ถอดบทเรียน 'ผู้นำ' สู่ 'ผู้ตาม' กับ 88 ปี แบรนด์ 'หอยนางรม' ต้นตำรับน้ำปลาพริกแบบซอง ขาย 20 ล้านต่อเดือน

ถอดบทเรียน 'ผู้นำ' สู่ 'ผู้ตาม' กับ 88 ปี แบรนด์ 'หอยนางรม' ต้นตำรับน้ำปลาพริกแบบซอง พลิกกวาดยอดขาย 20 ล้านต่อเดือน



แบรนด์ หอยนางรม อยู่ในตลาดมา 88 ปีแล้ว จากรุ่นบุกเบิกกับ “พิไชย รัตนประสิทธิ์” ที่เป็นรุ่นคุณปู่ ในช่วงปี 2480 ซึ่งที่อยู่ในพื้นที่อ่างศิลา จังหวัดชลบุรี โดยพื้นที่โดยรอบเป็นแหล่งของปลากะตัก จึงนำมาสู่การพัฒนาสูตรน้ำปลา ในรูปแบบผลิตที่เป็นอุตสาหกรรมในครัวเรือน

ต่อมารุ่นคุณพ่อ “พิรณ รัตนประสิทธิ์” ที่ปรับระบบการผลิตใหม่ จากภาพของโรงงานน้ำปลาสมัยก่อนที่มีปัญหาในเรื่องกลิ่นและระบบการดูแล รวมถึงระบบหลังบ้านทั้งระบบการเงินที่ไม่ได้มาตรฐาน พัฒนาสูตรน้ำปลา จนทำให้น้ำปลาที่เคยมีสีแบบเข้ม กลายเป็นสีอ่อน พร้อมเปลี่ยนชื่อแบรนด์ใหม่จากแบรนด์ สเปเชียล สู่ "น้ำปลาหอยนางรม" เนื่องจากพื้นที่อ่างศิลาเป็นแหล่งของหอยนางรมที่ขิ้นชื่อ และแสดงถึงความเป็นพรีเมียม

ต่อมาจนถึงรุ่นสาม คือ “พันธ์ชนะ รัตนประสิทธิ์” กรรมการผู้จัดการ บริษัท น้ำปลาพิไชย จำกัด ให้ความสนใจในเรื่องการพัฒนาสินค้ากลุ่มใหม่ จากการเห็นปัญหาของลูกค้าที่ใช้น้ำแบบแบบใส่ถุง และต้องแกะน้ำปลาถุงเล็กๆ จึงอาจเกิดปัญหาเลอะมือ โดยได้พัฒนารูปแบบน้ำปลาพริกแบบซอง ตั้งแต่การพัฒนาเครื่องจักร เครื่องหั่นพริกและการพัฒนาทำให้พริกสามารถเก็บไว้ได้นานหลายเดือน

ทั้งนี้ได้พัฒนามาประมาณ 10 ปีที่แล้ว โดยมีเครื่องบรรจุ 1 เครื่อง และได้ไปนำเสนอกับร้านสะดวกซื้อเซเว่น อีเลฟเว่นที่มีสินค้าอาหารพร้อมทาน จึงได้รับความเชื่อมั่นและไว้วางใจ จึงกลายเป็นลูกค้าประจำที่ใช้บริการยาวนานมาจนถึงปัจจุบัน 

ในช่วงแรก ธุรกิจน้ำปลาพริกแบบซอง มียอดขายประมาณ 5 ล้านบาท ไปจนถึง 100 ล้านบาทต่อปี ด้วยอัตราการการผลิตมากกว่า 20 ล้านซองต่อเดือน หรือต่อปีสูงถึง 240 ล้านซองต่อปี ซึ่งปัจจุบันผู้พัฒนาน้ำปลาแบบซองที่เป็นแบรนด์รายใหญ่จะไม่มีชัดเจน ส่วนใหญ่เป็นแบรนด์ท้องถิ่น

จากการที่แบรนด์อยู่ในตลาดมานานและสามารถสร้างยอดขายได้ต่อเนื่อง รวมถึงการมีกลุ่มลูกค้าประจำ ทำให้ไม่ได้เน้นการทำตลาด และฐานลูกค้าของแบรนด์ที่มีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไปเป็นหลัก จึงเกิดปัญหาแบรนด์ไม่ได้เป็นที่จดจำของคนรุ่นใหม่ จนทำให้น้ำปลาหอยนางรมที่เคยเฟื่องฟู และเป็นผู้นำในตลาดน้ำปลาพรีเมียมในรุ่นคุณพ่อ ล่าสุดแบรนด์ครองส่วนแบ่งการตลาดลำดับที่ 5 ในตลาดน้ำปลาไทย ด้วยส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 5-7% จากในช่วง 2-3 ปีก่อนหน้านี้แบรนด์ที่เคยมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ในลำดับสาม

ดังนั้น น้ำปลาหอยนางรม จึงวางแผนในปี 2568 เร่งขยายตลาดและแบรนด์ รวมถึงได้ดึงเชฟรุ่นใหม่ของไทย ทั้ง “เชฟต้น ธิติฏฐ์ ทัศนาขจร” และ “เชฟนิค ณัฏฐพล ภวไพบูลย์" เข้ามาร่วมเป็นพรีเซ็นเตอร์ของสินค้าครั้งแรก นับตั้งแต่สร้างแบรนด์มา พร้อมมุ่งทำกิจกรรมการตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อขยายฐานกลุ่มเป้าหมาย

อ่านต่อ: https://www.bangkokbiznews.com/business/business/1170187?anm=
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่