[CR] เที่ยวตาม(ใจ)สั่ง ตอน คิวชูจ๋าพี่มาหาแล้วจ้ะ...ซากะ (แล้ว)ฉันจะคิดถึงเธอ

สวัสดีค่ะ
เที่ยวตาม(ใจ)สั่ง ตอน คิวชูจ๋าพี่มาหาแล้วจ้ะ ขอเสนอตอน ซากะ (แล้ว)ฉันจะคิดถึงเธอ แต่ไม่ได้มารีวิวซีรีย์นะคะ รีวิวเมืองซากะเนี่ยแหละค่ะ เชื่อว่าดูซีรีย์แล้วสาวๆก็อยากจะสวมบทเป็นจุกไปตามกินปลาหมึกใสๆกันใช่ม้าาาาา
รีวิวท่องเที่ยวซากะพอจะมีคนรีวิวไว้บ้างแล้วค่ะ แต่ส่วนใหญ่ก็เลือกที่จะเช่ารถขับเที่ยวกัน ซึ่งคนอย่างเราต้องลุยๆสิ ถ้านั่งรถไฟ รถบัส แล้วไปถึงได้ก็ต้องลองดูสักตั้ง เลยทำให้หาข้อมูลยากกว่าเดิมอี้กกกกกกกFacepalm


เรามาซากะ เพราะอะไรไม่ยากเลย...เพราะตั๋วเครื่องบินสายการบิน Jetstar บินตรงลงฟุกุโอกะที่ราคาโปรโมชั่นดีงามมาก และอีกหนึ่งเหตุผลคือ ดู Stay ซากะ...ฉันจะคิดถึงเธอ...เห็นปลาหมึกใสๆ กับฉากสวยๆในเรื่อง ที่เป็นตัวจุดประกายให้ยิ่งอยากมายิ่งขึ้นไปอีกค่ะ


จังหวัดซากะเองก็มีสถานที่ท่องเที่ยวหลายที่เหมือนกันค่ะ โดยจะแบ่งเป็นพื้นที่ตามนี้ ในแต่ละพื้นที่เองก็จะมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมาย

สามารถเข้าไปดูได้ที่ Saga Trip Genius



เนื่องจากเราอยากตามรอยซีรีย์ไปเดินตลาดเช้า ไปกินปลาหมึกใสๆ ตามท้องเรื่องน้องจุกของเราเค้าไปที่ Karatsu (อยู่ในพื้นที่ Genkai & Marine Area ตามในรูปนะคะ) มาดูกันว่าพี่หมีของเราพาจุกไปเที่ยวไหนบ้าง
1. Yobuko Morning Market : ตลาดเช้าที่ใหญ่ติด1ใน3ของญี่ปุ่น
2. Cape Hado: แหลมฮาโดะ จุดชมวิวที่มีรูปปั้นรูปหัวใจ ที่รอให้ใครๆไปถ่ายรูปด้วย
3. Underwater Observation Tower : ประภาคารที่ยื่นออกไปในทะเล สามารถลงไปดูสัตว์น้ำได้ แต่เราไม่ได้เข้าไปนะคะ
*เก็บค่าเข้าชม ผู้ใหญ่คนละ 550 Yen
Let’s go!!เม่าออกรถ



การเดินทางจาก Fukuoka ไปยัง Karatsu
จากสถานี Hakata นั่งรถใต้ดินไปลงสถานี Meinohama แล้วเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟ JR Chikuhi line นั่งยาวๆไปลง Karatsu ได้เลยค่ะ นั่งหลับไปยาวๆ ตื่นมาอีกทีมองไปด้านนอก ฝนตกโปรยปรายเบาๆ วิวบ้านเรือนสลับกับทะเลเป็นระยะๆ แสดงว่าเราใกล้ถึงจุดหมายขึ้นทุกทีแล้วค่ะ

ถึงจุดหมาย Karatsu Station เป็นสถานีไม่เล็กไม่ใหญ่ บรรยากาศในสถานีไม่คึกคักเหมือนกับสถานีใหญ่ๆตามใจกลางเมืองแหล่งท่องเที่ยว อาจเป็นเพราะเช้าวันอาทิตย์ที่ฝนตกปรอยๆแบบนี้ คงไม่มีใครที่จะยอมลุกจากที่นอนอุ่นสบายมาเจออากาศเย็นๆแบบนี้แน่เลยยย (คิดเองเออเอง)
ที่สถานี Karatsu เราสามารถสอบถามข้อมูลการท่องเที่ยวหรือแผนที่ของเมือง Karatsu ได้ค่ะ หาไม่ยากเลย Information อยู่ตรงทางออกของสถานีพอดี

ด้านนอกสถานี ต้องถ่ายรูปไว้ซักหน่อยยย


รูปปั้นสิงโต



การเดินทางภายในเมือง Karatsu
การเดินทางภายในเมือง Karatsu ส่วนใหญ่โดยสารด้วยรถบัสท้องถิ่นค่ะ โดย Showa Bus ซึ่งเราต้องไปขึ้นรถที่ท่ารถบัส Karatsu Oteguchi Bus Center จากสถานีเดินไม่ถึง 10 นาที ท่ารถจะอยู่ด้านหลังภายในอาคารสำนักงานค่ะ

(แผนที่ขอมาจากInformationค่ะ)


ภายในจะแบ่งจุดรอรถเป็น 3 ประตูค่ะ จะมีจอขึ้นรายละเอียดว่าประตูไหนปลายทางอะไร เวลาที่รถออก เรารอรถตรงนี้ค่ะ ถ้าดูแล้วยังมีเวลาเหลือเฟือ ไปเดินฆ่าเวลาในมินิมาร์ท หรือจิบกาแฟแก้หนาวได้




Yobuko Morning Market
เราไปตลาดก่อน แม่สอนไว้ให้ตื่นแต่เช้าไปตลาด เพราะเดี๋ยวตลาดจะวายยย ไม่มีอะไรขายนะเออ ก็เค้าบอกอยู่ว่าเป็นตลาดเช้าค่ะ เราก็ต้องเลยต้องตื่นแต่เช้าาาามาเดินตลาดกัน
ตลาดเปิดทุกวัน  
เวลา 7.30 - 12.00 น.

การเดินทาง
เราติดต่อเจ้าหน้าที่เลยค่ะว่าต้องการไปตลาด Yobuko เค้าจะให้ตารางเวลาเดินรถบัสมาแล้วแจ้งค่ารถ ราคา 750 Yen/เที่ยว/คน ค่ะ เราจ่ายเงินให้ นึกว่าเจ้าหน้าที่จะออกตั๋วให้เลย....แป่วววว คิดผิดค่ะ เค้าก็เดินไปกดซื้อตั๋วที่ตู้ข้างๆให้อยู่ดี

(ไฟล์ตารางเดินรถ มันจะเป็นภาษาญี่ปุ่นล้วนๆ กูเกิ้ลช่วยแปลไม่ได้ค่ะ หรือจริงๆแล้วเราทำไม่เป็นก็ไม่รู้ ร้องไห้ มึนอยู่นาน สุดท้ายไปขอความช่วยเหลือจากเพจ Saga Trip Genius ว่าอยากได้ตารางเดินรถบัส แต่มันมีภาษาญี่ปุ่นล้วน ช่วยฉันด้วยยยยย แล้วเค้าก็ส่งเป็นไฟล์แบบเขียนแปลมาให้ค่ะ)


ถึงเวลารถบัสมาก็ขึ้นโลดเลยค่ะ ตามความเข้าใจปกติถ้าเรามีพาสหรือมีตั๋วอยู่แล้วเราก็ขึ้นรถได้เลย ไม่ต้องรับตั๋วที่ข้างประตูแล้วไปจ่ายด้านหน้าเหมือนทั่วไปใช่มั้ยคะ? เราก็ทำตามความเข้าใจของเราเนี่ยแหละค่ะ แต่คนขับรถเค้าเห็นเราไม่หยิบ เลยพูดๆแล้วชี้ๆว่าต้องหยิบนะหนู เราก็ชูตั๋วให้ดูว่าหนูมีตั๋วแล้วนะคะคุณลุง คุณป้าที่ขึ้นรถมาด้วยกันคิดว่าเราคงไม่เข้าใจ (ซึ่งเราก็ฟังญี่ปุ่นไม่ออกจริงๆแหละค่ะ แต่พอเดาๆเอา มั่วๆไปเรื่อย) แกก็ใจดีมากค่ะ หยิบตั๋วให้เรา พูดประมาณว่าต่อให้ซื้อแล้ว ยังไงก็ต้องหยิบตั๋วด้วยนะจ๊ะหนู....เราก็โอเคเค้าให้หยิบ เราก็หยิบเนาะ

ถ้านั่งรถไป แล้วคนทะยอยลงไปเรื่อยๆก็ไม่ต้องกังวลไปนะคะ เพราะสุดปลายทางแล้วเค้าจะไปลงท่ารถที่ Yobuko ค่ะ แล้วถ้าเห็นว่ามีคนถือกล้องนั่งอยู่ในรถด้วย ก็ยิ่งวางใจได้แน่นอนค่ะ (เพราะเรานั่งไปก็ลุ้นๆไปค่ะ) นั่งรถไปประมาณ 1 ชม.ก็ถึงแล้วค่ะ
พอถึงปลายทางปุ๊บ แต่ละคนเดินฉับๆ เค้าไปทางไหนเราก็เดินตามไปเลยค่ะ ส่วนใหญ่คนเค้าไปตลาดกันทั้งนั้น เดินไปตรงที่เห็นทะเลนั่นแหละค่ะ เดินไปเลยไม่ถึง 5 นาทีก็ถึงตลาดแล้วววว

ท่ารถบัสที่ Yobuko

(รูปจากGoogleนะคะ)


ถ้าเห็นทางเข้าตลาดแบบนี้ แสดงว่าถึงตลาด Yobuko แล้วค่า



ที่ตลาดเราจะเห็นพ่อค้าแม่ค้าเค้าขายของสดหรือของตากแห้งจำพวกของทะเลเกือบทุกร้านเลยค่ะ เพราะ Karatsu ติดทะเล



คุณป้าแต่ละร้านต่างเชื้อเชิญให้แวะอุดหนุน เรียกให้ชิมเกือบทุกร้านเลยค่ะ ชิมกันให้เพลินเลย

ร้านนี้คุณป้ามีรูปพี่ซันนี่ติดไว้เรียกลูกค้าคนไทยอย่างเราๆที่ตามรอยซีรีย์มาค่ะ เป็นการตลาดที่ได้ผลดีเลยทีเดียว เพราะเราก็ซื้อพวกปลาหมึกอบกรอบจากร้านคุณป้าเค้าเหมือนกัน 555 แต่มีขายเหมือนๆกันทุกร้านค่ะ ราคาพอๆกัน ซื้อร้านไหนก็ได้ค่ะ


บางร้านเค้าก็ขาย BBQ ทะเลเผา หอยย่างเป็นตัวๆ ใครอยากลองชิมก็นั่งกินกันได้ค่ะ
ร้านนี้จะเป็นหอยนางรมย่างร้อนๆ



นอกจากนี้ Karatsu ยังมีเมนูที่ขึ้นชื่ออย่างปลาหมึกใสๆ ที่นิยมกินแบบซาซิมิ คือกินแบบดิบๆเนี่ยแหละค่ะ หากเราทานแบบดิบๆพอแล้ว เค้าจะนำไปทอดแบบเทมปุระหรือย่างเกลือ (แล้วแต่เราจะเลือก) มาให้ค่ะ ซึ่งเราสามารถหากินเจ้าปลาหมึกใสๆได้ตามร้านอาหารทั่วไปค่ะ แต่ส่วนใหญ่ร้านจะเปิดประมาณ 11.00 เรายังมีเวลาเหลืออีกเยอะเลยกว่าร้านจะเปิดค่ะ เราเลยตัดสินใจไปเที่ยวที่แหลมฮาโดะก่อน แล้วค่อยกลับมากินปลาหมึกที่นี่อีกครั้ง (แต่ในที่นี้เราขอเล่าไปเลยนะคะ จะได้ไม่ต้องข้ามไปข้ามมาให้เสียเวลา)


ร้าน Ikahonke เป็นร้านอาหารที่อยู่ใกล้ตลาดมากค่ะ เดินออกจากตลาดไป 300 เมตรก็ถึงแล้ว ร้านจะอยู่ชั้น2 ค่ะ ชั้นล่างเป็นที่จอดรถ

นอกจากนี้ยังมีอีก 2 ร้านที่เราจดลิสมาไว้นะคะ แต่พอดีวันนั้นฝนตกทั้งวันเลยค่ะ เราเลยไม่ได้ไปไหนไกล เพราะไม่อยากเปียกฝน กลัวไม่สบาย แล้วจะเที่ยวที่อื่นไม่ได้


เดินเข้าไปเราจะมองเห็นเจ้าปลาหมึกว่ายเวียนวนอยู่ในถังสีฟ้าใบใหญ่ๆ เหมือนเวลาเราไปกินร้านอาหารทะเลแบบนั้นแหละค่ะ



ที่ร้านมีเมนูเป็นภาษาอังกฤษนะคะ แล้วพนักงานสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษพอได้ค่ะ จะมีเมนูปลาหมึกให้เลือกเป็นเซ็ท หรือจะสั่งเดี่ยวๆก็ได้ค่ะ ในเมนูบอกราคาเริ่มต้น 2,000 Yen ต่อตัว แต่ตอนเราสั่งพนักงานเค้าบอกเราเลยค่ะว่า ราคา2,500 Yen นะ ตัวมันจะใหญ่กว่าปกติ (ถ้าเข้าใจไม่ผิดคิดว่าราคาปลาหมึกมันขึ้นอยู่กับช่วงเวลานั้นๆน่ะค่ะ) แล้วก็ยังมีเมนูอื่นๆอีก เรามากัน 3 คนค่ะ เลยสั่งชุดกุ้งทอดเพิ่มมาอีกชุด แล้วข้าวเปล่าเพิ่มอีก 2 ถ้วยค่ะ



เมื่อปลาหมึกมาเสริ์ฟถึงโต๊ะ คุณป้าพนักงานจะสาธิตการกินปลาหมึกให้เราดูค่ะ แต่ละโต๊ะจะมีกรรไกรเป็นอุปกรณ์หลักในการกินค่ะ คุณป้ามีการชี้ชวนด้วยนะคะว่าถ่ายรูปก่อนสิ เราก็เอ้อๆๆ ถ่ายๆๆ (มัวแต่ตะลึง)
แล้วคุณป้าก็คีบหนวดขึ้นมา มันยังขยับได้อยู่ค่ะ คุณป้าก็เอากรรไกรตัดฉับๆๆ (ในใจกรีดร้องงง ป้าาอย่าาาาาาา) เอาหนวดที่ตัดขาดไปเมื่อตะกี้ลงไปในถ้วยน้ำจิ้มที่เทรอไว้ค่ะ พอมันโดนน้ำจิ้มนะคะ หนวดดิ้นดุ๊กดิ๊กๆใหญ่เลยยย แล้วใส่ปากเลยค่ะ....อื้มมหืมมมมม เค็มมมมมม (พอดีแช่น้ำจิ้มนานไปค่ะ แหะๆ จิ้มแต่พอดีนะคะ)
ปลาหมึกสดมากค่ะ ปกติเราไม่กินพวกปลาดิบเลยนะคะ แต่มาที่นี่ต้องยอมเลยค่ะ ของเค้าดีจริงๆ สดจริงๆ เนื้อหวานๆ เคี้ยวดังกรุบๆ ถ้ากินโดนตรงที่มีปุ่มๆเยอะๆนะคะ มันจะดูดๆลิ้น ให้จั๊กเดียมเล่นนิดหน่อยค่ะ


สุดท้ายทนสงสารไม่ไหว เพราะดันไปมองมันว่ายอยู่นาน เลยให้ทางร้านทำเป็นเทมปุระให้ จะได้กินสบายใจ ปลาหมึกเทมปุระร้อนๆ กับข้าวสวยก็อร่อยไปอีกแบบนะคะ



เว็บไซต์ของทางร้านค่ะ เป็นภาษาญี่ปุ่นล้วนเหมือนกัน แต่กูเกิ้ลช่วยเราแปลได้
http://www.ikahonke.jp/
ชื่อสินค้า:   Saga
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่