พ่อนายก "ผุดไอเดียซื้อหนี้ประชาชนคืนหมด ล้างเครติดบูโร" OMG! ขอเถอะอย่าให้เกิดขึ้นจริง

“ปัญหาหนี้สินครัวเรือนเยอะเหลือเกิน ทำอย่างไรจะให้หนี้คนไทยลดลงได้
ผมก็ได้คิดดังๆ ว่า ย้ำว่าแค่คิดดังๆ ยังไม่ได้ทำ เราคิดว่าต่อไปเราจะซื้อหนี้ทั้งหมดของประชาชนออกจากระบบธนาคารดีไหม แล้วให้ประชาชนค่อยๆ ผ่อน แล้วไม่ต้องชำระเต็มจำนวน มีโอกาสเริ่มต้นชีวิตใหม่ ยกออกจากเครดิตบูโรให้หมด ให้เป็นคนบริสุทธิ์ผุดผ่อง ทำมาหากินใหม่ สิ่งเหล่านี้ไม่ต้องใช้เงินรัฐบาล... เพราะว่าผมสามารถที่จะให้เอกชนลงทุน วันนี้รัฐบาลเป็นหนี้เยอะ เราเข้ามาหนี้ก็บานตะไทแล้ว จะขยับอะไรทีก็เป็นหนี้ไปหมด เราต้องสร้างหนี้ให้น้อยที่สุด แล้วก็สร้างโอกาสให้คนไทยมากที่สุด พูดง่ายแต่ทำยาก แต่ต้องทำ เพราะฉะนั้นสิ่งที่พูด นายกฯพูด พรรคเพื่อไทยพูด ทำแน่นอน แต่ทำวันนี้มันไม่เหมือนสมัยอยู่ไทยรักไทย เพราะพรรคเรามีขนาดเล็กลง มีรัฐมนตรีที่ดูแลกระทรวงน้อยลง รัฐมนตรีผสมทำงานด้วยกันไม่คล่องตัว พยายามทั้งนวดทั้งบีบให้ช่วยทำงานหน่อย พ่อมหาจำเริญช่วยทำงานหน่อยเถอะ” นายทักษิณกล่าว...

เครดิตข้อความข่าวจาก : มิติชนออนไลน์

......................................................................................................

โดยความเห็นส่วนตัว คิดว่าควรพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนเดินหน้าแนวทางนี้ เพราะหากประกาศแนวคิดซื้อหนี้ประชาชนออกจากระบบธนาคาร อาจส่งผลให้ประชาชนบางส่วนเลือกที่จะไม่ชำระหนี้ที่มีอยู่ในปัจจุบัน เพราะคาดหวังว่ารัฐจะเข้ามาช่วยล้างหนี้ให้ สุดท้ายอาจทำให้ปัญหาหนี้สินลุกลามมากขึ้น

สิ่งที่รัฐบาลควรให้ความสำคัญในช่วงนี้ คือการ ลดภาระค่าใช้จ่ายพื้นฐานของประชาชน เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ แก๊ส น้ำมันเชื้อเพลิง และค่าขนส่งสาธารณะ รวมถึงการ ควบคุมราคาสินค้าอุปโภคบริโภคให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เพื่อลดภาระค่าครองชีพของประชาชนโดยตรง
ในส่วนของปัญหาหนี้สิน ควรมีการ เจรจากับธนาคารและสถาบันการเงินเพื่อหาทางออกที่เป็นธรรม ธนาคารเองก็ต้องบริหารความเสี่ยงและทำกำไร แต่ในภาวะที่ประชาชนจำนวนมากอยู่ในภาวะลำบาก การเรียกเก็บหนี้แบบเข้มงวดเกินไป อาจทำให้เกิดหนี้เสียในระบบมากขึ้น และสุดท้ายก็ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวม แนวทางที่เป็นไปได้คือการ ปรับโครงสร้างหนี้ ลดดอกเบี้ย ขยายระยะเวลาผ่อนชำระ หรือมีมาตรการช่วยเหลือเฉพาะกลุ่มอย่างทั่วถึงตามความเหมาะสม ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนมีโอกาสฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ โดยไม่เป็นภาระหนักต่อภาครัฐจนเกินไป

แต่ไม่อยากให้เป็นลักษณะ "คุณสู้ เราช่วย" เพราะแม้โครงการจะดี แต่ช่วยเหลือเฉพาะกลุ่มลูกหนี้ NPL เท่านั้น ขณะที่ กลุ่มลูกหนี้ที่ยังจ่ายหนี้ตรงเวลา แต่ชีวิตอยู่ในภาวะยากลำบาก กลับไม่ได้รับการสนับสนุนใด ๆ ซึ่งไม่เป็นธรรมรัฐควรมีมาตรการช่วยเหลือที่ครอบคลุมทั้งสองกลุ่ม เพราะหากเลือกปฏิบัติ อาจก่อให้เกิดข้อครหาเรื่อง ความไม่เสมอภาคและความเหลื่อมล้ำ ได้ สุดท้ายอาจทำให้ลูกหนี้ที่ยังจ่ายดีในปัจจุบันตัดสินใจ เทหนี้ ในอนาคต เนื่องจากเห็นว่าการผิดนัดชำระได้รับประโยชน์มากกว่าการจ่ายตรงเวลา ซึ่งจะเป็นปัญหาระยะยาวต่อระบบการเงินของประเทศได้

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่