JJNY : 5in1 ปชน.ประณามเหตุบึ้ม│เท้งจี้ ‘วันนอร์’ตรงไปตรงมา│ษัษฐรัมย์ยันชงสูตรเดิม│ทสท.กระทุ้งอิ๊งค์│กางธงยูเครนผืนใหญ่

พรรคประชาชน ประณามเหตุบึ้มนราธิวาส-ปัตตานี เรียกร้องรัฐบาลเร่งหาตัวผู้ก่อการร้าย
https://www.matichon.co.th/politics/news_5083925
 
 
พรรคประชาชน ประณามเหตุบึ้มนราธิวาส-ปัตตานี เรียกร้องรัฐบาลเร่งหาตัวผู้ก่อการร้าย
 
จากกรณีเมื่อช่วงค่ำ เวลาประมาณ 19.09 น. ของคืนวันที่ 8 มีนาคม เกิดเหตุคนร้ายลอบยิงและวางระเบิดบริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เป็นเหตุให้ อส.เสียชีวิต 2 นาย เจ้าหน้าที่และประชาชนบาดเจ็บรวม 10 นาย/คน อีกทั้งมีการวางวัตถุต้องสงสัยหลายจุดในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก นอกจากนี้ในเวลาใกล้กันคือราว 19.52 น. เกิดเหตุระเบิดเสาไฟฟ้า 2 ต้นในพื้นที่ สภ.สุไหงปาดีด้วย ต่อมาเวลา 23.20 น. เกิดเหตุลอบวางระเบิดกลางดึกในพื้นที่สายบุรี จ.ปัตตานี เจ้าหน้าที่ดับ 3 รายนั้น
 
เมื่อวันที่ 9 มีนาคม นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ – Natthaphong Ruengpanyawut” ระบุว่า 
 
ผมขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้ที่สูญเสียจากเหตุความไม่สงบที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส และ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เมื่อคืนที่ผ่านมา
 
พรรคประชาชนประณามการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบไม่ว่าจะมาจากฝ่ายใด ผมขอเรียกร้องไปยังรัฐบาลให้เร่งหาตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย และเดินหน้ากระบวนการพูดคุยสันติภาพอย่างจริงจัง เพื่อให้กระบวนการนี้เป็นส่วนสำคัญในการลดความรุนแรงจากทุกฝ่ายและหาทางออกที่ยั่งยืนต่อไป
  
https://www.facebook.com/natthaphong.ruengpanyawut/posts/pfbid0mmffu6Ws1CwwutSZRDZgZ3JYgXEuYeaPTVo2yDcQBcdN1feVpDdVm1X3GbCkPseVl
 

 
เท้ง ชี้ ‘หารือนอกรอบ’ ต้องดูระเบียบเป็นไปตามกฎหรือไม่ ยันไม่ถอดชื่อ ‘ทักษิณ’ จี้ ‘วันนอร์’ ตรงไปตรงมา
https://www.matichon.co.th/politics/news_5083855

“ณัฐพงษ์” ชี้ ต้องดูระเบียบหารือนอกรอบเป็นไปตามกฎหรือไม่ รับหนังสือส่งเลยกรอบเวลาจริง ยันไม่ถอดชื่อทักษิณ ออกจากญัตติ  ขอ “ประธานสภา” ทำงานตรงไปตรงมา หวั่นถูกครหาอุ้มฝ่ายบริหาร มองไม่ใช่หน้าที่ประมุขนิติบัญญัติ มอง หากเกิดอุบัติเหตุไม่สามารถซักฟอกในสมัยประชุมนี้ “วันนอร์” ต้องรับผิดชอบ
 
เมื่อวันที่ 9 มีนาคม นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ยืนยันว่าทำหนังสือด่วนถึงตนทันในกรอบ 7 วัน ว่า นายวันมูหะมัดนอร์ได้เรียกตนไปหารือจริง แต่การตอบกลับนั้น ต้องดูตามระเบียบของกฎหมายต่อว่าต้องมีการตอบกลับเป็นลายลักษณ์อักษรอย่างเป็นทางการหรือไม่ ในวันนั้นตนชี้แจงว่าเป็นสิทธิของพรรคฝ่ายค้านที่สามารถยื่นญัตติได้และยืนยันว่าจะไม่มีการแก้ด้วย ทางนายวันมูหะมัดนอร์พยายามจะคืนญัตติกลับมาให้แต่ตนปฏิเสธไป ตอนนี้ร่างญัตติน่าจะอยู่ที่นายวันมูหะมัดนอร์ ในส่วนนี้จึงเป็นที่มาที่ไปที่ต่อไปมีการออกหนังสือมาที่ตน ฉะนั้นในเรื่องของจำนวนวันต้องลองเช็กระเบียบอีกทีว่าเป็นอย่างไร
 
ยืนยันตามข้อเท็จจริงที่ทางอาจารย์วันนอร์บอกว่าเรียกผมเข้าไปหารือ ถามว่ามีไหมก็ต้องตอบว่ามี เป็นการหารือนอกรอบ จึงไม่ทราบว่าการหารือนอกรอบเป็นไปตามระเบียบหรือข้อบังคับหรือไม่ ว่าการแจ้งกลับภายใน 7 วันต้องตอบมาเป็นหนังสือหรือไม่ หากดูตามกรอบหนังสือที่ส่งมาก็เลยกรอบเวลาจริง” นายณัฐพงษ์กล่าว
 
นายณัฐพงษ์กล่าวว่า ส่วนเรื่องที่ไม่ยอมบรรจุญัตติให้ตน คิดว่าได้ชี้แจงไปหมดแล้ว ยืนยันว่าเป็นสิทธิของสมาชิกที่จะยื่นขอเปิดอภิปรายไว้วางใจ ซึ่งอำนาจตามรัฐธรรมนูญ ไม่ได้ให้อำนาจประธานสภาในการใช้ดุลยพินิจจะไม่บรรจุ หากดูตามข้อบังคับก็เขียนแค่ว่าให้ประธานสภาดูในส่วนของข้อบกพร่อง ว่ามีคำผิด มีสมาชิกเข้าชื่อไม่ครบหรือไม่ ซึ่งเรายืนยันว่าในส่วนนี้เราเขียนถูกต้อง ลงชื่อครบทั้งหมดก็ไม่น่าจะมีข้อบกพร่องอะไร ส่วนเนื้อหาญัตติจะใส่อะไรได้ ไม่ได้ ตนคิดว่าเป็นสิทธิของสมาชิกที่จะใส่ลงไปในหลักการของตัวญัตติอยู่แล้ว
 
เมื่อถามว่าแล้วจะเป็นอย่างไรต่อ เนื่องจากทางประธานสภา ยืนยันให้นำชื่อนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีออกจากญัตติ ซึ่งทางพรรคฝ่ายค้านเองยืนยันว่าจะไม่เอาออก นายณัฐพงษ์กล่าวว่า ในวันนั้นมีการคุยกันในเรื่องนี้เกือบครึ่งชั่วโมง นายวันมูหะมัดนอร์เองก็กังวลว่าบรรยากาศในที่ประชุมมีการประท้วง แต่ตนยืนยันว่าการที่ใส่ชื่อนายทักษิณลงในญัตติ จะทำให้เราสามารถอภิปรายอย่างตรงไปตรงมามากขึ้นไม่ต้องพูดอะไรอ้อมค้อม แต่ก็ได้รับข้อยืนยันกลับมาว่ากลัวมีการพาดพิงคนนอก ซึ่งข้อบังคับไม่ได้ห้ามให้เราพาดพิงคนนอก แต่มีการเขียนว่าไม่ให้พาดพิงบุคคลภายนอกโดยไม่จำเป็น ซึ่งเรายืนยันว่าจำเป็น นายทักษิณเองก็เคยให้สัมภาษณ์ว่ามีส่วนในการบริหารราชการแผ่นดิน ในตัวญัตติของเราก็เป็นไปตามข้อเท็จจริงตามที่นายทักษิณพูดเองด้วยซ้ำ การรับผิดชอบคำพูดของสมาชิกในการพาดพิงคนนอกที่ทำให้เกิดความเสียหาย เป็นความรับผิดชอบของผู้อภิปราย ประธานสภาไม่เกี่ยว
 
วันนั้นอาจารย์วันนอร์ก็มีการตอบกลับมาจริง เกรงว่าจะถูกฟ้องร้องในฐานะที่ประธานสภา มีอำนาจในการบรรจุญัตติ ถ้าบุคคลอื่นเสียหาย เขาก็จะถูกฟ้องร้องไปด้วย ทำให้ไม่สามารถบรรจุญัตติได้” นายณัฐพงษ์กล่าว
 
เมื่อถามว่าเป็นเกมการเมืองล้มการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ให้ไม่ทันในสมัยประชุมนี้หรือ นายณัฐพงษ์กล่าวว่า ตนอยากให้นายวันมูหะมัดนอร์ดำเนินทุกอย่างไปตามรัฐธรรมนูญและข้อบังคับ ทางฝ่ายค้านยืนยันว่าประธานสภา มีอำนาจ ไม่มีดุลยพินิจในการที่จะไม่บรรจุญัตติ เนื่องด้วยเนื้อหาในตัวญัตติเอง ที่ผ่านมาการอภิปรายให้วางใจแทบทุกครั้งหนีไม่พ้นต้องมีการพาดพิงถึงบุคคลภายนอกอยู่แล้ว ซึ่งเป็นสิ่งที่สมาชิกทุกคนที่อภิปรายจะต้องรับผิดชอบกันเอง
 
ดังนั้นสิ่งที่ท่านประธานเองในฐานะประมุขของฝ่ายนิติบัญญัติ ควรทำคือการทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมาเปิดโอกาสให้ฝ่ายค้านถ่วงดุลตรวจสอบฝ่ายรัฐบาล เรื่องนี้ไม่ควรที่จะต้องมาออกตัวรับแทนคุณทักษิณ ไม่เช่นนั้นประชาชนส่วนหนึ่งจะมองได้ว่าประธานสภา พยายามปกป้องฝ่ายบริหารหรือไม่ ซึ่งไม่ใช่หน้าที่ของประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ ส่วนญัตติจะเข้าสู่ที่ประชุมทันสมัยนี้หรือไม่นั้น ทางพรรคฝ่ายค้านต้องยืนยันตามสิทธิว่ายังมีเวลาปรึกษาหารือกันได้อีกซักหนึ่งสัปดาห์ แต่หากท้ายที่สุดทำให้เกิดอุบัติเหตุไม่สามารถอภิปรายได้ทันในสมัยประชุมนี้ ไม่มีใครต้องรับผิดชอบไปมากกว่าทางอาจารย์วันนอร์อยู่แล้วในฐานะที่ท่านเป็นผู้บรรจุญัตติ” นายณัฐพงษ์กล่าว
 
เมื่อถามว่ายืนยันที่จะไม่นำชื่อนายทักษิณออกจากญัตติใช่หรือไม่ นายณัฐพงษ์กล่าวว่า ณ ตอนนี้เราต้องยืนยัน ในเรื่องของอำนาจหน้าที่ ส.ส.ไปก่อน หากเรายอมเลยก็จะเป็นการสร้างบรรทัดฐานที่ไม่ถูกต้องในการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจในอนาคต และตนก็ไม่อยากให้เวทีที่ฝ่ายค้านสามารถทำงานได้เต็มที่ในการซักฟอกรัฐบาลถูกเซ็นเซอร์ไป ด้วยอำนาจของประมุขในฝ่ายนิติบัญญัติ ในเรื่องนี้ขอทำทีละสเต็ป อย่าคิดไปไกลว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจ จะเข้าไม่ทันสมัยประชุมนี้ ยืนยันตามหลักการว่าเราคัดค้านการวินิจฉัยของประธานสภาก่อน



ษัษฐรัมย์ ยันชงสูตรเดิมบำนาญ ม.33-ม.39 เข้าบอร์ดประกันสังคม 11 มี.ค.นี้
https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_5083649

ษัษฐรัมย์ ยันชงสูตรเดิมบำนาญ ม.33-ม.39 เข้าบอร์ดประกันสังคม 11 มี.ค.นี้
 
ความคืบหน้าหลังจากที่ประชุมคณะกรรมการประกันสังคม (บอร์ดประกันสังคม) เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568 ไม่พิจารณาเห็นชอบวาระ เรื่องการปรับสูตรบำนาญชราภาพให้กับผู้ประกันตนมาตรา 33 และมาตรา 39 ที่เสนอโดยกรรมการประกันสังคม ฝ่ายผู้ประกันตน โดยที่ประชุมให้นำกลับไปศึกษาและเสนอในที่ประชุมครั้งถัดไปในวันที่ 11 มีนาคมนี้นั้น
 
เมื่อวันที่ 9 มีนาคม นายษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี กรรมการประกันสังคม ฝ่ายผู้ประกันตน ในบอร์ดประกันสังคม เปิดเผยกับ “มติชน” ว่า สูตรการคำนวณบำนาญชราภาพที่จะเสนอในการประชุมครั้งถัดไปวันที่ 11 มีนาคมนี้ ยังคงมีรายละเอียดเหมือนเดิมตามที่ได้เสนอไปคราวที่แล้ว คือ ปรับสูตรการคำนวณใหม่ จากเดิมเป็นการคำนวณจากเงินเดือน 60 เดือนสุดท้าย เปลี่ยนเป็นใช้คำนวณเงินเดือนตลอดอายุทำงานจริง ที่คำนวณตามค่าเงินและค่าครองชีพในปัจจุบัน ซึ่งมั่นใจว่าไม่กระทบต่อสถานะกองทุนและนายจ้าง ทั้งนี้ ในรายละเอียดของสูตรยังคงยืนยันใช้แบบเดิม แต่สิ่งที่จะต้องปรับ คือ วิธีการนำเสนอต่อที่ประชุม
 
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในการประชุมวันที่ 11 มีนาคมนี้ คาดว่าจะติดอุปสรรคหรือผ่านไปได้ด้วยดี นายษัษฐรัมย์กล่าวว่า ก็ยังคงมีสิ่งที่เป็น Synonym หรือคำพ้องความหมายของคำว่า “ไม่ผ่าน” อยู่
 
คือ 1.ขอให้เข้าอนุกรรมการอีกครั้งแล้วนำเข้าบอร์ดฯ แปลว่า จะกลับเข้าบอร์ดฯอีกครั้งอย่างเร็ว คือ เดือนพฤษภาคม และกระบวนการต่างๆ จะทำให้ไม่สามารถบังคับใช้ได้ทันในปีปฏิทินนี้ 2.ถ้าอย่างนั้น ก็เสนอสูตรแค่ ม.39 อย่างเดียวสิ ซึ่งการเสนอสูตรใหม่ ใช้เวลาอย่างน้อย 6 เดือน เข้าอนุกรรมการ เข้าบอร์ดฯใหม่ อย่างเร็ว คือ เดือนตุลาคม 2568 และ 3.มันมีคนเสียประโยชน์ น้อยลงอยู่แม้ไม่เยอะมาก แต่ก็สำคัญ-ให้ผ่านไม่ได้ ความจริงคือ ไม่มีสูตรหรือนโยบายสาธารณะใดที่คนจะได้ประโยชน์ 100% การกล่าวเช่นนี้คือ การปัดตกไปโดยปริยาย ทั้ง 3 ข้อนี้จะมีความหมายของคำว่าไม่ผ่านอยู่ เพราะฉะนั้น เราก็อาจจะต้องระวังในประเด็นนี้ แต่เราจะพยายามผลักดันต่อไป ขณะนี้ผมคิดว่าอาจจะมีฝั่งตรงข้ามเราที่เสียประโยชน์จากการที่เราเปิดประเด็นการตรวจสอบภายในต่างๆ และพยายามที่จะไปปั่นประเด็นว่า ข้อเสนอสูตรบำนาญชราภาพซึ่งเป็นข้อเสนอใหญ่ของทีมประกันสังคมก้าวหน้า จะทำให้มีผลกระทบต่อคนกลุ่มนั้นกลุ่มนี้ ถือว่าเป็นข่าวปลอม (Fake News) เนื่องจากสูตรบำนาญที่เสนอไปนั้น มีกระบวนการเยียวยาและการคิดสูตรค่าเงินในปัจจุบันเทียบกับรายได้ในอดีต” นายษัษฐรัมย์กล่าว
 
นายษัษฐรัมย์กล่าวอีกว่า สำหรับประชาชนผู้ที่สนใจ ไม่ว่าจะอยู่ในมาตราใด ก็สามารถมาร่วมติดตามการประชุมบอร์ดฯในวันที่ 11 มีนาคมนี้ ที่สำนักงานประกันสังคม (สปส.) จ.นนทบุรี ซึ่งจะมีการประชุมในเวลา 09.00-12.00 น. และเมื่อประชุมเสร็จสิ้นการประชุมจะมีการแถลงผลการประชุมต่อไป
 
ด้าน นายสหัสวัต คุ้มคง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ชลบุรี พรรคประชาชน (ปชน.) กล่าวว่า การประชุมบอร์ดฯครั้งที่ผ่านมา ไม่ได้บอกให้เปลี่ยนแปลงรายละเอียดใดๆ ซึ่งสูตรบำนาญชราภาพที่เสนอไปนี้ ก็ไม่ได้เป็นสูตรใหม่ มีการหารือกันในชั้นอนุกรรมการตั้งแต่เดือนตุลาคม 2567 ก่อนที่จะเข้าบอร์ดประกันสังคม ซึ่งสูตรนี้มีการวิจัยจากกองวิจัยของ สปส. รวมถึงมีการคำนวณตัวเลขรองรับ โดยสรุปคือ สูตรบำนาญใหม่นี้ได้ผ่านกระบวนการคิด ผ่านการทำวิจัยมาเรียบร้อยแล้ว และไม่มีเหตุผลที่จะต้องนำกลับมาพิจารณาใหม่
 
ตอนแรกเรามั่นใจว่าสูตรคำนวณบำนาญนี้จะผ่าน เพราะเราไม่เห็นเหตุผลของการค้านและการที่จะไม่พิจารณาให้สูตรนี้ผ่าน แต่เราเพิ่งได้รับสัญญาณหลายอย่างว่า สูตรการคำนวณบำนาญชราภาพผู้ประกันตนแบบใหม่ที่จะพิจารณาในวันที่ 11 มีนาคมนี้ อาจจะถูกเลื่อน ปรับให้เข้าไปวนในขั้นอนุกรรมการอีกรอบหนึ่ง (ในทางเทคนิคคือ การปัดตกโดยกระบวนการ) ซึ่งจะต้องเสียเวลาอีก 5-6 เดือน ด้วยเหตุผลทางการเมืองที่มีคนบางกลุ่มไม่พอใจที่พวกเราออกมาเปิดโปงหลายๆ เรื่องของ สปส.” นายสหัสวัตกล่าว และว่า แต่ด้วยสูตรนี้ ผ่านการวิจัยมาแล้ว จึงไม่เห็นเหตุผลที่จะปัดตกสู่ชั้นอนุกรรมการอีกรอบ อยากให้พิจารณาถึงสิทธิประโยชน์ของผู้ประกันตน ไม่มีใครเสียประโยชน์จากเรื่องนี้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่