[CR] ซากะ ตามรอยสถานที่ฮิต ที่นั่นก็สวย ที่นี่ก็ดี

สวัสดีครับ กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของผมครับ ผมอยู่ญี่ปุ่นมาหลายปีแต่ก็ไม่ค่อยไปเที่ยวที่ไหนเลย ในที่สุดก็ได้เดินทางไปทำงานที่ซากะ เลยถือโอกาสแวะเที่ยวด้วยเลย
เห็นว่าคนไทยเริ่มนิยมมาเที่ยวซากะ จึงอยากจะขอแชร์ประสบการณ์ที่ผมไปมา ผมพิมพ์ไม่ค่อยเก่ง อาศัยถ่ายรูปเอานะครับ

วันแรก : เดินทางจากสนามบินโตเกียวมาถึงสนามบินฟุคุโอกะ ผมเช่ารถยนต์มุ่งไปซากะ

ที่สนามบินฟุคุโอกะนั้นมีจุดบริการให้ข้อมูลนักท่องเที่ยวอยู่ด้วย

เริ่มที่แรก ศาลเจ้ายูโตขุอินาริ
ที่นี่มีคนไทยมาเที่ยวชมเยอะทีเดียว อาจเป็นเพราะว่าเป็นสถานที่ถ่ายทำหนังเรื่อง "Time Line" และละครเรื่อง "Stay"


ช่วงที่มาเป็นช่วงที่ซากุระกำลังบานสวยมาก


เข้าไปพูดคุยกับคุณลุงผู้ดูแลศาลเจ้า ให้ข้อมูลเยอะทีเดียว ใจดีแถมยังพูดภาษาไทยเก่งอีกด้วย

นี่เลย ขนมขึ้นชื่อของที่นี่ อร่อยห้ามพลาดเด็ดขาด

ไปกันต่อที่ เมืองอุเรชิโนะ
ผมเดินทางโดยรถยนต์จากศาลเจ้ายูโตขุอินาริมุ่งหน้าสู่เมืองอุเรชิโนะ

ที่นี่คือ ซีโบลท์โนะยุ ออนเซ็นที่มีชื่อเสียงของอุเรชิโนะ มีชาวต่างชาตินิยมมาใช้บริการกันมาก


เต้าหู้ที่ต้มโดยใช้น้ำแร่ออนเซ็น เป็นของกินขึ้นชื่อของอุเรชิโนะ
เต้าหู้ของที่นี่จะนิ่มๆ รสชาติแปลกกว่าที่เคยกินมา แต่รับรองว่าอร่อย

ระหว่างเดินเล่นเจอศาลาที่พักเห็นคนมานั่งกันอยู่เยอะเชียว พอลองเข้าไปใกล้เห็นทุกคนกำลังแช่เท้ากันอยู่


ที่นี่เป็นที่ให้ความอบอุ่นแก่เท้าโดยใช้ไอน้ำ ซึ่งถือเป็นแบบฉบับของญี่ปุ่นเลย
เดินเที่ยวจนเมื่อยขา ได้มานั่งพักแช่เท้าที่นี่ก็แทบจะหายเหนื่อยเลย


ศาลเจ้าโทโยทามะฮิเมะ และปลาดุกสีขาว

ไว้คราวหน้ามาอีกครั้งจะแช่ออนเซ็นและพักที่อุเรชิโนะสักคืน

ที่ต่อไปคือ เมืองทาเคโอะ เป็นสถานที่ที่น่าจดจำมาก

ที่ศาลเจ้าทาเคโอะ มีโกะชินโบะคุในด้านความรัก (ต้นไม้ในศาลเจ้าที่มีสายสิญจน์พันไว้ชาวญี่ปุ่นเชื่อกันว่ามีเทพเจ้าอยู่)

ศาลเจ้าที่นี่มีผนังด้านนอกเป็นสีขาวไม่เหมือนกับที่อื่นๆ


เดินผ่านศาลเจ้าไปทางซ้ายมือก็เจอกับบรรยากาศร่มรื่นแบบญี่ปุ่น ถ้าหากเป็นฤดูใบไม้แดงจะต้องสวยงามมากๆ



เมื่อเดินจนสุดปลายทางจะพบกับต้นคุสึโนคิ ต้นใหญ่โอบรับอยู่
ต้นคุสึโนคิ ต้นนี้มีอายุกว่า 3,000 ปี ถ้ามาช่วงใบไม้ร่วงคงสวยน่าดู

หลังจากชื่นชมบรรยากาศใต้ต้นคุสึโนคิก็มุ่งหน้าไปหอสมุดทาเคโอะ


ที่นี่เงียบสงบมาก สมกับที่ในอินเทอร์เน็ตบอกเอาไว้จริงๆ
นอกจากมี Internet Free WI-FI แล้ว ยังมีร้านสตาร์บัคอยู่ข้างในหอสมุดอีกด้วย!
ชิลมากกก จนต้องหันไปพูดกับเพื่อนว่า "ที่นี่มันสุดยอด"

วันนี้เราจะพักกันที่โรงแรมสไตล์ญี่ปุ่น "เกียวโตยะ"


ข้างในประดับตกแต่งด้วยของย้อนยุค ยอดมาก
ผมเข้าไปขออนุญาตถ่ายรูปจากเจ้าของเพื่อจะนำมารีวิว เจ้าของก็ต้อนรับอย่างดี
แถมยังทำโยเกิร์ตมาต้อนรับอีกด้วย

หวานแบบธรรมชาติ

มื้อเย็นของที่นี่ก็อร่อยมากจริงๆ ชุดอาหารแอบตกแต่งธงชาติไทยและญี่ปุ่นไว้ด้วย ปลื้มมากกก
ตกกลางคืนผมออกไปดูการประดับไฟของสวนมิฟุเนะยามาระคุเอ็น


เสียดายวันที่ไปฝนตก จึงไม่ค่อยได้ถ่ายรูปสวยๆ กลับมาเท่าไหร่ สงสัยช่วงใบไม้ร่วมต้องมาแก้ตัวที่นี่อีกแน่

เดินเล่นยามค่ำคืนเสร็จก็ไปต่อทาเคโอะออนเซ็นกันต่อ สบายตัวกลับโรงแรมนอน

วันที่ 2
วันนี้ผมขับรถมุ่งหน้าสู่เมืองอาริตะ
เริ่มต้นที่แรกของวันนี้ คือ ศาลเจ้าโทซัง

ศาลเจ้าที่นี่จะประดับด้วยเครื่องปั้นดินเผาของอาริตะยาคิ

เครื่องปั้นดินเผาที่ประดับอยู่ในศาลเจ้าสวยแล้ว แต่ที่ได้รับความสนใจไม่แพ้กันคือ เสาที่ตรงทางเข้าศาลเจ้า
ตอนที่ถ่ายรูปนี้ มีรถไฟวิ่งผ่านด้วยพื้นสั่นเลยทีเดียว

หลังจากแวะศาลเจ้าเรียบร้อยแล้วก็พักดื่มกาแฟกันที่ร้าน Gallery Arita

ที่นี่มีแก้วกาแฟของ Aritayaki กว่า 2,000 ใบ ให้เราตามแบบที่เราชอบได้เองเลย

ผมเลือกแก้วใบนี้มาใส่กาแฟ ราคา 200,000 เยน ซึ่งแพงที่สุดในร้าน
จิบกาแฟพลางมือสั่น เพราะกังวลจะทำแก้วแตกไปด้วย

ไปต่อที่ เมืองอิมาริ
สถานที่ที่มีชื่อเสียงที่สุดของเมืองนี้คือ โอคาวาจิยามะ

น่าเสียดายวันนี้อากาศไม่ค่อยดีเลย ถ้าท้องฟ้าแจ่มใสจะเห็นวิวภูเขาสวยๆ ด้วย



ชมเมืองอิมาริเสร็จก็ไปต่อที่เมืองคาราทสึ ซึ่งเป็นเมืองปลายทางของวันนี้
เดินทางไกลติดต่อกัน 2 วัน เริ่มรู้สึกหนื่อย แต่พอมาได้เห็นทิวทัศน์สวยงามแบบนี้ก็หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเลย

ที่นี่เป็นจุดชมวิวขึ้นชื่อของคากามิยามะ ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองคาราทสึ สามารถเห็นป่าสนนิจิโนะมัทสึบาระได้ทั้งหมด
ที่คาราทสึนี้มีต้นสนมากถึง 1 ล้านต้นเลยทีเดียว และท่ามกลางต้นสนนี้ก็มีร้านเบอร์เกอร์ขึ้นชื่อแอบอยู่
คาราทสึเบอร์เกอร์ นั่นเอง


สมแล้วที่ขึ้นชื่อ อร่อยมากจริงๆ มาถึงที่นี่แล้วไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง
อิ่มอร่อยแล้วก็ไปชม ปราสาทคาราทสึกันต่อ


ต่อด้วยศูนย์นิทรรศการฮิคิยามะ

ทุกๆปีที่คาราทสึจะมีการงานประจำปีชื่อว่า "คาราทสึคุนจิ" ซึ่งเป็นงานเป็นการขอบคุณพระเจ้าสำหรับพืชผลทางการเกษตรและผลิตผลจากทะเลที่จับได้ตลอดทั้งปีที่ผ่านมา ถือเป็นมรดกของชาติที่สำคัญอีกเทศกาลหนึ่ง ซึ่งเทียบได้กับเทศกาลตรุษจีนของชาวจีน
ใครจะมาชมต้องรีบจองตั๋วเลยนะครับ

เดินทางมาไกลถึงคาราทสึ ขอแวะร้านอาหารทะเลสุดหรูหน่อย

ยามาชิเกะ เป็นร้านอาหารที่ขึ้นชื่อของอร่อยๆ เพราะอยู่ติดทะเลรับรองเลยว่าอร่อยมาก จริงๆ

วันที่ 3 เดินทางไปต่อกันที่เมืองโยบุโกะ
จุดมุ่งหมายของเช้านี้คือ ตลาดเช้าโยบุโกะ


เมืองโยบุโกะอยู่ติดกับทะเล เราจึงได้เลือกทานของสดๆกันถึงที่

มีบริการให้ขึ้นเรือชมทะเล

เสร็จจากตลาดเช้าแล้วก็เดินทางไปต่อที่ ฮาโดะมิซากิ

เป็นอีกสถานที่นึงที่นิยมมาถ่ายทำหนัง


ฝากท้องมื้อเที่ยงไว้ที่นี่

ปลาหมึกโยบุโกะในตำนาน ใสจนมองทะลุผ่านได้เลย

ปลาหมึกเทมปุระก็ห้ามพลาด

ปิดท้ายทริปที่สุดท้ายที่ คิวทากะโทริเท


เป็นบ้านแบบญี่ปุ่นที่เก่าและดูดีอยู่มาก

หวังว่าพอจะเป็นประโยชน์แก่เพื่อนๆที่มีแพลนจะมาเที่ยวซากะนะครับ
ยังพิมพ์ไม่ค่อยเก่งมากนักแต่อยากให้ทุกคนมาเที่ยวกันนะครับ
ชื่อสินค้า:   ซากะ ญี่ปุ่น
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่