เคยสงสัยกันหรือไม่ทองมันเป็นเหมือนวัตถุ เครื่องประดับ ทำไมมีค่ามากมาย
ทองเป็นทรัพย์สินมีค่ามาทุกสมัย สมัยก่อนตั้งแต่สมัยอียิปต์โบราณ วัฒนธรรมไทยโบราณ จนถึงปัจจุบัน 2025 จากที่เรารู้กันมันคือ ทองมีประโยชน์ดังต่อไปนี้

1. ด้านวิทยาศาสตร์ การแพทย์ และอุตสาหกรรม
ทองเป็นโลหะที่มีคุณสมบัติพิเศษหลายประการ เช่น การนำไฟฟ้าได้ดีเยี่ยม ความต้านทานต่อการกัดกร่อน และความอ่อนตัวสูง ทำให้นำไปใช้ในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ เช่น ในวงจรคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน และอุปกรณ์การแพทย์ขั้นสูง เช่น เครื่องมือทันตกรรม และเครื่องมือผ่าตัดที่ต้องการความแม่นยำสูง

2. ด้านเศรษฐกิจ
ทองเป็นสินทรัพย์ที่ใช้ป้องกันความเสี่ยงในช่วงเศรษฐกิจไม่แน่นอน ธนาคารกลางทั่วโลกเก็บทองคำเป็นทุนสำรองระหว่างประเทศ นักลงทุนมักซื้อทองเมื่อเกิดวิกฤตการเงิน เงินเฟ้อ หรือค่าเงินผันผวน ในประเทศไทย ทองคำถือเป็นเครื่องมือออมเงินที่นิยมและสามารถซื้อขายได้ง่ายผ่านร้านทองทั่วประเทศ

มาตรฐานทองในระบบการเงินโลก:
- มาตรฐานทองของอังกฤษ (Gold Standard): ในปี 1821 อังกฤษได้รับเอามาตรฐานทองมาใช้อย่างเป็นทางการ โดยผูกค่าเงินปอนด์กับทองคำ ทำให้เงินสกุลปอนด์มีเสถียรภาพและกลายเป็นสกุลเงินหลักของโลกในยุคนั้น ระบบนี้ทำให้การค้าระหว่างประเทศมีความมั่นคง เนื่องจากอัตราแลกเปลี่ยนมีความแน่นอนและสามารถแลกธนบัตรเป็นทองคำได้ตามอัตราที่กำหนด
- การยกเลิกมาตรฐานทองของนิกสัน (Nixon Shock): 150 ปีต่อมา ในวันที่ 15 สิงหาคม 1971 ประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน ได้ประกาศยกเลิกการแลกเปลี่ยนดอลลาร์สหรัฐกับทองคำ ซึ่งเป็นการยุติข้อตกลงเบรตตันวูดส์ (Bretton Woods Agreement) ที่ใช้มาตั้งแต่ปี 1944 การตัดสินใจครั้งนี้ทำให้ระบบการเงินโลกเปลี่ยนไปสู่ระบบเงินตราลอยตัว (Fiat Currency) ที่ไม่มีการผูกติดกับทองคำอีกต่อไป ส่งผลให้ราคาทองมีความผันผวนและเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากในทศวรรษต่อมา
http://news.bbc.co.uk/2/hi/business/337802.stm

การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้บทบาทของทองคำในระบบการเงินโลกเปลี่ยนไป แต่ทองยังคงเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าและถูกใช้เป็นเครื่องป้องกันความเสี่ยงในยามที่เศรษฐกิจและการเงินผันผวนจนถึงปัจจุบัน

3. ด้านวัฒนธรรมและความเชื่อ

อียิปต์โบราณ: เชื่อว่าทองเป็น "เนื้อของเทพเจ้า" โดยเฉพาะเทพรา (Ra) เทพแห่งดวงอาทิตย์ ใช้ทองในพิธีฝังศพและหน้ากากมัมมี่เพื่อมอบชีวิตนิรันดร์ ชาวอียิปต์เชื่อว่าทองมีพลังในการป้องกันพลังงานลบและปีศาจ เครื่องรางทองคำถูกสวมใส่เพื่อป้องกันภัยอันตราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเดินทางไปยังโลกหลังความตาย https://en.wikipedia.org/wiki/Ra

กรีกและโรมัน: ทองสัมพันธ์กับเทพอพอลโล เทพแห่งแสงสว่าง ดวงอาทิตย์ และศิลปะ ชาวโรมันใช้ทองเป็นเครื่องหมายแห่งเกียรติยศ และเชื่อว่าทองเป็นโลหะที่สมบูรณ์แบบที่สุด https://www.thecollector.com/apollo-and-artemis-greek-mythology/

อาณาจักรอินคา: ชาวอินคาเรียกทองว่า "เหงื่อของพระอาทิตย์" ใช้ในพิธีกรรมบูชาพระอาทิตย์ วิหารแห่งดวงอาทิตย์ (Coricancha) ในเมืองคุซโก ถูกประดับด้วยแผ่นทองจำนวนมาก https://www.mining.com/the-sweat-of-the-sun-the-breath-of-god-gold-through-the-centuries-73916/

จีนโบราณ: เชื่อว่าทองมีความสัมพันธ์กับสวรรค์และจักรพรรดิ จักรพรรดิจีนใช้เครื่องใช้ทองคำแสดงความเชื่อมโยงกับสวรรค์ 
ในหลักการแพทย์แผนจีน ทองถูกนำมาใช้รักษาด้วย https://www.sciencedirect.com/science/article/pii/S187395981100086X

อินเดีย: ทองมีความสำคัญในพิธีกรรมฮินดู พระเจ้าและเทพเจ้าหลายองค์มักถูกวาดภาพด้วยสีทอง  https://www.royalmint.com/invest/discover/invest-in-gold/indian-weddings-and-the-tradition-of-giving-gold/

ยิปซี: มีความเชื่อว่าทองสามารถดูดซับพลังงานลบและป้องกันเวทมนตร์ดำ ผู้หญิงชาวยิปซีมักสวมเหรียญทองเป็นเครื่องประดับเพื่อป้องกันตนเอง

ไทย: ทองมีบทบาทสำคัญในพิธีกรรมและความเชื่อต่างๆ ในประเทศไทย ทองใช้ในงานแต่งงานเป็นสินสอดและเครื่องประดับมงคล พระพุทธรูปและเครื่องทรงในศาสนสถานมักปิดทอง ในวัฒนธรรมจีน ทองเป็นสัญลักษณ์แห่งความมั่งคั่งและโชคลาภ ซึ่งมักใช้ในเทศกาลตรุษจีนและงานมงคลต่างๆ 

ในแต่ละอาณาจักร ทองไม่เพียงมีค่าทางเศรษฐกิจ แต่ยังเชื่อมโยงกับความศักดิ์สิทธิ์ อำนาจเหนือธรรมชาติ และสถานะทางสังคม ความเชื่อเหล่านี้ส่งผลให้ทองมีบทบาทสำคัญในพิธีกรรมและศาสนาทั่วโลก และมักมีความเชื่อโบราณที่คล้ายๆกันทั้งที่อยู่ห่างไกลคือทองเกี่ยวข้องกับเทพเจ้า สามารถป้องกันพลังงานด้านลบ มอบให้เพื่อความมงคล โดยเฉพาะทารกและเด็กเล็กมักได้รับกำไลข้อมือทองหรือสร้อยคอทองเพื่อป้องกันอันตราย เช่น นัยน์ตาร้าย (evil eye)

ด้านมืดของทองคำ: เพื่อให้ได้มาทั้งทำลายสิ่งแวดล้อม สัตว์ และเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน
1. ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
การทำเหมืองที่ทำลายล้าง: การทำเหมืองทองแบบเปิดทำลายภูมิประเทศ แหล่งน้ำ และระบบนิเวศในวงกว้าง โดยเฉพาะในป่าฝนอะเมซอนและแอฟริกา
การเหมืองทองผิดกฎหมาย: ในประเทศเช่นบราซิล เปรู และกานา การทำเหมืองทองผิดกฎหมายกำลังทำลายป่าและแหล่งน้ำอย่างรวดเร็ว การทำเหมืองทองผิดกฎหมายในป่าอะเมซอน โดยเฉพาะในเขตสงวนชนพื้นเมือง Yanomami ในบราซิล ได้นำไปสู่การทำลายป่า การปนเปื้อนปรอทในแม่น้ำ และวิกฤตสุขภาพของชุมชนท้องถิ่น
https://pmc.ncbi.nlm.nih.gov/articles/PMC10740397/

2. ผลกระทบต่อมนุษย์และสังคม
ยุคทองแห่งการล่าอาณานิคม: ความโลภในทองคำเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของการล่าอาณานิคมในทวีปอเมริกา แอฟริกา และเอเชีย นำไปสู่การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชนพื้นเมือง เช่น ชาวแอซเทคและอินคา
https://hmong.in.th/wiki/European_Colonization_of_the_Americas?utm_source=chatgpt.com#google_vignette
ทาสในเหมืองทอง: ชาวแอฟริกันหลายล้านคนถูกจับเป็นทาสและบังคับให้ทำงานในเหมืองทองในทวีปอเมริกาใต้ โดยเฉพาะที่โปโตซีในโบลิเวีย ซึ่งเรียกได้ว่าเป็น "ภูเขาที่กินคน" เนื่องจากคร่าชีวิตคนนับแสน
https://en.wikipedia.org/wiki/Cerro_Rico
ทาสยุคใหม่และแรงงานเด็ก: ปัจจุบัน เหมืองทองขนาดเล็กในแอฟริกาและเอเชียยังคงใช้แรงงานเด็กและแรงงานบังคับ
https://europepmc.org/article/ppr/ppr418572

3. ผลกระทบต่อครอบครัวและชุมชน
การปล้นร้านทอง: เหตุการณ์ปล้นร้านทองเกิดขึ้นบ่อยในหลายประเทศ โดยเฉพาะในเอเชียและตะวันออกกลาง ที่มีร้านทองจำนวนมาก ในประเทศไทย มีกรณีคนร้ายบุกเข้าปล้นร้านทองในห้างสรรพสินค้าและตลาดทั่วประเทศ บางครั้งมีการใช้อาวุธและเกิดความรุนแรง เช่น คดีผอที่ปล้นทอง 2563
การปล้นขนส่งทองคำ: การขนส่งทองคำระหว่างเหมือง โรงงานแปรรูป และตลาดเป็นเป้าหมายของกลุ่มโจรมืออาชีพ เช่น กรณีปล้นทองคำที่สนามบินในบราซิล (2019) มูลค่ากว่า 30 ล้านดอลลาร์ หรือการปล้นรถขนทองในแอฟริกาใต้ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง
โจรสลัดและทองคำ: ตั้งแต่ยุคล่าอาณานิคม เรือบรรทุกทองคำเป็นเป้าหมายของโจรสลัด ทำให้มีตำนานเกี่ยวกับ "ขุมทรัพย์โจรสลัด" มากมาย ปัจจุบัน กลุ่มโจรสลัดในบางภูมิภาค เช่น ทะเลจีนใต้ ยังคงมีการปล้นเรือที่ขนส่งสินค้ามีค่า
การกู้หนี้ยืมสินจากโรงรับจำนำ: ครอบครัวยากจนมักจำนำทองเพื่อเงินทุนฉุกเฉิน แต่มักไม่สามารถไถ่ถอนได้ทัน ทำให้สูญเสียสินทรัพย์ที่มีค่าไป และบางครั้งรวมถึงความสัมพันธ์ครอบครัวที่ขาดสะบั้น

แต่ถ้าดูโดยภาพรวมแล้ว ทองก็มีคุณสมบัติแบบองค์รวม ที่ของมีค่าที่แท้จริงบนโลกนี้มักมีกัน มีค่าในตัวมันเอง ไม่เกิดสนิม แม้ว่าสภาพแวดล้อมยังเปลี่ยน เมื่อหลอมละลายก็ยังกลับเป็นทองได้อยู่
อาณาจักรที่เจริญ และล่มสลาย ชื่อเสียงมาละผ่านไป ประวัติศาสตร์ที่เขียนเองและปลอมแปลงได้ แต่ทองนั้นสามารถผ่านยุคสมัยต่างๆ โดยไม่สูญเสียมูลค่า ทองที่ใช้ในเครื่องประดับวันนี้อาจเคยเป็นส่วนหนึ่งของมงกุฎกษัตริย์ในอดีต แล้วถูกหลอมใหม่เป็นเหรียญ ก่อนจะถูกนำมาทำเป็นสร้อยคอหรือแหวนในปัจจุบัน 
หรืออาจมาจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์คนพื้นเมือง ทำลาย generation to generation ทำลายธรรมชาติป่าเขา และสิ่งมีชีวิตหลายชีวิตเพื่อให้ได้ทองไม่กี่กิโลกรัม