เครดิต
https://www.thairath.co.th/money/economics/thai_economics/2800813?utm_source=chatgpt.com
ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันในประเทศไทยยังคงเป็นปัญหาที่แก้ไขได้ยาก เนื่องจากปัจจัยหลายประการ จากข้อมูลในปี 2565 ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับดัชนีการรับรู้การทุจริต (Corruption Perceptions Index - CPI) โดยองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (Transparency International) ให้อยู่ในอันดับที่ 101 ของโลก จากทั้งหมด 180 ประเทศ และเป็นอันดับที่ 4 ในอาเซียน รองจากสิงคโปร์ มาเลเซีย และเวียดนาม
**สาเหตุที่ปัญหาทุจริตคอร์รัปชันยังคงอยู่ในสังคมไทย

*
1. **ผู้ให้สินบน

* ในบางกรณี ผู้ให้เป็นฝ่ายเสนอสินบนแก่เจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อแลกกับความสะดวกหรือการยกเว้นการลงโทษ ซึ่งส่งเสริมให้เกิดการทุจริต
2. **อำนาจดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่

* เจ้าหน้าที่รัฐมีอำนาจในการตัดสินใจในหลายกิจกรรม เช่น การออกใบอนุญาตหรือการจัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งอาจนำไปสู่การทุจริตได้หากไม่มีการตรวจสอบที่เข้มงวด
3. **การตรวจสอบที่ไม่เพียงพอ

* หน่วยงานตรวจสอบอาจไม่ทันต่อวิธีการทุจริตที่ซับซ้อน หรือการตรวจสอบเกิดขึ้นช้า ทำให้ความเสียหายขยายวงกว้าง
4. **อิทธิพลภายนอก

* ผู้มีอิทธิพลอาจกดดันการตัดสินใจของเจ้าหน้าที่รัฐ ทำให้การดำเนินการทางกฎหมายไม่เป็นไปตามความยุติธรรม
**ผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศเมื่อเทียบกับชาติในอาเซียน

*
การทุจริตคอร์รัปชันส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในหลายด้าน เช่น
- **การสูญเสียทางเศรษฐกิจ

* ประเทศไทยสูญเสียเม็ดเงินจากการทุจริตประมาณ 300,000-400,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งลดทอนการเติบโตทางเศรษฐกิจ
- **การลงทุนและการแข่งขัน

* การทุจริตทำให้ต้นทุนการดำเนินธุรกิจสูงขึ้น ลดความเชื่อมั่นของนักลงทุน และกีดกันผู้เล่นใหม่ในตลาด ส่งผลให้ขาดนวัตกรรมและการแข่งขัน
เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นในอาเซียน เช่น สิงคโปร์ ซึ่งมีคะแนน CPI สูงถึง 84 คะแนนในปี 2566 แสดงถึงความโปร่งใสและการจัดการปัญหาทุจริตที่มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้สิงคโปร์มีความน่าเชื่อถือและดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศมากกว่า
ดังนั้น การแก้ไขปัญหาทุจริตคอร์รัปชันในประเทศไทยจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชน เพื่อสร้างสังคมที่โปร่งใสและเสริมสร้างความเชื่อมั่นในระบบเศรษฐกิจของประเทศ
การสูญเสียทางเศรษฐกิจ:** ประเทศไทยสูญเสียเม็ดเงินจากการทุจริตประมาณ 300,000-400,000 ล้านบาทต่อปี
เครดิต https://www.thairath.co.th/money/economics/thai_economics/2800813?utm_source=chatgpt.com
ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันในประเทศไทยยังคงเป็นปัญหาที่แก้ไขได้ยาก เนื่องจากปัจจัยหลายประการ จากข้อมูลในปี 2565 ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับดัชนีการรับรู้การทุจริต (Corruption Perceptions Index - CPI) โดยองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (Transparency International) ให้อยู่ในอันดับที่ 101 ของโลก จากทั้งหมด 180 ประเทศ และเป็นอันดับที่ 4 ในอาเซียน รองจากสิงคโปร์ มาเลเซีย และเวียดนาม
**สาเหตุที่ปัญหาทุจริตคอร์รัปชันยังคงอยู่ในสังคมไทย
1. **ผู้ให้สินบน
2. **อำนาจดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่
3. **การตรวจสอบที่ไม่เพียงพอ
4. **อิทธิพลภายนอก
**ผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศเมื่อเทียบกับชาติในอาเซียน
การทุจริตคอร์รัปชันส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในหลายด้าน เช่น
- **การสูญเสียทางเศรษฐกิจ
- **การลงทุนและการแข่งขัน
เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นในอาเซียน เช่น สิงคโปร์ ซึ่งมีคะแนน CPI สูงถึง 84 คะแนนในปี 2566 แสดงถึงความโปร่งใสและการจัดการปัญหาทุจริตที่มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้สิงคโปร์มีความน่าเชื่อถือและดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศมากกว่า
ดังนั้น การแก้ไขปัญหาทุจริตคอร์รัปชันในประเทศไทยจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชน เพื่อสร้างสังคมที่โปร่งใสและเสริมสร้างความเชื่อมั่นในระบบเศรษฐกิจของประเทศ