เที่ยวเมือง Asakura จังหวัด Fukuoka เมืองเก่าแห่งผลไม้ ออนเซ็น เครื่องปั้นดินเผา

สัมผัสเสน่ห์แห่งอาซากุระ: ดินแดนแห่งผลไม้ ออนเซ็น และศิลปหัตถกรรม

อาซากุระ (Asakura) จังหวัดฟุกุโอกะ เป็นเมืองเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ทางธรรมชาติและวัฒนธรรม ตั้งอยู่ทางตอนกลางของจังหวัด ขับรถจากตัวเมืองฟุกุโอกะเพียง40 นาทีก็ถึงแล้ว ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสบรรยากาศชนบทของญี่ปุ่น พร้อมเพลิดเพลินกับผลไม้รสเลิศ แช่ออนเซ็นผ่อนคลาย และชมศิลปะเครื่องปั้นดินเผาอันเก่าแก่

1. ดินแดนแห่งผักและผลไม้
 อาซากุระขึ้นชื่อเรื่องผักและผลไม้สดอร่อย โดยเฉพาะลูกพลับและสตรอเบอร์รี่ ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงประมาณเดือนปลายเดือนต.ค.ถึงพ.ย. นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับการเก็บลูกพลับสด ๆ จากสวน รสชาติหวานฉ่ำและเนื้อแน่นเป็นเอกลักษณ์ 

ส่วนในช่วงฤดูหนาวถึงต้นฤดูใบไม้ผลิ อาซากุระเป็นแหล่งปลูกสตรอเบอร์รี่คุณภาพเยี่ยม ที่นักท่องเที่ยวสามารถเก็บและชิมได้จากฟาร์มโดยตรง นอกจากความสดใหม่แล้ว การเก็บผลไม้ยังเป็นกิจกรรมยอดนิยมที่เหมาะสำหรับครอบครัวอีกด้วย

สวนที่อยากแนะนำ คือ Ringo to Budo no Ki 林檎と葡萄の樹 ที่มีคาเฟ่เสิร์ฟพายแอปเปิ้ลที่โด่งดังอีกด้วย


2. เมืองเก่าอะคิซึกิ (Akizuki)
หากมาเที่ยวอาซากุระ ก็ไม่ควรพลาดมาเยี่ยมชม อะคิซึกิเป็นเมืองเก่าที่ได้รับฉายาว่า "ลิตเติลเกียวโตแห่งคิวชู" มีบรรยากาศที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของยุคซามูไร ปราสาทอะคิซึกิ (Akizuki Castle Ruins) ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1624 โดยดำริของตระกูลคุโรดะ ปัจจุบันแม้จะเหลือเพียงซากปรักหักพัง แต่ยังคงมีสถานที่สำคัญ เช่น "ประตูดำ (Kuro-mon)" ซึ่งเคยเป็นประตูใหญ่ของปราสาท นอกจากนี้ ถนน "ซุงิโนะบาบะ (Sugi no Baba-dori)" ซึ่งนำไปสู่ซากปราสาท ยังกลายเป็นอุโมงค์ซากุระในฤดูใบไม้ผลิ ซากุระที่เรียงรายตลอดถนนจะเปลี่ยนเมืองให้กลายเป็นภาพที่งดงามเหมือนหลุดออกมาจากภาพวาด 

ในช่วงใบไม้เปลี่ยนก็สวยไม่แพ้กัน


3.เครื่องปั้นดินเผาโคอิชิวาระยากิ (Koishiwarayaki)
อีกหนึ่งไฮไลต์ของอาซากุระคือ เครื่องปั้นดินเผาโคอิชิวาระยากิ ซึ่งมีประวัติยาวนานกว่า 350 ปี ลวดลายของเครื่องปั้นดินเผาชนิดนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยเทคนิคการเคลือบและการใช้ลายเส้นที่โดดเด่น นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมหมู่บ้านเครื่องปั้นดินเผา ทดลองทำเครื่องปั้นดินเผาด้วยตนเอง หรือเลือกซื้อภาชนะที่งดงามเป็นของที่ระลึกติดไม้ติดมือกลับบ้าน


4. กังหันน้ำอาซากุระซันเร็นซุยชะ (Asakura Sanren Suisha)
กังหันน้ำสามชั้นแห่งอาซากุระ เป็นหนึ่งในจุดที่แสดงถึงประวัติศาสตร์และวิถีชีวิตของชาวญี่ปุ่น 
กังหันน้ำสามชั้นแห่งอาซากุระเป็นกังหันน้ำที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่นและยังคงใช้งานได้จริง โดยเริ่มหมุนตั้งแต่วันที่ 17 มิถุนายนถึงประมาณต้นเดือนตุลาคมของทุกปีเพื่อสูบน้ำเข้าสู่พื้นที่เกษตรกรรม ภาพของกังหันน้ำที่หมุนอย่างต่อเนื่องเป็นเสน่ห์ที่สะท้อนถึงวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมของคนในพื้นที่ และยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่นอีกด้วย

5. ศาลเจ้าอิวายะ (Iwaya Shrine): ศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์ท่ามกลางธรรมชาติ
ศาลเจ้าอิวายะเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าเขา ศาลเจ้าอิวายะถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1698 โดยตระกูลคุโรดะ จุดเด่นคืออาคารหลักที่สร้างอยู่ในซอกหินขนาดใหญ่โดยไม่มีผนังด้านหลังและด้านข้าง ปัจจุบัน ศาลเจ้าแห่งนี้ยังคงเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มีผู้คนเดินทางมาสักการะเพื่อขอพรให้สมหวังในสิ่งที่ปรารถนา
นักท่องเที่ยวสามารถเดินขึ้นบันไดหินเพื่อไปสักการะและชมวิวธรรมชาติอันงดงาม รอบศาลเจ้ายังมีต้นไม้ใหญ่ที่สร้างบรรยากาศสงบเงียบ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวายและสัมผัสพลังแห่งธรรมชาติ

6. ออนเซ็นฮาราซุรุ (Harazuru Onsen): ผ่อนคลายในบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติ
ปิดท้ายทริปด้วย หากต้องการพักผ่อนจากความเหนื่อยล้า ออนเซ็นฮาราซุรุคือสถานที่ที่ไม่ควรพลาด ที่นี่เป็นหนึ่งในแหล่งน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงของฟุกุโอกะ มีน้ำแร่ที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุที่ช่วยบำรุงผิวพรรณและบรรเทาความเมื่อยล้า บริเวณรอบ ๆ ยังมีเรียวกังและโรงแรมที่ให้บริการออนเซ็นพร้อมวิวแม่น้ำชิคุโกะ (Chikugo River) ที่สวยงาม ทำให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสกับความสงบและผ่อนคลายอย่างแท้จริง




แล้วพบกันใหม่ กับเส้นทางการท่องเที่ยวในคิวชู

ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
FB : https://www.facebook.com/japan.discovery.thai/
LINE @japan.discovery.th

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่