โรม ท้า ทักษิณ แน่จริงประกาศออกสื่อ เป็นคนสาธารณะ พร้อมให้ตรวจสอบ อย่าปล่อยนั่งร้านแย่งซีนป้องนาย
https://www.matichon.co.th/politics/news_5089659
โรม ท้า ทักษิณ แน่จริงประกาศออกสื่อ เป็นคนสาธารณะ พร้อมให้ตรวจสอบ อย่าปล่อยนั่งร้านแย่งซีนป้องนาย ซัด สุทิน ทำตัวเป็นโรนัลโดแห่งสภาฯ มาสั่งสอน ฝ่ายค้าน
เมื่อเวลา 09.40 น. วันที่ 13 มีนาคม ที่รัฐสภา นาย
รังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในการอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 ว่า ตนมั่นใจว่ามีการอภิปรายแน่นอน แต่จากที่เห็นจะเห็นว่าญัตติการอภิปรายของพรรคฝ่ายค้านที่มีการใส่ชื่อ นาย
ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเข้ามานั้น เราก็เห็นผู้ประท้วงคนแรกแล้ว แม้จะยังไม่ได้เริ่มต้นอภิปราย ยืนยันว่าเราไม่ต้องมาเถียงกันเรื่องกฎเกณฑ์กติกากันอีกแล้ว ไม่ว่าจะเป็นญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจไม่เหมือนกับญัตติทั่วไป อะไรก็ตาม ในระบบรัฐสภามีกฎเกณฑ์เรื่องการควบคุมอยู่
นาย
รังสิมันต์ กล่าวต่อว่า ยืนยันว่า เราไม่ได้ทำผิด แต่เป็นการใช้อำนาจโดยพละการของประธานสภาผู้แทนราษฎร ในการที่จะบังคับพวกเราให้ถอนชื่อนายทักษิณออก โดยหากไม่ถอนชื่อนายทักษิณออกก็จะไม่ให้อภิปราย โดยตั้งใจว่าภายในวันนี้จะมีการไปพูดคุยกับประธานสภาผู้แทนราษฎรในเรื่องนี้ ส่วนการเตรียมความพร้อมของตนนั้น ขณะนี้ก็กำลังเตรียมอยู่ และยืนยันว่าสัปดาห์ที่จะเริ่มต้นหรือช่วงวันที่ 24 มีนาคมนั้น จะได้เห็นการอภิปรายของตนแน่นอน
“
ผู้ที่ประท้วงคนแรกวันนี้แม้จะอยู่ในฝ่ายรัฐบาลแต่ก็ไม่ได้ทำหน้าที่ส.ส.ทั่วไป หรือไม่ได้เป็นรัฐมนตรี แต่กลับเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรที่ประท้วงคนแรก ฉะนั้น ผมคิดว่าเราจะเห็นบรรยากาศแล้วว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ ก็อาจจะเป็นไปได้ว่าการแตะต้องนายทักษิณนั้น คงมีแรงต้านจากฝั่งรัฐบาลที่สูง ซึ่งก็แปลกประหลาดมาก ท่านเองอยากมีส่วนร่วมในการบริหารราชการแผ่นดินในหลายเรื่อง แต่ที่ผ่านมาเรากลับไม่เคยได้ยินนายกรัฐมนตรีพูดถึงวิสัยทัศน์หรือทิศทางของบ้านเมืองอะไรเลย ได้ยินแต่คุณทักษิณ ขณะเดียวกันการที่ฝ่ายค้านจะตรวจสอบนายกรัฐมนตรี และอาจมีการผูกโยงให้เห็นภาพว่านายทักษิณอาจเข้ามาเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ แม้จะไม่ได้เป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจโดยตรงคุณทักษิณ แต่กลับกลายเป็นว่าทุกฝ่ายมีแรงต้านมา ซึ่งคงต้องถามกลับไปที่คุณทักษิณว่าคุณทักษิณนั้นเข้าไปเกี่ยวข้องกับการบัญชาการเรื่องนี้หรือไม่ หรือคุณทักษิณสามารถพูดแฟร์ๆ ออกสื่อได้เลยว่าสามารถพาดพิงได้ ผมพร้อม ผมเป็นคนสาธารณะที่สามารถตรวจสอบได้ หากท่านพูดแฟร์ๆ แบบนี้บรรดานั่งร้านทั้งหลายก็จะได้ไม่ต้องมาใช้เวทีนี้ในการเอาซีนปกป้องนาย และจะสามารถทำให้ฝ่ายค้านนั้นสามารถทำหน้าที่ได้มากกว่า” นาย
รังสิมันต์ กล่าว
เมื่อถามว่า มีการพาดพิงจากพรรคเพื่อไทย (พท.) ว่าหากฝ่ายค้านไม่อภิปรายนาย
ทักษิณก็จะไม่มีเรื่องอภิปรายเลย นาย
รังสิมันต์ กล่าวว่า ตนคิดว่าเป็นวิธีการของพรรค พท.ที่พยายามทำตัวเหนือกว่าคนอื่น พยายามทำตัวเหมือนสั่งสอน แต่ตัวเอง ก็ไม่ได้มีคุณค่าหรือความสามารถอะไรที่จะมาสั่งสอนคนอื่นได้ ถามว่าตอนที่พรรค พท.กับพรรคก้าวไกลในขณะนั้นเป็นฝ่ายค้านร่วมกัน การอภิปรายของพรรค พท.ในเวลานั้น มันดีจนเป็นที่น่าจดจำหรือไม่ ก็ไม่
นาย
รังสิมันต์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ หากไปดู นาย
สุทิน คลังแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท.ที่ออกมาพูดราวกับสอนนั้น พูดกี่ชั่วโมง แล้วถามว่ามีเนื้อหาเท่าไหร่ ก็นิดเดียว แต่กลับพูดราวกับว่าตัวเองเก่งแน่ ราวกับนี่คือมหัศจรรย์ นี่คือโรนัลโดแห่งสภาฯ ตนคิดว่าอย่าประเมินตัวเองสูงเกินไป ขอให้รอดูการทำหน้าที่ของฝ่ายค้านและยืนยันว่าการทำหน้าที่ของเราไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของน้ำท่วมทุ่ง แต่อยู่บนพื้นฐานของเนื้อหาสาระ การทำหน้าที่ของเราในครั้งนี้เราเตรียมตัวมาดี และเรายังมีอีกหลายคนที่เป็นหมากเด็ดแน่นอน สิ่งที่ไม่คาดว่าจะได้เห็นก็จะได้เห็น
เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านจะต้องระวังเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายทักษิณมากขึ้นหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เราอยากให้ประชาชนรู้ความจริงมากที่สุด เราจึงพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุด จะหากต้องมาระมัดระวังเพื่อให้ความจริงไม่ประจักษ์ต่อประชาชน นั่นไม่ใช่พรรค ปชน. ยืนยันว่าหากเรื่องไหนที่นายทักษิณเข้าไปเกี่ยว เราก็จะอภิปราย แต่ไม่ได้เป็นการอภิปรายโดยตรง ยืนยันว่านี่คือการทำหน้าที่ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลโดยในกรณีคือนายกรัฐมนตรี หากต้องมีองค์ประกอบคือคนนั้นคนนี้เข้ามาเกี่ยวข้อง ก็มีความจำเป็น
“
ถามว่าการทุจริตคอรัปชั่นนายกรัฐมนตรีทำได้คนเดียวหรือ ต้องมีบุคคลภายนอก ฉะนั้น ผมคิดว่าวันนี้สถานการณ์ของพรรคเพื่อไทยทำตัวเป็นคนที่แกล้งไม่เข้าใจ ไม่รู้แกล้งหรือไม่ แต่ตัวท่านเองก็เข้าใจ เพราะเคยอภิปรายไม่ไว้วางใจและมีการพาดพิงบุคคลภายนอกไม่ได้น้อยไปกว่าพวกเรา แต่วันนี้พอตัวเองต้องมาอยู่ในบทนี้ ก็พยายามตีฆ้องร้องเปล่า เขียนเสือให้วัวกลัว ทำตัวราวกลับว่าเป็นพระอรหันต์ แต่ขอโทษเถอะ พอไปดูเนื้อหาสาระไม่มีเลย” นาย
รังสิมันต์ กล่าว
เมื่อถามว่า พร้อมใช่หรือไม่ที่หากอภิปรายแล้วอาจจะมีการฟ้องร้องเกิดขึ้น นาย
รังสิมันต์ กล่าวว่า ตนพร้อมยืน 3 ชั่วโมงในการอภิปราย ส่วนเรื่องการฟ้องหมิ่นประมาทนั้น ตนถูกฟ้องดำเนินคดีมาเยอะแล้ว ซึ่งก็ไม่สามารถควบคุมหรือห้ามให้ใครมาฟ้องได้ แต่การทำหน้าที่ของตนคือการทำหน้าที่เพื่อประชาชน ทำหน้าที่เหมือนเป็นวันสุดท้ายเสมอ
นาย
รังสิมันต์ กล่าวต่อว่า ดังนั้น จึงทำหน้าที่อย่างเต็มที่จะมีคนฟ้องก็ห้ามไม่ได้ วันนี้เราเจอความท้าทายเรื่องกระบวนการยุติธรรมมากมาย ได้แต่วิงวอนว่าอย่างน้อยเมื่อฝ่ายค้านได้ทำหน้าที่ ขอให้ความยุติธรรมกับคนเหล่านี้บ้าง ประเทศจะได้มีความทัดทานไม่ให้ทุกอย่างแย่ไปกว่านี้ และเชื่อว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ถ้าทำอย่างนั้นประธานสภาฯ จะต้องแบกรับผลลัพธ์ทางกฎหมาย วันนี้คงหาทางออกกันได้
สส.พรรคประชาชน ยื่นเสนอร่างกฎหมายที่พักเท่าเทียม
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_854143/
สส.พรรคประชาชน ยื่นเสนอร่างกฎหมายที่พักเท่าเทียม ปลดล็อคให้โรงแรมขนาดเล็ก โฮสเทล และ แอร์บีเอ็นบี จดทะเบียนเป็นที่พักได้ ชูจุดเด่นกระจายอำนาจให้ท้องถิ่นเป็นผู้ออกระเบียบ และออกใบอนุญาต
สส.พรรคประชาชน นำโดยนายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร และนายณัฐพล โตวิจักษณ์ชัยกุล แถลงเตรียมเสนอร่าง พ.ร.บ.โรงแรมและสถานที่พักค้างคืน หรือ “ร่างกฎหมายที่พักเท่าเทียม” เพื่อปลดล็อกให้ โรงแรมขนาดเล็ก,โฮสเทล และ Airbnb สามารถจดทะเบียนเป็นที่พักได้ถูกต้องตามกฎหมาย ลดความเหลื่อมล้ำกับโรงแรมขนาดใหญ่
ทั้งนี้ เหตุผลที่เสนอร่างกฎหมายนี้ คือ กฎหมายโรงแรมปัจจุบันล้าสมัยและเป็นอุปสรรคต่อผู้ประกอบการรายย่อย โดยผู้ประกอบการขนาดเล็กต้องทำตามเกณฑ์เดียวกับโรงแรมใหญ่ ซึ่งไม่เป็นธรรมจึงต้องการเพิ่มการแข่งขัน ลดการผูกขาดของโรงแรมขนาดใหญ่
ส่วนจุดเด่นของร่างกฎหมาย จะให้ท้องถิ่นมีอำนาจออกระเบียบและออกใบอนุญาต แทนส่วนกลาง การลดข้อจำกัดในการจดทะเบียน โดยยังคงมาตรฐานความปลอดภัย ส่วนรายได้จากค่าธรรมเนียมตกเป็นของท้องถิ่นเพื่อนำไปพัฒนาสาธารณูปโภค ทั้งนี้ รัฐสามารถตรวจสอบจำนวนที่พักขนาดเล็กได้ง่ายขึ้น เพื่อช่วยเหลือในกรณีภัยพิบัติ ขณะเดียวกัน มองว่า แม้โรงแรมขนาดใหญ่อาจไม่เห็นด้วย แต่กลุ่มลูกค้าของที่พักขนาดเล็กและใหญ่แตกต่างกัน และการเปิดโอกาสให้ที่พักขนาดเล็กจดทะเบียนได้ จะส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ
ผู้ประกันตน อึ้ง! เว็บโครงการ ม.33เรารักกัน ลงทะเบียนรับเงินช่วงโควิด กลายเป็นเว็บเงินกู้
https://www.matichon.co.th/social/news_5089217
ผู้ประกันตน อึ้ง! เว็บโครงการ ม.33เรารักกัน ลงทะเบียนรับเงินช่วงโควิด กลายเป็นเว็บเงินกู้
เมื่อปี 2564 ที่ผ่านมา กระทรวงแรงงาน โดยนาย
สุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในขณะนั้น ได้เคาะมาตรการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ตามโครงการ มาตรา 33 เรารักกัน
โดยเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2564 คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบ โครงการ ม.33เรารักกัน เมื่อวันที่ โดยรัฐบาลจะจ่ายเยียวยาผู้ได้รับสิทธิคนละ 4,000 บาท พร้อมเปิดให้ลงทะเบียนได้ตั้งแต่ 21 กุมภาพันธ์ – 7 มีนาคมผ่านเว็บ “
www.ม33เรารักกัน.com” โดยเว็บไซต์ให้กรอกข้อมูลเลขบัตรประชาชน 13 หลัก ชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิดต่างๆ และข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อขอรับเงิน 4,000 บาท
ล่าสุด ในเดือนมีนาคม ปี 2568 “
ประกันสังคม” ถูกนำมาวิพากษ์วิจารณ์อีกครั้ง หลัง
ไอซ์ รักชนก ศรีนอก ส.ส. กรุงเทพมหานคร พรรคประชาชน (ปชน.) ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ ได้ออกมาโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว สรุปผลงานกิจกรรม #Hackงบประกันสังคม เนื้อหาระบุถึงการบริหารจัดการงบประมาณบางส่วน ของ สำนักงานประกันสังคม (สปส.) ส่อไม่โปร่งใส? เช่น ทริปดูงานของประกันสังคม ใช้งบสูงถึง 2.2 ล้านบาท งบคอลเซ็นเตอร์ 100 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังมีค่าตอบแทนประจำปีในปี 65-66 สูงถึง 100 ล้านบาท และยังมีรายจ่ายจิปาถะมากมายที่ใช้งบประมาณมากเกินพอดี อาทิ ค่าจัดทำปฏิทิน ค่าประชาสัมพันธ์ที่ใช้งบกว่า 336 ล้านบาททุกปี พร้อมแล้วเงินที่ส่งเข้ากองทุนในแต่ละเดือนถูกนำไปใช้ในทางที่ถูกที่ควรหรือไม่ ก่อนที่ สปส.ออกมาชี้แจงประเด็นดังกล่าวทันที
กระแสวิจารณ์เป็นไปอย่างร้อนแรง ยังมีการเรียกร้องให้ ปรับเพดานคนเกษียณ ม.39 ที่ส่อไปเป็นธรรม จนล่าสุด บอร์ดประกันสังคม ที่มีมติรับหลักการพิจารณาปรับสูตรบำนาญให้กับผู้ประกันตนทุกมาตรา โดยใช้เป็นสูตร CARE (Career-Average Revalued Earnings) หรือ “
เฉลี่ยตลอดการทำงาน ปรับเป็นค่าเงินปัจจุบัน” เรียบร้อยแล้ว
ล่าสุดเมื่อวันที่ 11 มีนาคม น.ส.
รักชนก ศรีนอก ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคประชาชน และนาย
สหัสวัต คุ้มคง ส.ส.ชลบุรี พรรคประชาชน ร่วมแถลงข่าว “
แฉเสียดฟ้า กองทุนประกันสังคมจงใจลงทุนผิดพลาด เพื่อเอื้อผลประโยชน์พวกพ้องหรือไม่” โดยมีการตั้งข้อสังเกตในการซื้ออสังหาริมทรัพย์ ย่านพระราม 9 ระบุว่าประกันสังคมซื้อมาในราคาประมาณ 7,000 ล้านบาท ในขณะที่ราคาประเมินอยู่ที่ 3,000 ล้านบาท และมีการตั้งคำถามว่าเอื้อประโยชน์ใครหรือไม่นั้น
ก่อนที่ นาย
สุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และอดีต รมว.แรงงาน ในขณะนั้น ออกมาชี้แจงว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และไม่รู้ใครเป็นเจ้าของ
ทำให้ “
ประกันสังคม” กลายเป็นประเด็นที่สังคมให้ความสนใจตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา พร้อมกับตั้งคำถามว่า นโยบายต่างๆที่ผ่านมานั้น ดำเนินการอย่างโปร่งใสหรือไม่ จนมีคนไปตรวจสอบพบว่า เว็บ “
www.ม33เรารักกัน.com” ที่เปิดดำเนินการเมือปี 2564 ปัจจุบันกลายเป็นเว็บให้กู้เงิน!
JJNY : โรมท้าทักษิณ│ยื่นเสนอร่างกม.ที่พักเท่าเทียม│ อึ้ง! เว็บม.33เรารักกันกลายเป็นเว็บเงินกู้│ “ปูติน”สั่งขับทหารยูเครน
https://www.matichon.co.th/politics/news_5089659
โรม ท้า ทักษิณ แน่จริงประกาศออกสื่อ เป็นคนสาธารณะ พร้อมให้ตรวจสอบ อย่าปล่อยนั่งร้านแย่งซีนป้องนาย ซัด สุทิน ทำตัวเป็นโรนัลโดแห่งสภาฯ มาสั่งสอน ฝ่ายค้าน
เมื่อเวลา 09.40 น. วันที่ 13 มีนาคม ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในการอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 ว่า ตนมั่นใจว่ามีการอภิปรายแน่นอน แต่จากที่เห็นจะเห็นว่าญัตติการอภิปรายของพรรคฝ่ายค้านที่มีการใส่ชื่อ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเข้ามานั้น เราก็เห็นผู้ประท้วงคนแรกแล้ว แม้จะยังไม่ได้เริ่มต้นอภิปราย ยืนยันว่าเราไม่ต้องมาเถียงกันเรื่องกฎเกณฑ์กติกากันอีกแล้ว ไม่ว่าจะเป็นญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจไม่เหมือนกับญัตติทั่วไป อะไรก็ตาม ในระบบรัฐสภามีกฎเกณฑ์เรื่องการควบคุมอยู่
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า ยืนยันว่า เราไม่ได้ทำผิด แต่เป็นการใช้อำนาจโดยพละการของประธานสภาผู้แทนราษฎร ในการที่จะบังคับพวกเราให้ถอนชื่อนายทักษิณออก โดยหากไม่ถอนชื่อนายทักษิณออกก็จะไม่ให้อภิปราย โดยตั้งใจว่าภายในวันนี้จะมีการไปพูดคุยกับประธานสภาผู้แทนราษฎรในเรื่องนี้ ส่วนการเตรียมความพร้อมของตนนั้น ขณะนี้ก็กำลังเตรียมอยู่ และยืนยันว่าสัปดาห์ที่จะเริ่มต้นหรือช่วงวันที่ 24 มีนาคมนั้น จะได้เห็นการอภิปรายของตนแน่นอน
“ผู้ที่ประท้วงคนแรกวันนี้แม้จะอยู่ในฝ่ายรัฐบาลแต่ก็ไม่ได้ทำหน้าที่ส.ส.ทั่วไป หรือไม่ได้เป็นรัฐมนตรี แต่กลับเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรที่ประท้วงคนแรก ฉะนั้น ผมคิดว่าเราจะเห็นบรรยากาศแล้วว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ ก็อาจจะเป็นไปได้ว่าการแตะต้องนายทักษิณนั้น คงมีแรงต้านจากฝั่งรัฐบาลที่สูง ซึ่งก็แปลกประหลาดมาก ท่านเองอยากมีส่วนร่วมในการบริหารราชการแผ่นดินในหลายเรื่อง แต่ที่ผ่านมาเรากลับไม่เคยได้ยินนายกรัฐมนตรีพูดถึงวิสัยทัศน์หรือทิศทางของบ้านเมืองอะไรเลย ได้ยินแต่คุณทักษิณ ขณะเดียวกันการที่ฝ่ายค้านจะตรวจสอบนายกรัฐมนตรี และอาจมีการผูกโยงให้เห็นภาพว่านายทักษิณอาจเข้ามาเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ แม้จะไม่ได้เป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจโดยตรงคุณทักษิณ แต่กลับกลายเป็นว่าทุกฝ่ายมีแรงต้านมา ซึ่งคงต้องถามกลับไปที่คุณทักษิณว่าคุณทักษิณนั้นเข้าไปเกี่ยวข้องกับการบัญชาการเรื่องนี้หรือไม่ หรือคุณทักษิณสามารถพูดแฟร์ๆ ออกสื่อได้เลยว่าสามารถพาดพิงได้ ผมพร้อม ผมเป็นคนสาธารณะที่สามารถตรวจสอบได้ หากท่านพูดแฟร์ๆ แบบนี้บรรดานั่งร้านทั้งหลายก็จะได้ไม่ต้องมาใช้เวทีนี้ในการเอาซีนปกป้องนาย และจะสามารถทำให้ฝ่ายค้านนั้นสามารถทำหน้าที่ได้มากกว่า” นายรังสิมันต์ กล่าว
เมื่อถามว่า มีการพาดพิงจากพรรคเพื่อไทย (พท.) ว่าหากฝ่ายค้านไม่อภิปรายนายทักษิณก็จะไม่มีเรื่องอภิปรายเลย นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตนคิดว่าเป็นวิธีการของพรรค พท.ที่พยายามทำตัวเหนือกว่าคนอื่น พยายามทำตัวเหมือนสั่งสอน แต่ตัวเอง ก็ไม่ได้มีคุณค่าหรือความสามารถอะไรที่จะมาสั่งสอนคนอื่นได้ ถามว่าตอนที่พรรค พท.กับพรรคก้าวไกลในขณะนั้นเป็นฝ่ายค้านร่วมกัน การอภิปรายของพรรค พท.ในเวลานั้น มันดีจนเป็นที่น่าจดจำหรือไม่ ก็ไม่
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ หากไปดู นายสุทิน คลังแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท.ที่ออกมาพูดราวกับสอนนั้น พูดกี่ชั่วโมง แล้วถามว่ามีเนื้อหาเท่าไหร่ ก็นิดเดียว แต่กลับพูดราวกับว่าตัวเองเก่งแน่ ราวกับนี่คือมหัศจรรย์ นี่คือโรนัลโดแห่งสภาฯ ตนคิดว่าอย่าประเมินตัวเองสูงเกินไป ขอให้รอดูการทำหน้าที่ของฝ่ายค้านและยืนยันว่าการทำหน้าที่ของเราไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของน้ำท่วมทุ่ง แต่อยู่บนพื้นฐานของเนื้อหาสาระ การทำหน้าที่ของเราในครั้งนี้เราเตรียมตัวมาดี และเรายังมีอีกหลายคนที่เป็นหมากเด็ดแน่นอน สิ่งที่ไม่คาดว่าจะได้เห็นก็จะได้เห็น
เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านจะต้องระวังเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายทักษิณมากขึ้นหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เราอยากให้ประชาชนรู้ความจริงมากที่สุด เราจึงพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุด จะหากต้องมาระมัดระวังเพื่อให้ความจริงไม่ประจักษ์ต่อประชาชน นั่นไม่ใช่พรรค ปชน. ยืนยันว่าหากเรื่องไหนที่นายทักษิณเข้าไปเกี่ยว เราก็จะอภิปราย แต่ไม่ได้เป็นการอภิปรายโดยตรง ยืนยันว่านี่คือการทำหน้าที่ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลโดยในกรณีคือนายกรัฐมนตรี หากต้องมีองค์ประกอบคือคนนั้นคนนี้เข้ามาเกี่ยวข้อง ก็มีความจำเป็น
“ถามว่าการทุจริตคอรัปชั่นนายกรัฐมนตรีทำได้คนเดียวหรือ ต้องมีบุคคลภายนอก ฉะนั้น ผมคิดว่าวันนี้สถานการณ์ของพรรคเพื่อไทยทำตัวเป็นคนที่แกล้งไม่เข้าใจ ไม่รู้แกล้งหรือไม่ แต่ตัวท่านเองก็เข้าใจ เพราะเคยอภิปรายไม่ไว้วางใจและมีการพาดพิงบุคคลภายนอกไม่ได้น้อยไปกว่าพวกเรา แต่วันนี้พอตัวเองต้องมาอยู่ในบทนี้ ก็พยายามตีฆ้องร้องเปล่า เขียนเสือให้วัวกลัว ทำตัวราวกลับว่าเป็นพระอรหันต์ แต่ขอโทษเถอะ พอไปดูเนื้อหาสาระไม่มีเลย” นายรังสิมันต์ กล่าว
เมื่อถามว่า พร้อมใช่หรือไม่ที่หากอภิปรายแล้วอาจจะมีการฟ้องร้องเกิดขึ้น นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตนพร้อมยืน 3 ชั่วโมงในการอภิปราย ส่วนเรื่องการฟ้องหมิ่นประมาทนั้น ตนถูกฟ้องดำเนินคดีมาเยอะแล้ว ซึ่งก็ไม่สามารถควบคุมหรือห้ามให้ใครมาฟ้องได้ แต่การทำหน้าที่ของตนคือการทำหน้าที่เพื่อประชาชน ทำหน้าที่เหมือนเป็นวันสุดท้ายเสมอ
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า ดังนั้น จึงทำหน้าที่อย่างเต็มที่จะมีคนฟ้องก็ห้ามไม่ได้ วันนี้เราเจอความท้าทายเรื่องกระบวนการยุติธรรมมากมาย ได้แต่วิงวอนว่าอย่างน้อยเมื่อฝ่ายค้านได้ทำหน้าที่ ขอให้ความยุติธรรมกับคนเหล่านี้บ้าง ประเทศจะได้มีความทัดทานไม่ให้ทุกอย่างแย่ไปกว่านี้ และเชื่อว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ถ้าทำอย่างนั้นประธานสภาฯ จะต้องแบกรับผลลัพธ์ทางกฎหมาย วันนี้คงหาทางออกกันได้
สส.พรรคประชาชน ยื่นเสนอร่างกฎหมายที่พักเท่าเทียม
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_854143/
ผู้ประกันตน อึ้ง! เว็บโครงการ ม.33เรารักกัน ลงทะเบียนรับเงินช่วงโควิด กลายเป็นเว็บเงินกู้
https://www.matichon.co.th/social/news_5089217
ผู้ประกันตน อึ้ง! เว็บโครงการ ม.33เรารักกัน ลงทะเบียนรับเงินช่วงโควิด กลายเป็นเว็บเงินกู้
เมื่อปี 2564 ที่ผ่านมา กระทรวงแรงงาน โดยนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในขณะนั้น ได้เคาะมาตรการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ตามโครงการ มาตรา 33 เรารักกัน
โดยเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2564 คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบ โครงการ ม.33เรารักกัน เมื่อวันที่ โดยรัฐบาลจะจ่ายเยียวยาผู้ได้รับสิทธิคนละ 4,000 บาท พร้อมเปิดให้ลงทะเบียนได้ตั้งแต่ 21 กุมภาพันธ์ – 7 มีนาคมผ่านเว็บ “www.ม33เรารักกัน.com” โดยเว็บไซต์ให้กรอกข้อมูลเลขบัตรประชาชน 13 หลัก ชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิดต่างๆ และข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อขอรับเงิน 4,000 บาท
ล่าสุด ในเดือนมีนาคม ปี 2568 “ประกันสังคม” ถูกนำมาวิพากษ์วิจารณ์อีกครั้ง หลัง ไอซ์ รักชนก ศรีนอก ส.ส. กรุงเทพมหานคร พรรคประชาชน (ปชน.) ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดทำและติดตามการบริหารงบประมาณ ได้ออกมาโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว สรุปผลงานกิจกรรม #Hackงบประกันสังคม เนื้อหาระบุถึงการบริหารจัดการงบประมาณบางส่วน ของ สำนักงานประกันสังคม (สปส.) ส่อไม่โปร่งใส? เช่น ทริปดูงานของประกันสังคม ใช้งบสูงถึง 2.2 ล้านบาท งบคอลเซ็นเตอร์ 100 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังมีค่าตอบแทนประจำปีในปี 65-66 สูงถึง 100 ล้านบาท และยังมีรายจ่ายจิปาถะมากมายที่ใช้งบประมาณมากเกินพอดี อาทิ ค่าจัดทำปฏิทิน ค่าประชาสัมพันธ์ที่ใช้งบกว่า 336 ล้านบาททุกปี พร้อมแล้วเงินที่ส่งเข้ากองทุนในแต่ละเดือนถูกนำไปใช้ในทางที่ถูกที่ควรหรือไม่ ก่อนที่ สปส.ออกมาชี้แจงประเด็นดังกล่าวทันที
กระแสวิจารณ์เป็นไปอย่างร้อนแรง ยังมีการเรียกร้องให้ ปรับเพดานคนเกษียณ ม.39 ที่ส่อไปเป็นธรรม จนล่าสุด บอร์ดประกันสังคม ที่มีมติรับหลักการพิจารณาปรับสูตรบำนาญให้กับผู้ประกันตนทุกมาตรา โดยใช้เป็นสูตร CARE (Career-Average Revalued Earnings) หรือ “เฉลี่ยตลอดการทำงาน ปรับเป็นค่าเงินปัจจุบัน” เรียบร้อยแล้ว
ล่าสุดเมื่อวันที่ 11 มีนาคม น.ส.รักชนก ศรีนอก ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคประชาชน และนายสหัสวัต คุ้มคง ส.ส.ชลบุรี พรรคประชาชน ร่วมแถลงข่าว “แฉเสียดฟ้า กองทุนประกันสังคมจงใจลงทุนผิดพลาด เพื่อเอื้อผลประโยชน์พวกพ้องหรือไม่” โดยมีการตั้งข้อสังเกตในการซื้ออสังหาริมทรัพย์ ย่านพระราม 9 ระบุว่าประกันสังคมซื้อมาในราคาประมาณ 7,000 ล้านบาท ในขณะที่ราคาประเมินอยู่ที่ 3,000 ล้านบาท และมีการตั้งคำถามว่าเอื้อประโยชน์ใครหรือไม่นั้น
ก่อนที่ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และอดีต รมว.แรงงาน ในขณะนั้น ออกมาชี้แจงว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และไม่รู้ใครเป็นเจ้าของ
ทำให้ “ประกันสังคม” กลายเป็นประเด็นที่สังคมให้ความสนใจตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา พร้อมกับตั้งคำถามว่า นโยบายต่างๆที่ผ่านมานั้น ดำเนินการอย่างโปร่งใสหรือไม่ จนมีคนไปตรวจสอบพบว่า เว็บ “www.ม33เรารักกัน.com” ที่เปิดดำเนินการเมือปี 2564 ปัจจุบันกลายเป็นเว็บให้กู้เงิน!