข้ามาตอบ แจ้งว่าที่ดินอยู่ไหน พร้อมเบอร์โทร
3. คนจีนหรือตัวแทนจะลงไปดูพื้นที่ หากถูกใจก็จะซื้อเลย
4. มีบางเฟซบุ๊กที่คนจีนใช้ชื่อคนไทยเป็นอวตาร แต่จริงๆ แล้วเป็นคนจีนที่โพสต์หาซื้อที่ดินเอง ซึ่งจะทำให้ได้ที่ดินราคาถูกลง ไม่ต้องหักเปอร์เซ็นต์
ให้ค่านายหน้า
จีนเทา! กว้านซื้อที่ดินไทย ปลูกทุเรียนขายส่งจีน!