เพราะขอบฟ้ากว้าง เส้นทางยาวไกล

เราถึงต้องเตรียมให้พร้อม ชัยชนะเป็นของผู้เตรียมพร้อม เมื่อถึงเวลาต้องใช้เกินไปนิดก็ดีกว่าขาดไปหน่อย นักเดินทางจะเดินป่าขึ้นเขาหรือท่องเที่ยวไปในสังสารวัฏอันยาวไกลพึงพิจารณาว่าต้องเตรียมสิ่งใดไปใช้ระหว่างเส้นทาง

คนภูเขาหรือเมาเท่นแมน Mountain man ซึ่งในที่นี้หมายถึงคนภูเขาชาวอเมริกาในยุคระหว่างปีค.ศ. 18XX จนถึง 19XX คือพันแปดร้อยกว่าๆถึงพันเก้าร้อยกว่าๆโดยประมาณ ก็คงเป็นยุคที่คนขาวขยายดินแดนรุกไล่ชาวพื้นเมืองหรืออเมริกันเนตีฟที่เราเรียกกันว่าอินเดียนแดงนั่นแหละ มีดบางประเภทที่ผู้กล้าเหล่านั้นนำติดตัวไปใช้บางส่วนในสมัยนี้เราเรียกกันว่ามีดเมาเท่นแมน

คนภูเขาเหล่านั้น เลี้ยงชีพด้วยการขึ้นเขา หาของป่า ล่าสัตว์ ดักสัตว์ ตัดไม้ เมื่อยุคตื่นทองมาถึงชายกล้าเหล่านั้นก็ขุดทองกับเค้าด้วยเหมือนกัน คนภูเขามีทั้งทำงานคนเดียว ทำงานเป็นกลุ่ม หรือทำงานในรูปแบบของพนักงานบริษัทที่ขึ้นตรงกับแค็มป์หรือค่ายก็มี เตรียมข้าวของแล้วก็ออกเดินทาง ทั้งแบบขี่ม้า และเดินด้วยเท้า หายขึ้นเขาเข้าป่าไปแต่ละครั้งนานนับเดือนหรือหลายๆเดือน เข้าเหล่านั้นดำรงชีวิตด้วยปัจจัยที่ธรรมชาติเอื้อเฟื้อแบ่งปันและสิ่งของจำเป็นที่เค้าเอาไปเอง เตรียมเอาไปเอง สิ่งสำคัญอันดับต้นๆที่จะต้องเอาไปก็คือมีด มีดที่ใช้งานในป่าเขา มีดเมาเท่นแมน

คนภูเขาพกมีดกันหลายเล่มนะครับ ไม่ค่อยเหมือนทางบ้านเราที่มักจะพกมีดขนาดใหญ่เพียงเล่มเดียวอย่างมีดอีเหน็บหรืออีโต้ มีดลาบ ทำนองนั้น แต่อเมริกันมีคตินิยมพกมีดหลายเล่มมาแต่เดิม คนทั่วๆไปก็พกมีดกันหลายเล่มอยู่แล้ว คนภูเขาที่เข้าป่าไปทีนึงหลายๆเดือนก็ต้องพกให้มากกว่าปรกติหน่อย บางคนพกตั้ง 4-5 เล่มก็มี หรือแนวคิดการใช้ของมีคมสามชิ้นอย่างเนสมักหรือเนสมักทรีโอ Nessmuk trio คือการพกขวาน , มีดใช้งานขนาดย่อมๆ และมีดพับ นอกจากใช้ของมีคมให้ถูกกับงานแล้วยังเพื่อขาดสำหรับการทำมีดหายหรือพังในป่าด้วย

ถ้าไม่นับการเข้าป่าล่าสัตว์หรือต่อสู้กับโจรผู้ร้าย ต่อสู้กับอินเดียนแดงเจ้าถิ่นแล้ว การใช้ชีวิตแบบเมาเท่นแมนก็น่ารื่นรมณ์อยู่พอสมควร การนั่งข้างๆกองไฟอบอุ่น กินอาหารหรือดื่มเครื่องดื่มอุ่นๆ มองไปรอบๆตัว ขุนเขาเขียวขจีกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา ดาวกระจ่างฟ้าดารดาษ นั่งชมพระอาทิตย์ขึ้นเพียงลำพังในรัศมีหลายตารางกิโลเมตร นั่งฟังเสียงหัวใจตัวเอง เงียบยิ่งกว่าเงียบ งามยิ่งกว่างาม เป็นความงามที่แท้จริง

มีดเมาเท่นแมนที่ใช้กันในยุคนั้นที่เป็นมีดยี่ห้อก็มีนะครับ มีขายกันหลายยี่ห้อ หลังยุคของจิม บูอี้ ในอเมริกาก็เต็มไปด้วยมีดและร้านขายมีด มีทั้งนำเข้าจากต่างประเทศและผลิตในแผ่นดินอเมริกาเอง บริษัทหรือแค็มป์ของเมาเท่นแมนก็มีมีดไว้ให้ลูกจ้างหรือพนักงานเป็นร้อยๆพันๆเล่ม แต่มีอีกมากที่ทำกันเอง ผลิตโดยช่างตีเหล็กหรือแบล็กสมิธประจำท้องถิ่น

มีดเมาเท่นแมนที่เป็นแบบแฮนเมดส์ มักจะออกมาในแบบดิบๆหยาบๆ เต็มไปด้วยริ้วรอยจากการผลิต ทั้งด้ามมีดและตัวใบ คือต้องจัดสร้างขึ้นมาให้ได้ภายในเวลาไม่นานนักให้ทันกับความต้องการของนักเดินทางหรือขบวนคาราวานขนหนังสัตว์ เน้นให้มันมีคมและค่อนข้างแข็งแกร่งทนทานสำหรับงานป่าๆ เรื่องความละเอียดปราณีตก็เป็นเรื่องที่ให้ความสำคัญรองๆลงไป

วันนี้มีมาให้ชมสามเล่มครับผม เล่มยาวเป็นมีดแค็มป์ขนาดกลางสำหรับงานทั่วๆไป ไล่ตั้งแต่ตัดไม้ผ่าฟืนลงมา จนถึงทำอาหาร แล่เนื้อเถือหนัง เล่มขนาดกลางด้ามเป็นปลายเขากวาง ซึ่งด้ามแบบนี้พบได้มากในวัฒนธรรมมีดแบบเมาเท่นแมนหรือมีดของอินเดียนแดง เล่มเล็กสุดใบมีดยาวแค่สองนิ้วกว่าๆ แต่ก็แข็งแกร่งพอสำหรับงานทั่วๆไป ทั้งสามเล่มตีขึ้นรูปจากเหล็กกล้า ชุบแข็งตามกระบวนการ และเหลือผิวไฟเดิมๆจากการชุบแข็ง คือมาจากอ่างชุบยังไงก็ประกอบด้ามไปอย่างนั้น ดิบๆเดิมๆเถื่อนๆ เป็นวิธีการทำใบมีดหรือแต่งผิวใบมีดที่จัดว่ายากมากๆอย่างนึง เพราะมันเกิดขึ้นได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น ไม่ต้องตกแต่งใดๆ เพราะขั้นตอนทั้งหมด ถูกจัดเอาไว้ก่อนหน้านี่แล้ว การปาดแนวคมมีดหรือการเว้นระยะหนาบางของใบมีดต้องจัดการให้เรียบร้อยก่อนขั้นตอนการชุบแข็ง ถึงจะทำใบมีดแบบผิวเดิมๆได้

มีดเมาเท่นแมนหลายแบบจัดอยู่ในประภทของมีดแล่นะครับ คือมีดเน้นความคมใช้ในอุตสาหกรรมหนังสัตว์ อย่างมีดกรีนริเวอร์ กับอีกแบบที่เป็นมีดกลางแจ้งจริงๆ อย่างมีดแค็มป์หรือมีดบูชคราฟ มีดบูอี้ที่ถูกย่อส่วนลดความยาวลงมาจากยุคก่อนหน้านี้ซึ่งค่อนข้างใหญ่เกินไปสำหรับงานกลางแจ้งที่แท้จริง คือใบมีดยาวแค่ 7-8 นิ้วก็ใช้ในแคมป์ขนาดหนักได้ หรือมีดพกประจำตัวใบมีดยาวแค่ 4-5 นิ้วก็เพียงพอสำหรับทุกอย่างในการช่วยให้ชีวิตรอด คือใช้ชีวิตท่ามกลางธรรมชาติและเอาชีวิตรอดกลับออกมาสู่เมืองหรือบ้านได้

ซองมีดแบบเมาเท่นแมนมักจะใส่มีดเข้าไปลึกจนเกือบมิดด้ามเพื่อป้องกันมีดตกหายในเวลางาน คือท่องไปตามป่าหรือริมห้วยริมหนอง บางทีก็ต้องลงไปในน้ำด้วย ถ้ามีดตกหายซะก็หมดท่าเลย ซองมีดแบบนี้มีรูปแบบหรือขนาดกลางๆสำหรับเจ้าของมีดซื้อไปใส่มีดได้เอง คือมันอาจจะไม่พอดีไปซะหมดแบบซองหนังที่มาจากการตัดเย็บให้เข้ารูปมีด แต่ก็พอใช้งานได้ เหมือนๆกับแปมหวายสำหรับใส่มีดอีเหน็บมีดอีโต้ของบ้านเราเหมือนกัน

สายลมส่งเสียงหวีดหวิวยาวนานต่อเนื่อง เสียงหยดน้ำหยาดลงมากระทบสิ่งของข้างล่างดังไม่ขาดระยะ ดังเป็นจังหวะๆ ถึงเต็มไปด้วยเสียงแต่ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของความเงียบงัน เป็นชิ้นส่วนเล็กๆที่เรียงร้อยรวมกันเป็นรูปร่างของความเหงา โลกกำลังหยุดส่งเสียง เปิดโอกาสให้บางสิ่งบางอย่างในหัวใจของคนได้ร่ำร้องอย่างแผ่วเบา แต่ก็ดังพอให้รับรู้ได้ว่าหัวใจของเรากำลังพูดเรื่องอะไร

บางทีจักรวาลอันเวิ้งว้างกว้างใหญ่ พยายามติดต่อกับเราผ่านความเงียบงัน พลังสร้างสรรค์บางครั้งมีความเหงาเป็นส่วนผสม กะลาสีเรือผู้ลอยละล่องบนผิวน้ำเกรี้ยวกราด ถักทอความเหงาให้เป็นรูปเป็นร่างบนกระดูกปลาวาฬ ถ้อยคำที่สลักบนดาบอสูร " ฟังเสียงฝนในหอน้อยเพียงเดียวดาย " มิอาจหยั่งคำนวณได้ว่ามีความเหงาปนอยู่กี่ส่วน

คนภูเขาผู้เดินทางห่างไกล ซึ่งครั้งนึงโลกของเราเคยมีอยู่ แต่ทุกวันนี้อาจจะลดน้อยลงไปจนเกือบเรียกว่าหายไปจากการรับรู้ของผู้คน นักล่าที่เป็นนักล่า นักล่าที่ครั้งนึงชายผู้กล้าต่างใฝ่ฝันจะให้เป็น นักล่าผู้เป็นต้นตอวงศ์วานว่านเครือ เป็นบรรพบุรุษผู้มาก่อนของเรา นักล่าผู้เป็นนักล่าและออกล่า ครั้งนึงซึ่งยังไม่ค่อยนานเท่าไหร่ ท่านเหล่านั้นเคยออกล่าบางสิ่งบางอย่างด้วยธนูหรือปืน และมีดล่า มีดคนภูเขา มีดเมาเท่นแมน

ทุกวันนี้นักล่าเหลือน้อยเต็มทีแต่มีดล่ายังอยู่ มันยังถูกสร้างขึ้นมาและถูกเลือกหาไปครอบครองจากผู้ที่ไม่ใช่นักล่า หรือนักล่าที่วางมือแล้วเพราะไม่รู้จะไปล่าอะไร และทั้งนักล่าจริงๆที่ยังหลงเหลืออยู่ มีดฮันเตอร์ ถึงไม่ได้ใช้มันเพื่อการล่าแล้วแต่ก็ยังใช้ทำงานอื่นๆได้ดี เพราะจุดเด่นของมีดล่าคือความคม มันมีใบมีดที่คมและการประกอบวัสดุต่างๆขึ้นมาเป็นมีดทำด้วยความปราณีต และรูปร่างหน้าตาของมันงดงามดึงดูดใจ ชวนให้อยากเป็นเจ้าของหรือน่าใช้งาน

ธรรมชาติยิ่งใหญ่เสมอ มนุษย์เป็นเพียงส่วนนึงของความเป็นไป การได้รับโอกาสที่เปิดให้เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติเป็นของขวัญล้ำค่าที่สุดที่สิ่งมีชีวิตได้รับ จักรวาลและเราล้วนเป็นหนึ่งเดียวกัน เราก้าวไปข้างหน้าพร้อมๆกับทุกสรรพสิ่ง เส้นทางที่ผ่านมาจากอดีตกาลคือจุดกำเนิดที่เราทั้งหลายมีและใช้ร่วมกัน เราเกิดมาพร้อมกันกับสรรพสิ่ง เวียนว่ายในวัฏฎสงสารมาจากต้นทางเดียวกัน เกิดขึ้นและตั้งอยู่ เปลี่ยนแปลงและดับไป บางสิ่งเกิดขึ้นอีกครั้งแต่บางสิ่งดับไปแล้วไม่หวนกลับมา

ผมเองค่อนข้างจะแก่มากแล้ว ถึงอายุไม่มากแต่ก็ใช้ชีวิตลำบากกว่าคนรุ่นราวคราวเดียวกันทั่วๆไป ยินดีทุกครั้งที่กลับมาสวดมนต์แล้วก็นอน ดีใจทุกครั้งที่ได้ลืมตาตื่น ซึมซาบรสชาติของอาหารแต่ละคำอย่างอ้อยอิ่งและรู้คุณค่า มันอาจจะเป็นอาหารคำสุดท้ายในรอบหลายๆวันข้างหน้าก็เป็นได้ อนุโมทนาบุญอย่างละเอียดปราณีตทุกครั้ง เพราะบางทีมันอาจจะเป็นกุศลกรรมครั้งสุดท้ายที่สร้างในภพนี้

รักตัวเองให้มาก รักคนข้างๆตัวให้มากกว่า ดูแลกันเมื่อยังพอมีเวลา ถ้าคุณยังรู้สึกตัวว่ารักใครสักคนหรือหมาแมวซักตัว อย่าลืมบอกให้เค้ารู้ จะด้วยคำพูดหรือการกระทำ ไม่งั้นก็รอยยิ้มเปล่าๆที่จริงใจก็ยังดี ขนมครึ่งชิ้นหรือกาแฟครึ่งแก้ว แบ่งปันความสุขเล็กน้อยแต่ยิ่งใหญ่ในความรู้สึก ชีวิตเป็นสิ่งสวยงาม ความรักก็เช่นกัน มันมีอยู่จริงสำหรับผู้เปิดใจยอมรับเท่านั้น

ถ้ายังรู้สึกรักใครซักคนหรือซักตัว รักษาชีวิตให้มั่นๆ ถึงต้องเดินฝ่าฟันข้ามภูเขาอีกกี่ลูก ทางออกอยู่ไกลเสมอ ไม่มีทางไหนใกล้เท่ากับทางกลับบ้าน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็อย่าตาย อย่ายอมตาย ใช้ชีวิตและพละกำลังให้เต็มที่ แล้ววันนี้หรือพรุ่งนี้ จะดีกว่าวันที่ผ่านๆมา

ผมเชื่ออย่างนั้นจริงๆ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่