สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 40
เราไปอ่านกระทู้เดิมมาแล้วนะคะ ขอตอบยาวนิดนึง เพราะส่วนตัวมองว่าเจ้านายไม่ได้ผิดอะไร
เค้าอาจมีความคาดหวังสูง ต้องการคนที่แอคทีพ และต่อยอดงานได้มากกว่านี้
ไม่ใช่ทำงานแค่ตามที่มีคนคอยบอก คอยสอนแล้วจบกันค่ะ
ดูจากตอนที่ทำงานมาเดือนกว่า เจ้านายก็ไม่ให้จขกท. คอยถามคนสอนงานแล้ว
ให้เข้าไปดูคลังเอง ทำเอง แต่จขกท. ก็ยังมีจุดที่ไม่เข้าใจ ยังทำไม่ได้
แถมพอเกิดความอึดอัดใจ แทนที่จะคิดแก้ปัญหา หรือตรงไปปรึกษาเจ้านายดีๆ กลับวิ่งไปฟ้อง HR มันแสดงถึงวุฒิภาวะที่อาจส่งผลอื่นๆ ต่อทีมในภายหน้าได้ค่ะ
ซึ่งเราไม่ได้มองว่าเจ้านายเค้าจับผิดเลย แต่มันคือการสอนงานรูปแบบหนึ่ง โยนงานให้ทำ ให้เรียนรู้เอง
ผิดพลาดก็แค่ยืดอกยอมรับว่าเรามือใหม่ แล้วแก้ไขรอบหน้าอย่าให้ผิดซ้ำ
มันแสดงถึงวุฒิภาวะเราด้วยค่ะ มีปัญหาเรื่องงานก็ถกกันในเรื่องงานด้วยเหตุผล
ด้านความรู้สึกส่วนตัว ใครอคติกับเรา เราอคติกับใคร ก็ยืดหยุ่นแก้ไขไปตามสถานการณ์เอา
ส่วนการอัพเดทงาน ก็ไม่ใช่การรายงานทุก 3 เวลา ว่าวันๆ เราทำอะไร
แต่หมายถึงให้อัพเดทงานที่ได้รับมอบหมาย ว่าอยู่จุดไหน ติดขัดอะไรมั้ย จะทำเสร็จเมื่อไหร่ และมีแผนอะไรต่อ
_____________________________
ที่จขกท. เห็นว่าเจ้านายโดนเบื้องบนเรียกไปคุย เราเชื่อว่าเค้าไม่ได้เรียกไปต่อว่าหรอกค่ะ
เชื่อเถอะ เค้าเรียกไปถามว่าเกิดอะไรขึ้น เด็กคนนี้โอเคมั้ย ยังจะเอาไว้มั้ย
และการที่จขกท.ยังทำงานต่อมาได้จนเกือบครบ 3 เดือน แปลว่าเค้าเห็นพ้องต้องกันว่าจะให้โอกาสค่ะ แต่จขกท. อาจจะมองว่าเค้าอคติไปแล้ว ทีนี้มันเลยไปด้วยกันต่อยาก เค้าเลยตัดจบหาคนใหม่ดีกว่า เท่านี้เลย
จริงๆ เราไม่รู้ว่าตอนสมัครและสัมภาษณ์งาน จขกท.ใส่รายละเอียดตัวเองไปประมาณไหน เค้าถึงคาดหวังสูงกับเด็กจบใหม่ในระดับนี้
คิดว่าเจ้านายควรมองหาคนใหม่ที่มีประสบการณ์มาทำงานด้วยดีกว่า
ส่วนจขกท. ก็ไม่ควรดึงดันอยู่ต่อแล้วค่ะ เพื่อนร่วมงานดีก็ส่วนนึง
แต่ความก้าวหน้า และความสุขใจในที่ทำงาน หัวหน้าทีมเป็นส่วนสำคัญมาก
เค้าสามารถผลักดันซัพพอร์ตเราขึ้นยอดเขาสูง หรืออยากผลักเราตกเหวก็ได้ ถ้าเริ่มไม่ดีแล้ว โอกาสเติบโตก็ยากไปด้วยค่ะ
เค้าอาจมีความคาดหวังสูง ต้องการคนที่แอคทีพ และต่อยอดงานได้มากกว่านี้
ไม่ใช่ทำงานแค่ตามที่มีคนคอยบอก คอยสอนแล้วจบกันค่ะ
ดูจากตอนที่ทำงานมาเดือนกว่า เจ้านายก็ไม่ให้จขกท. คอยถามคนสอนงานแล้ว
ให้เข้าไปดูคลังเอง ทำเอง แต่จขกท. ก็ยังมีจุดที่ไม่เข้าใจ ยังทำไม่ได้
แถมพอเกิดความอึดอัดใจ แทนที่จะคิดแก้ปัญหา หรือตรงไปปรึกษาเจ้านายดีๆ กลับวิ่งไปฟ้อง HR มันแสดงถึงวุฒิภาวะที่อาจส่งผลอื่นๆ ต่อทีมในภายหน้าได้ค่ะ
ซึ่งเราไม่ได้มองว่าเจ้านายเค้าจับผิดเลย แต่มันคือการสอนงานรูปแบบหนึ่ง โยนงานให้ทำ ให้เรียนรู้เอง
ผิดพลาดก็แค่ยืดอกยอมรับว่าเรามือใหม่ แล้วแก้ไขรอบหน้าอย่าให้ผิดซ้ำ
มันแสดงถึงวุฒิภาวะเราด้วยค่ะ มีปัญหาเรื่องงานก็ถกกันในเรื่องงานด้วยเหตุผล
ด้านความรู้สึกส่วนตัว ใครอคติกับเรา เราอคติกับใคร ก็ยืดหยุ่นแก้ไขไปตามสถานการณ์เอา
ส่วนการอัพเดทงาน ก็ไม่ใช่การรายงานทุก 3 เวลา ว่าวันๆ เราทำอะไร
แต่หมายถึงให้อัพเดทงานที่ได้รับมอบหมาย ว่าอยู่จุดไหน ติดขัดอะไรมั้ย จะทำเสร็จเมื่อไหร่ และมีแผนอะไรต่อ
_____________________________
ที่จขกท. เห็นว่าเจ้านายโดนเบื้องบนเรียกไปคุย เราเชื่อว่าเค้าไม่ได้เรียกไปต่อว่าหรอกค่ะ
เชื่อเถอะ เค้าเรียกไปถามว่าเกิดอะไรขึ้น เด็กคนนี้โอเคมั้ย ยังจะเอาไว้มั้ย
และการที่จขกท.ยังทำงานต่อมาได้จนเกือบครบ 3 เดือน แปลว่าเค้าเห็นพ้องต้องกันว่าจะให้โอกาสค่ะ แต่จขกท. อาจจะมองว่าเค้าอคติไปแล้ว ทีนี้มันเลยไปด้วยกันต่อยาก เค้าเลยตัดจบหาคนใหม่ดีกว่า เท่านี้เลย
จริงๆ เราไม่รู้ว่าตอนสมัครและสัมภาษณ์งาน จขกท.ใส่รายละเอียดตัวเองไปประมาณไหน เค้าถึงคาดหวังสูงกับเด็กจบใหม่ในระดับนี้
คิดว่าเจ้านายควรมองหาคนใหม่ที่มีประสบการณ์มาทำงานด้วยดีกว่า
ส่วนจขกท. ก็ไม่ควรดึงดันอยู่ต่อแล้วค่ะ เพื่อนร่วมงานดีก็ส่วนนึง
แต่ความก้าวหน้า และความสุขใจในที่ทำงาน หัวหน้าทีมเป็นส่วนสำคัญมาก
เค้าสามารถผลักดันซัพพอร์ตเราขึ้นยอดเขาสูง หรืออยากผลักเราตกเหวก็ได้ ถ้าเริ่มไม่ดีแล้ว โอกาสเติบโตก็ยากไปด้วยค่ะ
แสดงความคิดเห็น
ไม่ผ่านทดลองงาน ที่ตอนนี้ก็สงสัยตัวเองอยู่