4เมนูนี้หากทิ้งข้ามคืนห้ามนำกลับมากิน เพราะมีพิษเหมือน “สารหนู” และ อย่าหาทำ! ห้ามใช้‘ยาสีฟัน’ ทาแผลไฟไหม้-น้ำร้อนลวก

เตือนแล้วนะ! ไม่ว่าคุณจะประหยัดแค่ไหน อย่ากิน 4 จานนี้หลังจากทิ้งข้ามคืน เพราะพวกมันมีพิษเหมือนสารหนู

เมื่อวันที่ 20 ก.พ.การออมเป็นคุณธรรมที่ดี แต่ก็ถูกที่ถูกเวลาและถูกที่ด้วย ไม่ว่าคุณจะประหยัดแค่ไหน หากปล่อยทิ้งไว้ข้ามคืน 4 สิ่งต่อไปนี้ก็ควรทิ้งไปเพราะมันมี “พิษ” มาก

นักโภชนาการ “ลี่ เหวียน ปิง” จากโรงพยาบาลไทเปแม็คเคย์ ไต้หวันเตือนว่า การประหยัดเงินอย่างไม่ถูกต้องในการปรุงอาหารและถนอมอาหารอาจทำให้เราต้องเสียค่ารักษาพยาบาลที่สูงมาก ในหมู่พวกเขา นิสัยการเก็บและรับประทานอาหารที่เหลือจากมื้ออาหารหลายมื้อเป็นเรื่องปกติมาก

ในขณะเดียวกัน อาหารบางชนิดหากเก็บไว้ไม่ถูกต้องหรืออุ่นซ้ำ ก็สามารถผลิตสารพิษที่เป็นอันตรายได้เช่นเดียวกับสารหนู ดังนั้นเพื่อประหยัดเงินควรทิ้งอาหาร 4 อย่างต่อไปนี้หากปรุงแล้ว รับประทานของเหลือ และทิ้งไว้ข้ามคืนแม้จะเก็บไว้ในตู้เย็นก็ตาม
asian young couple open refrigerator in kitchen and there has bad smell from food or dishes

ผักใบเขียวต้มสุก
ผักใบเขียว เช่น ผักโขม ผักบุ้ง และผักคะน้า มีไนเตรตตามธรรมชาติอยู่มาก เมื่อทิ้งไว้ข้ามคืน แบคทีเรียจะมีเวลาย่อยสลายไนเตรตให้เป็นไนไตรต์ ซึ่งเป็นสารประกอบที่สามารถสร้างไนโตรซามีนเมื่อเข้าสู่ร่างกาย ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งกระเพาะอาหาร และมะเร็งหลอดอาหารเพิ่มขึ้น แม้จะแช่เย็นไว้แล้ว ผักก็ยังสามารถเกิดออกซิเดชัน สูญเสียสารอาหาร และกลายเป็นแหล่งของสารพิษที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพอย่างเงียบๆ ได้

อาหารทะเลปรุงสุก
อาหารทะเล เช่น กุ้ง ปลา และปลาหมึก มีโปรตีนสูงซึ่งสามารถออกซิไดซ์ได้ง่าย เมื่อทิ้งไว้ข้ามคืน แม้แต่ในตู้เย็น โปรตีนเหล่านี้ก็สามารถเปลี่ยนเป็นสารพิษได้ ส่งผลให้ตับและไตทำงานหนักในระหว่างการย่อยอาหาร หากไม่ได้อุ่นอาหารทะเลอย่างถูกวิธี ก็ถือเป็นสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ทำให้เกิดอาหารเป็นพิษ มีอาการเช่น ปวดท้อง ท้องเสีย และคลื่นไส้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “หากทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้องนานเกินไปก่อนแช่เย็น” ความเสี่ยงต่อการปนเปื้อนของแบคทีเรียจะยิ่งสูงขึ้น

อาหารทอด
แน่นอนว่าอาหารทอดไม่ดีต่อสุขภาพ เนื่องจากมีไขมันอยู่มาก เมื่อทิ้งไว้ข้ามคืนแล้วนำไปอุ่นซ้ำที่อุณหภูมิสูง อาจทำให้เกิดอะคริลาไมด์ ซึ่งเป็นสารประกอบที่สามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็ง และทำให้เกิดความเสียหายต่อเส้นประสาทได้ ยิ่งไปกว่านั้น น้ำมันที่ทอดซ้ำยังก่อให้เกิดอนุมูลอิสระจำนวนมาก  ซึ่งส่งผลต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด และส่งเสริมการแก่ของเซลล์ด้วย

ไข่แปรรูป โดยเฉพาะไข่ที่ปรุงไม่สุก
ไข่ลวกหรือไข่ดาวที่ทิ้งไว้ข้ามคืน อาจกลายเป็นแหล่งสะสมเชื้อแบคทีเรียซัลโมเนลลาและอีโคไลได้ หากไม่ได้เก็บรักษาอย่างถูกต้อง เมื่อนำไข่ไปอุ่นซ้ำๆ โปรตีนในไข่จะเสียสภาพ ทำให้เกิดอาการอาหารไม่ย่อย และเพิ่มความเสี่ยงต่ออาการปวดท้องและท้องอืด โดยเฉพาะยิ่งไข่ดิบหรือไข่ลวก ซึ่งมีความเสี่ยงสูงต่อการปนเปื้อนของแบคทีเรีย ทำให้เกิดอาหารเป็นพิษร้ายแรงได้ ถึงขั้นคุกคามชีวิตทีเดียว
เคล็ดลับการเก็บอาหารให้ปลอดภัย

นักโภชนาการ “ลี่ เหวียน ปิง”  ย้ำว่า ไม่เพียงแต่อาหารที่เหลือข้ามคืน 4 อย่างข้างต้นเท่านั้นที่เป็นอันตราย แต่ควรปรุงอาหารแต่ละมื้อด้วยปริมาณที่พอเหมาะเท่านั้น ทั้งนี้ หากจำเป็นต้องเก็บอาหารไว้ข้ามคืน โปรดจำ 3 ข้อนี้ไว้ คือ

ควรแช่เย็นอย่างเหมาะสม : ใส่อาหารในภาชนะที่ปิดสนิท จัดเก็บในตู้เย็นที่อุณหภูมิต่ำกว่า 5 องศาเซลเซียส และไม่ควรทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้องนานเกินไปก่อนแช่เย็น
อุ่นให้ร้อนอย่างทั่วถึง : เมื่ออุ่นอาหาร ควรอุ่นที่อุณหภูมิอย่างน้อย 100 องศาเซลเซียส เพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ไม่ควรทิ้งอาหารไว้เกิน 24 ชั่วโมง : อาหารที่ทิ้งไว้ข้ามคืนควรทานให้หมดภายใน 1 วันเท่านั้น และไม่ควรอุ่นซ้ำหลายครั้ง... 

สามารถติดตามต่อได้ที่ : https://www.dailynews.co.th/news/4420169/



อย่าหาทำ! ห้ามใช้‘ยาสีฟัน’ ทาแผลไฟไหม้-น้ำร้อนลวก

แผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก เป็นอุบัติเหตุที่จำเป็นต้องได้รับการปฐมพยาบาลอย่างถูกต้อง แต่ยังมีบอกเล่าถึงความเชื่อต่างๆเกี่ยวกับการรักษาแผลจากอุบัติเหตุที่ว่านี้

สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) มีเกร็ดความรู้เกี่ยวกับแผลไฟไหม้ และแผลน้ำร้อนลวกนั้น มีระดับความลึกของบาดแผลหลายระดับ หากเป็นบาดแผลระดับลึก หรือมีขนาดกว้าง จึงควรรีบส่งโรงพยาบาลทันที การปฐมพยาบาลที่ถูกวิธี เพื่อให้อาการเบื้องต้นทุเลาลงก่อนไปพบแพทย์เป็นเรื่องที่สำคัญ ดังนี้
1.ล้างด้วยน้ำสะอาดอุณหภูมิปกติ หรืออาจใช้สบู่อ่อนชะล้างสิ่งสกปรกออกไปก่อนล้างด้วยน้ำสะอาด
2.ซับด้วยผ้าแห้งสะอาด แล้วสังเกตว่าถ้าผิวหนังมีรอยถลอก มีตุ่มพองใส หรือมีสีของผิวหนังเปลี่ยนไป ควรรีบไปพบแพทย์

อย่างไรก็ตามยังมี 4 ความเชื่อที่ถูกส่งแชร์ข้อมูลลงในโลกโซเชียล ถึงวิธีการปฐมพยาบาลเป็นที่ถูกต้องหรือไม่
1.นำยาสีฟันทาบริเวณที่เป็นแผล : ไม่จริง
เพราะยาสีฟัน ไม่ได้มีส่วนช่วยทำให้แผลหายเร็วขึ้น เสี่ยงทำให้แผลเกิดอาการระคายเคือง มีโอกาสติดเชื้อ และรักษาได้ยากขึ้น
2.นำน้ำปลามาทาบริเวณที่เป็นแผล : ไม่จริง
เพราะน้ำปลาจะทำให้เกิดอาการระคายเคืองต่อบาดแผล และไม่ได้มีส่วนช่วยทำให้แผลหายเร็วขึ้น ขณะที่อาการแสบแผลเสี่ยงต่อการเกิดแผลติดเชื้อ
3.นำว่านหางจระเข้ไปวางบนแผล เพื่อบรรเทาอาการแสบร้อน : จริง
ก่อนใช้ควรทำความสะอาดแผลโดยใช้น้ำสะอาด จากนั้นสามารถนำว่านหางจระเข้มาปอกเปลือกแล้วล้างยางสีเหลืองออกให้หมด ให้เหลือแต่วุ้นใสๆ แล้วนำไปวางบริเวณที่เป็นแผล นอกจากนี้ ในปัจจุบันยังมีผลิตภัณฑ์เจลว่านหางจระเข้ขายอยู่ทั่วไปตามร้านขายยา โดยการเลือกซื้อควรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนหรือที่มีเครื่องหมาย อย.
4.นำน้ำแข็งมาประคบบริเวณแผล เพื่อบรรเทาอาการแสบร้อน : ไม่จริง
ความจริงแล้ว เมื่อเกิดบาดแผล ไฟไหม้น้ำร้อนลวก หลังจากทำความสะอาดบาดแผลเสร็จแล้ว การใช้ความเย็นมาประคบบริเวณที่เกิดแผล จะสามารถบรรเทาอาการปวดได้ แต่ไม่แนะนำให้นำน้ำแข็งมาประคบ เพราะน้ำแข็งอาจมีสิ่งสกปรกติดมาตามน้ำแข็ง อาจทำให้แผลติดเชื้อได้... 

สามารถติดตามต่อได้ที่ : https://www.dailynews.co.th/news/4425621/

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่