โรม เชื่อส.ว.เปิดแชมเปญฉลอง หลังกคพ.รับแค่ฟอกเงิน มึน กก.สัดส่วนตร. ไม่แคร์นายกฯ
https://www.matichon.co.th/politics/news_5080496
โรม เชื่อส.ว.เปิดแชมเปญฉลอง หลังกคพ.รับแค่ฟอกเงิน มึนกก.สัดส่วนตร. ไม่แคร์นายกฯ
เมื่อวันที่ 7 มีนาคม เวลา 09.30 น.ที่รัฐสภา นาย
รังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการสอบสวนคดีพิเศษ(กคพ.)รับคดีฮั้วเลือกสว. เป็นคดีพิเศษฐานความผิดฟอกเงิน ว่า เวลาจะพูดถึงฟอกเงินต้องมีคดีมูลฐานก่อน ซึ่งตนงงว่าจะตั้งฐานโดยใช้คดีมูลฐานอั้งยี่ซ่องโจร ก็จะสามารถไปคดึฟอกเงินได้ แต่เมื่อตั้งต้นจากคดีฟอกเงินก่อน ก็จะต้องกลับไปตั้งต้นว่าคดีมูลฐานเป็นอย่างไร หากถามว่าทำได้หรือไม่ ตั้งเป็นคดีฟอกเงินก็ทำได้ แต่อาจจะต้องตั้งต้นจากอั้งยี่ซ่องโจรเป็นหลัก ซึ่งตนเข้าใจว่ามีปัญหาเรื่องของการล็อบบี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่แปลกประหลาด เพราะเริ่มต้นพิจารณาตำรวจหายไปถึงสามคน ทั้งที่ตำรวจอยู่ภายใต้กำกับดูแลของนายกรัฐมนตรี ซึ่งแทบจะเรียกได้ว่าเป็นผู้บัญชาการสูงสุดของตำรวจ ทำไมถึงไม่สามารถกำกับดูแลให้ตำรวจปฎิบัติหน้าที่ของตัวเองในบอร์ดดีเอสไอได้
นาย
รังสิมันต์ กล่าวต่อว่าต้องยอมรับกันตรงๆว่า มีผู้ที่มาเกี่ยวข้อง มาแทรกแซงแล้วทำให้กระบวนการของดีเอสไอที่มีการประกาศไปเมื่อวันที่ 6 มี.ค.ที่ผ่านมา อาจจะดูแปลกประหลาด กลายเป็นว่าแทนที่จะสามารถตั้งต้นได้จากอั้งยี่ซ่องโจร แล้วไปในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินก็จะเดินไปได้ดีกว่า จริงๆแล้วต้องยอมรับว่ารัฐบาลพยายามที่จะเปิดปฎิบัติการอย่างหนักในเรื่องนี้ แต่แสดงให้เห็นว่า การที่มีบุคคลภายนอก เข้ามา แทรกแซงแล้วทำให้ฐานที่จะดำเนินการเอาผิดกับส.ว. ชุดนี้ว่าอาจจะกระทำความผิด กับคดีอั้งยี่ซ่องโจรหรือไม่ จึงมีปัญหาอยู่ในตอนนี้
ซึ่งแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลนี้ไม่สามารถ ที่จะดำเนินการได้แม้กระทั่งการปราบอาชญากรรม ที่มีความร้ายแรงขนาดนี้ จึงมีคำถามว่าศักยภาพของรัฐบาลนี้จะทำได้มากน้อยแค่ไหน และต้องไม่มองแค่สว.ต้องถามกลับไปด้วยว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)มีความผิดอะไรหรือไม่ ถึงปล่อยให้ระยะเวลาเนิ่นนานขนาดนี้ สมมุติว่ามีการกระทำความผิดจริง ไม่ว่าจะเป็นการฮั้วสว.หรืออะไร แต่กกต.ปล่อยระยะเวลาให้เนิ่นนานขนาดนี้ ตนคิดว่าเจ้าหน้าที่ของกกต.ก็น่าสงสัยเหมือนกัน ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือกระทำความผิดด้วยหรือไม่
เมื่อถามว่าเป็นเพราะการพบกันของผู้มีอิทธิพลทั้งในและนอกรัฐบาลหรือไม่จึงทำให้คดีสว.เหลือเพียงแค่คดีฟอกเงิน นาย
รังสิมันต์ กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าสถานภาพของรัฐบาลที่มีความไม่ที่มีความไม่แน่นอนสูง เป็นสภาวะเสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกัน ซึ่งทำให้ปัญหาความเป็นเอกภาพของรัฐบาลที่ต้องยอมรับว่ามีอยู่ เพราะมีการปะทะกันระหว่างการทำงานของสองขั้ว ทำให้การทำงานไม่มีความเป็นเอกภาพ การที่เราจะบอกว่าเสือตัวไหนแข็งแรง จะดูแค่ที่นั่งสส.ไม่ได้ เพราะมีปัจจัยที่มากกว่านั้น
เมื่อเป็นแบบนี้ยิ่งทำให้เสถียรภาพของรัฐบาลมีความอ่อนแอลง ผนวกกับมีผู้มีอำนาจที่อยู่นอกรัฐบาลเข้ามามีปัจจัยเกี่ยวข้อง ในการล็อบบี้ต่างๆ สุดท้ายจึงทำให้ดีเอสไอไม่สามารถที่จะทำคดีเรื่องนี้เป็นคดีพิเศษได้อย่างเต็มที่ การตั้งข้อกล่าวหาจึงดูค่อนข้างแปลกประหลาด
เมื่อถามว่าการที่ตั้งคดีแค่การฟอก คิดว่าจะส่งผลอะไรกับสว.ชุดนี้บ้าง นาย
รังสิมันต์ กล่าวว่า ถ้าดูจากบรรยากาศแบบนี้แสดงให้เห็นว่านายกรัฐมนตรีไม่มีศักยภาพ ในการที่จะใช้ในการที่จะบังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มที่ เมื่อเป็นแบบนี้ถ้ามีผู้กระทำความผิดฮั้วสว.จริง เขาอาจจะฉลองแชมเปญกันไปแล้ว เพราะแสดงให้เห็นว่า ปัญหาเรื่องนี้คงไม่สามารถคลี่คลายได้โดยง่าย และเป็นบทพิสูจน์ว่าตัวรัฐบาลในการบังคับใช้กฎหมายอ่อนแอมาก มากกว่าที่จะแสดงถึงความเข้มแข็ง คือการบังคับใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่ง มาจากหลายปัจจัย ส่วนหนึ่งคือภาวะผู้นำของนายกฯ มากเพียงพอหรือไม่ว่ามีภาวะผู้นำที่เข้มแข็งมากเพียงพอหรือไม่ ในการที่ทำให้ทุกฝ่ายเชื่อมั่นว่า รัฐบาลนี้เอาจริงเอาจังกับการบังคับใช้กฎหมาย ที่จะทำให้ทุกฝ่ายซึ่งรวมไปถึงพรรคร่วมรัฐบาล ให้ความเชื่อมั่นว่านี่คือรัฐบาลที่เขาต้องยอมรับ และการเป็นผู้นำต่อไป ถ้าปัญหานี้ไม่ได้รับการแก้ไข ปัญหาอาชญากรรมต่างๆที่เชื่อมโยงกับผู้มีอำนาจฝ่ายต่างๆ ก็อาจจะไม่ได้รับการแก้ไขต่อไป และเป็นปัญหาร้ายแรงของประเทศต่อไป
เมื่อถามย้ำว่า การตั้งข้อหาแค่นี้ไม่ทำให้เก้าอี้สว.สั่นสะเทือน นายรังสิมันต์กล่าวว่า ตนคิดว่ายังอีกไกลที่จะไปบอกว่าสะเทือนหรือไม่สะเทือนร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะดูได้จากผลโหวตที่ออกมาก็ชัดว่ารัฐบาลมีความเข้มแข็งเพียงพอในการบังคับใช้กฎหมาย เพราะการออกมาในรูปคดีฟอกเงินสุดท้ายแล้วก็ต้องมาหาคดีมูลฐานอยู่ดี
เมื่อถามว่าผู้ลาประชุมส่วนใหญ่เป็นตำรวจ ที่อยู่ในการกำกับดูแลของนายกรัฐมนตรี สะท้อนว่านายกรัฐมนตรีกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่ได้หรือไม่ นาย
รังสิมันต์กล่าวว่า ขนาดตำรวจอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของนายกรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรียังเอาไม่อยู่เลย อย่างผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มอบหมายให้คนมาแทน แล้วมาไม่ได้ อย่างนี้มอบหมายทำไม เรารู้อยู่แล้วว่าวิธีการเช่นนี้ “
มีคุณเขาขอมา” คุณก็เลยใช้วิธีขอลาไม่เข้าประชุมตั้งแต่ต้น กะว่าจะไม่ผิดใจกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง คงคิดว่าวิธีการนี้เป็นวิธีการที่ดีที่สุด แต่การทำแบบนี้ แสดงให้เห็นว่าแม้กระทั่งตำรวจเองก็ไม่สนใจนายกรัฐมนตรีเลย และจริงๆแล้วนายภูมิธรรม เวชยชัย ซึ่งเป็นรองนายกฯด้านความมั่นคง ตำรวจยังไม่ให้ความเคารพนับถือเลย จึงกลับไปที่ตัวนายกฯว่าที่ตำรวจ และองค์กรต่างๆไม่เชื่อฟัง เพราะนายกฯไม่มีภาวะความเป็นผู้นำ
“ผมเชื่อว่ามีการต่อรอง และดิวกันทาง การเมืองต่อไป ผมว่าเกมเรื่องนี้สำหรับฝ่ายต่างๆยังคงอีกไกล และ ผมไม่อยากเดาว่า เรื่องนี้จะเกี่ยวข้องกับการที่นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ยูไนเต็ด เข้าพบนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ แต่เชื่อว่าทุกมูฟเม้นท์ ทุกย่างก้าว ของฝ่ายต่างๆ ล้วนถูกนำไปตีความในหลายๆด้านอยู่แล้ว ผมคงไม่ต้องลงรายละเอียดว่าสว.สีน้ำเงินหมายถึงอะไร แต่ทุกย่างก้าวของฝ่ายการเมืองจะนำไปสู่การตั้งคำถาม ซึ่งหลายๆคำถามเป็นคำถามที่ไม่ดีเลย แต่เป็นคำถามที่ประชาชนสงสัย และรู้สึกไม่ดีกับรัฐบาลเพิ่มขึ้น “นาย
รังสิมันต์ กล่าว
เกษตรกร ไม่เห็นด้วย เปลี่ยนนาข้าวไปปลูกกล้วย แก้ปัญหาราคาข้าวตกต่ำ ชี้ต้องลงทุนเพิ่มหลายอย่าง
https://www.matichon.co.th/region/news_5080433
เกษตรกร ไม่เห็นด้วย เปลี่ยนนาข้าวไปปลูกกล้วย แก้ปัญหาราคาข้าวตกต่ำ ชี้ต้องลงทุนเพิ่มหลายอย่าง
วันที่ 7 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่นาย
พิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ ผุดไอเดียให้ชาวนาปลูกกล้วยแทนข้าว แก้ปัญหาราคาข้าว ทำให้เกษตรกรส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดดังกล่าวนั้น
ด้านนาย
สมาน ศรีคำบ่อ เกษตรกรบ้านวังยาว กล่าวว่า ปกติมีอาชีพรับเหมาก่อสร้าง มีนาพื้นที่ 5 ไร่ โดยปีนี้ราคาข้าวค่อนข้าวตกต่ำ ราคา ณ ปัจจุบัน อยู่ที่กิโลกรัมละ 5-6 บาท ซึ่งราคาไม่ดี เพราะต้องลงทุนทำนา ต้องหว่านปุ๋ยถึง 3 รอบ ลงทุนไปแล้วหมื่นกว่าบาท ถ้าจะให้ดี ราคาข้าวนาปรัง ควรที่จะอยู่ที่กิโลกรัมละ 8-10 บาท ชาวนาถึงจะอยู่ได้
ส่วนจะให้เปลี่ยนจากนาข้าวมาปลูกกล้วยนั้น ไม่เห็นด้วย และไม่คิดว่าจะเป็นไปได้ เพราะหากต้องปลูกกล้วย ก็ต้องลงทุน ไถปรับพื้นที่ใหม่ ต้องลงทุนเพิ่มอีก กว่าจะได้ผลผลิตกล้วยก็ต้องรออีก 7-8 เดือน และพอได้ผลผลิตมาแล้ว ตลาดที่จะขาย จะไปหาที่ไหน จะมีตลาดรองรับหรือไม่ ปลูกข้าว ก็รอแค่ 3-4 เดือน ก็ได้ข้าวแล้ว เหลือแต่ราคาข้าวที่รัฐบาลต้องเข้ามาช่วยดูแล
ม็อบ ภปค.-ภาคปชช. นัดบุก สธ. ยื่นคัดค้าน 4 ประเด็น ปลดล็อกขายเหล้า 5 วันพระใหญ่
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_9663616
ม็อบ ภปค.-ภาคปชช. บุก สาธารณสุข นัดรวมพล ดักพบ รมว.สธ. ยื่นคัดค้าน 4 ประเด็น ปลดล็อกขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 5 วันพระใหญ่
7 มี.ค. 68 – จากกรณีที่ คณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ เห็นชอบในหลักการพิจารณาแนวทางการยกเลิก หรือแก้ไขปรับปรุงประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี
เรื่อง กำหนดวันห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2567 ประเด็นการกำหนดเวลาขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และมอบหมายให้คณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พิจารณามาตรการควบคุมเวลา และสถานที่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีการประชุมเวลา 13.00 น. ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) วาระการพิจารณาหลัก คือ การผ่อนปรนให้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ใน 5 วันพระใหญ่ ในพื้นที่ที่กำหนด เช่น ขายในโรงแรม ตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม สถานบริการตามกฎหมายว่าด้วยสถานบริการ และงานอีเวนต์ ซึ่งเป็นไปตามความเห็นของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
นอกจากนั้น ยังมีการพิจารณาผ่อนปรน เรื่องสถานที่ หรือบริเวณห้ามขาย และห้ามบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้กับ การรถไฟแห่งประเทศไทย เช่น โถงสถานีกรุงเทพ (ห้องปรับอากาศ) ภายในสถานีรถไฟกรุงเทพ และกรณีรถเช่าเหมาคัน
วันเดียวกัน เวลา 14.00 น. ภาคีป้องกันและลดผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ภปค.) และภาคประชาชน ได้นัดหมายรวมตัวกัน เพื่อรอพบกับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข โดยจะมีการยื่นคัดค้าน ใน 4 ประเด็น ได้แก่ กฎหมายให้ขายเหล้าวันพระใหญ่ การขายผ่านระบบออนไลน์ การขายบนรถไฟและสถานี และการเพิ่มเวลาขาย
JJNY : โรมเชื่อส.ว.เปิดแชมเปญฉลอง│ไม่เห็นด้วยเปลี่ยนนาข้าวไปปลูกกล้วย│ม็อบนัดบุกสธ.│ยุโรปเสริมเขี้ยวเล็บหลังสหรัฐเปลี่ยน
https://www.matichon.co.th/politics/news_5080496
เมื่อวันที่ 7 มีนาคม เวลา 09.30 น.ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการสอบสวนคดีพิเศษ(กคพ.)รับคดีฮั้วเลือกสว. เป็นคดีพิเศษฐานความผิดฟอกเงิน ว่า เวลาจะพูดถึงฟอกเงินต้องมีคดีมูลฐานก่อน ซึ่งตนงงว่าจะตั้งฐานโดยใช้คดีมูลฐานอั้งยี่ซ่องโจร ก็จะสามารถไปคดึฟอกเงินได้ แต่เมื่อตั้งต้นจากคดีฟอกเงินก่อน ก็จะต้องกลับไปตั้งต้นว่าคดีมูลฐานเป็นอย่างไร หากถามว่าทำได้หรือไม่ ตั้งเป็นคดีฟอกเงินก็ทำได้ แต่อาจจะต้องตั้งต้นจากอั้งยี่ซ่องโจรเป็นหลัก ซึ่งตนเข้าใจว่ามีปัญหาเรื่องของการล็อบบี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่แปลกประหลาด เพราะเริ่มต้นพิจารณาตำรวจหายไปถึงสามคน ทั้งที่ตำรวจอยู่ภายใต้กำกับดูแลของนายกรัฐมนตรี ซึ่งแทบจะเรียกได้ว่าเป็นผู้บัญชาการสูงสุดของตำรวจ ทำไมถึงไม่สามารถกำกับดูแลให้ตำรวจปฎิบัติหน้าที่ของตัวเองในบอร์ดดีเอสไอได้
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่าต้องยอมรับกันตรงๆว่า มีผู้ที่มาเกี่ยวข้อง มาแทรกแซงแล้วทำให้กระบวนการของดีเอสไอที่มีการประกาศไปเมื่อวันที่ 6 มี.ค.ที่ผ่านมา อาจจะดูแปลกประหลาด กลายเป็นว่าแทนที่จะสามารถตั้งต้นได้จากอั้งยี่ซ่องโจร แล้วไปในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินก็จะเดินไปได้ดีกว่า จริงๆแล้วต้องยอมรับว่ารัฐบาลพยายามที่จะเปิดปฎิบัติการอย่างหนักในเรื่องนี้ แต่แสดงให้เห็นว่า การที่มีบุคคลภายนอก เข้ามา แทรกแซงแล้วทำให้ฐานที่จะดำเนินการเอาผิดกับส.ว. ชุดนี้ว่าอาจจะกระทำความผิด กับคดีอั้งยี่ซ่องโจรหรือไม่ จึงมีปัญหาอยู่ในตอนนี้
ซึ่งแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลนี้ไม่สามารถ ที่จะดำเนินการได้แม้กระทั่งการปราบอาชญากรรม ที่มีความร้ายแรงขนาดนี้ จึงมีคำถามว่าศักยภาพของรัฐบาลนี้จะทำได้มากน้อยแค่ไหน และต้องไม่มองแค่สว.ต้องถามกลับไปด้วยว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)มีความผิดอะไรหรือไม่ ถึงปล่อยให้ระยะเวลาเนิ่นนานขนาดนี้ สมมุติว่ามีการกระทำความผิดจริง ไม่ว่าจะเป็นการฮั้วสว.หรืออะไร แต่กกต.ปล่อยระยะเวลาให้เนิ่นนานขนาดนี้ ตนคิดว่าเจ้าหน้าที่ของกกต.ก็น่าสงสัยเหมือนกัน ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือกระทำความผิดด้วยหรือไม่
เมื่อถามว่าเป็นเพราะการพบกันของผู้มีอิทธิพลทั้งในและนอกรัฐบาลหรือไม่จึงทำให้คดีสว.เหลือเพียงแค่คดีฟอกเงิน นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าสถานภาพของรัฐบาลที่มีความไม่ที่มีความไม่แน่นอนสูง เป็นสภาวะเสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกัน ซึ่งทำให้ปัญหาความเป็นเอกภาพของรัฐบาลที่ต้องยอมรับว่ามีอยู่ เพราะมีการปะทะกันระหว่างการทำงานของสองขั้ว ทำให้การทำงานไม่มีความเป็นเอกภาพ การที่เราจะบอกว่าเสือตัวไหนแข็งแรง จะดูแค่ที่นั่งสส.ไม่ได้ เพราะมีปัจจัยที่มากกว่านั้น
เมื่อเป็นแบบนี้ยิ่งทำให้เสถียรภาพของรัฐบาลมีความอ่อนแอลง ผนวกกับมีผู้มีอำนาจที่อยู่นอกรัฐบาลเข้ามามีปัจจัยเกี่ยวข้อง ในการล็อบบี้ต่างๆ สุดท้ายจึงทำให้ดีเอสไอไม่สามารถที่จะทำคดีเรื่องนี้เป็นคดีพิเศษได้อย่างเต็มที่ การตั้งข้อกล่าวหาจึงดูค่อนข้างแปลกประหลาด
เมื่อถามว่าการที่ตั้งคดีแค่การฟอก คิดว่าจะส่งผลอะไรกับสว.ชุดนี้บ้าง นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ถ้าดูจากบรรยากาศแบบนี้แสดงให้เห็นว่านายกรัฐมนตรีไม่มีศักยภาพ ในการที่จะใช้ในการที่จะบังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มที่ เมื่อเป็นแบบนี้ถ้ามีผู้กระทำความผิดฮั้วสว.จริง เขาอาจจะฉลองแชมเปญกันไปแล้ว เพราะแสดงให้เห็นว่า ปัญหาเรื่องนี้คงไม่สามารถคลี่คลายได้โดยง่าย และเป็นบทพิสูจน์ว่าตัวรัฐบาลในการบังคับใช้กฎหมายอ่อนแอมาก มากกว่าที่จะแสดงถึงความเข้มแข็ง คือการบังคับใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่ง มาจากหลายปัจจัย ส่วนหนึ่งคือภาวะผู้นำของนายกฯ มากเพียงพอหรือไม่ว่ามีภาวะผู้นำที่เข้มแข็งมากเพียงพอหรือไม่ ในการที่ทำให้ทุกฝ่ายเชื่อมั่นว่า รัฐบาลนี้เอาจริงเอาจังกับการบังคับใช้กฎหมาย ที่จะทำให้ทุกฝ่ายซึ่งรวมไปถึงพรรคร่วมรัฐบาล ให้ความเชื่อมั่นว่านี่คือรัฐบาลที่เขาต้องยอมรับ และการเป็นผู้นำต่อไป ถ้าปัญหานี้ไม่ได้รับการแก้ไข ปัญหาอาชญากรรมต่างๆที่เชื่อมโยงกับผู้มีอำนาจฝ่ายต่างๆ ก็อาจจะไม่ได้รับการแก้ไขต่อไป และเป็นปัญหาร้ายแรงของประเทศต่อไป
เมื่อถามย้ำว่า การตั้งข้อหาแค่นี้ไม่ทำให้เก้าอี้สว.สั่นสะเทือน นายรังสิมันต์กล่าวว่า ตนคิดว่ายังอีกไกลที่จะไปบอกว่าสะเทือนหรือไม่สะเทือนร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะดูได้จากผลโหวตที่ออกมาก็ชัดว่ารัฐบาลมีความเข้มแข็งเพียงพอในการบังคับใช้กฎหมาย เพราะการออกมาในรูปคดีฟอกเงินสุดท้ายแล้วก็ต้องมาหาคดีมูลฐานอยู่ดี
เมื่อถามว่าผู้ลาประชุมส่วนใหญ่เป็นตำรวจ ที่อยู่ในการกำกับดูแลของนายกรัฐมนตรี สะท้อนว่านายกรัฐมนตรีกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่ได้หรือไม่ นายรังสิมันต์กล่าวว่า ขนาดตำรวจอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของนายกรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรียังเอาไม่อยู่เลย อย่างผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มอบหมายให้คนมาแทน แล้วมาไม่ได้ อย่างนี้มอบหมายทำไม เรารู้อยู่แล้วว่าวิธีการเช่นนี้ “มีคุณเขาขอมา” คุณก็เลยใช้วิธีขอลาไม่เข้าประชุมตั้งแต่ต้น กะว่าจะไม่ผิดใจกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง คงคิดว่าวิธีการนี้เป็นวิธีการที่ดีที่สุด แต่การทำแบบนี้ แสดงให้เห็นว่าแม้กระทั่งตำรวจเองก็ไม่สนใจนายกรัฐมนตรีเลย และจริงๆแล้วนายภูมิธรรม เวชยชัย ซึ่งเป็นรองนายกฯด้านความมั่นคง ตำรวจยังไม่ให้ความเคารพนับถือเลย จึงกลับไปที่ตัวนายกฯว่าที่ตำรวจ และองค์กรต่างๆไม่เชื่อฟัง เพราะนายกฯไม่มีภาวะความเป็นผู้นำ
“ผมเชื่อว่ามีการต่อรอง และดิวกันทาง การเมืองต่อไป ผมว่าเกมเรื่องนี้สำหรับฝ่ายต่างๆยังคงอีกไกล และ ผมไม่อยากเดาว่า เรื่องนี้จะเกี่ยวข้องกับการที่นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ยูไนเต็ด เข้าพบนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ แต่เชื่อว่าทุกมูฟเม้นท์ ทุกย่างก้าว ของฝ่ายต่างๆ ล้วนถูกนำไปตีความในหลายๆด้านอยู่แล้ว ผมคงไม่ต้องลงรายละเอียดว่าสว.สีน้ำเงินหมายถึงอะไร แต่ทุกย่างก้าวของฝ่ายการเมืองจะนำไปสู่การตั้งคำถาม ซึ่งหลายๆคำถามเป็นคำถามที่ไม่ดีเลย แต่เป็นคำถามที่ประชาชนสงสัย และรู้สึกไม่ดีกับรัฐบาลเพิ่มขึ้น “นายรังสิมันต์ กล่าว
เกษตรกร ไม่เห็นด้วย เปลี่ยนนาข้าวไปปลูกกล้วย แก้ปัญหาราคาข้าวตกต่ำ ชี้ต้องลงทุนเพิ่มหลายอย่าง
https://www.matichon.co.th/region/news_5080433
เกษตรกร ไม่เห็นด้วย เปลี่ยนนาข้าวไปปลูกกล้วย แก้ปัญหาราคาข้าวตกต่ำ ชี้ต้องลงทุนเพิ่มหลายอย่าง
วันที่ 7 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ ผุดไอเดียให้ชาวนาปลูกกล้วยแทนข้าว แก้ปัญหาราคาข้าว ทำให้เกษตรกรส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดดังกล่าวนั้น
ด้านนายสมาน ศรีคำบ่อ เกษตรกรบ้านวังยาว กล่าวว่า ปกติมีอาชีพรับเหมาก่อสร้าง มีนาพื้นที่ 5 ไร่ โดยปีนี้ราคาข้าวค่อนข้าวตกต่ำ ราคา ณ ปัจจุบัน อยู่ที่กิโลกรัมละ 5-6 บาท ซึ่งราคาไม่ดี เพราะต้องลงทุนทำนา ต้องหว่านปุ๋ยถึง 3 รอบ ลงทุนไปแล้วหมื่นกว่าบาท ถ้าจะให้ดี ราคาข้าวนาปรัง ควรที่จะอยู่ที่กิโลกรัมละ 8-10 บาท ชาวนาถึงจะอยู่ได้
ส่วนจะให้เปลี่ยนจากนาข้าวมาปลูกกล้วยนั้น ไม่เห็นด้วย และไม่คิดว่าจะเป็นไปได้ เพราะหากต้องปลูกกล้วย ก็ต้องลงทุน ไถปรับพื้นที่ใหม่ ต้องลงทุนเพิ่มอีก กว่าจะได้ผลผลิตกล้วยก็ต้องรออีก 7-8 เดือน และพอได้ผลผลิตมาแล้ว ตลาดที่จะขาย จะไปหาที่ไหน จะมีตลาดรองรับหรือไม่ ปลูกข้าว ก็รอแค่ 3-4 เดือน ก็ได้ข้าวแล้ว เหลือแต่ราคาข้าวที่รัฐบาลต้องเข้ามาช่วยดูแล
ม็อบ ภปค.-ภาคปชช. นัดบุก สธ. ยื่นคัดค้าน 4 ประเด็น ปลดล็อกขายเหล้า 5 วันพระใหญ่
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_9663616
ม็อบ ภปค.-ภาคปชช. บุก สาธารณสุข นัดรวมพล ดักพบ รมว.สธ. ยื่นคัดค้าน 4 ประเด็น ปลดล็อกขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 5 วันพระใหญ่
7 มี.ค. 68 – จากกรณีที่ คณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ เห็นชอบในหลักการพิจารณาแนวทางการยกเลิก หรือแก้ไขปรับปรุงประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี
เรื่อง กำหนดวันห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2567 ประเด็นการกำหนดเวลาขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และมอบหมายให้คณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พิจารณามาตรการควบคุมเวลา และสถานที่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีการประชุมเวลา 13.00 น. ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) วาระการพิจารณาหลัก คือ การผ่อนปรนให้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ใน 5 วันพระใหญ่ ในพื้นที่ที่กำหนด เช่น ขายในโรงแรม ตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม สถานบริการตามกฎหมายว่าด้วยสถานบริการ และงานอีเวนต์ ซึ่งเป็นไปตามความเห็นของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
นอกจากนั้น ยังมีการพิจารณาผ่อนปรน เรื่องสถานที่ หรือบริเวณห้ามขาย และห้ามบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้กับ การรถไฟแห่งประเทศไทย เช่น โถงสถานีกรุงเทพ (ห้องปรับอากาศ) ภายในสถานีรถไฟกรุงเทพ และกรณีรถเช่าเหมาคัน
วันเดียวกัน เวลา 14.00 น. ภาคีป้องกันและลดผลกระทบจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ภปค.) และภาคประชาชน ได้นัดหมายรวมตัวกัน เพื่อรอพบกับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข โดยจะมีการยื่นคัดค้าน ใน 4 ประเด็น ได้แก่ กฎหมายให้ขายเหล้าวันพระใหญ่ การขายผ่านระบบออนไลน์ การขายบนรถไฟและสถานี และการเพิ่มเวลาขาย