ไขข้อข้องใจวัคซีนไข้หวัดใหญ่: คำถามที่พบบ่อยและคำตอบที่ควรรู้

          ไวรัสอินฟลูเอนซ่า (Influenza virus) หรือไวรัสไข้หวัดใหญ่ เป็นสาเหตุที่สำคัญของการติดเชื้อระบบทางเดินหายใจแบบเฉียบพลัน พบได้บ่อยในประชากรทุกกลุ่มอายุ

อาการแสดงของไข้หวัดใหญ่
         🔶 มีไข้/หนาวสั่น  
         🔶 เจ็บคอ  
         🔶 ปวดกล้ามเนื้อ  
         🔶 เมื่อยล้า
         🔶 ไอ  
         🔶 ปวดศีรษะ    
         🔶 น้ำมูกไหลหรือคัดจมูก  
         🔶 อ่อนเพลีย
          บางรายอาจมีภาวะแทรกซ้อนรุนแรง เช่น ปอดอักเสบ สมองอักเสบ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ซึ่งเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต อย่างไรก็ดี เราสามารถป้องกันการเป็นโรคไข้หวัดใหญ่ได้ด้วยการฉีดวัคซีน

วิธีการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ 
          🔷 ใส่หน้ากากอนามัย
          🔷 ล้างมือบ่อย ๆ 
          🔷 หลีกเลี่ยงไปในที่มีคนจำนวนมาก
          🔷 ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่

วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่คืออะไร ?
          วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ (Influenza vaccine) ที่มีจำหน่ายในประเทศไทย เป็นวัคซีนที่ผลิตจากเชื้อไวรัสอินฟลูเอนซ่าที่ตายแล้ว มีส่วนประกอบของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์หลัก (Quadrivalent inactivated influenza vaccine) โดยสายพันธุ์ของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ที่นำมาผลิตวัคซีนจะแตกต่างกันในแต่ละปี ตามที่องค์การอนามัยโลก (World Health Organization: WHO) กำหนดให้ใช้

วัคซีนที่มีจำหน่ายในโรงพยาบาล คือ วัคซีนไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์
ประกอบด้วย สายพันธ์ A 2 สายพันธุ์
          - A/Victoria/4897/2022 (H1N1)
          - A/Thailand/8/2022 (H3N2)
และ สายพันธุ์ B 2 สายพันธุ์
          - B/Austria/1359417/2021 (B/Victoria lineage)
          - B/Phuket/3073/2013 (B/Yamagata lineage)

ใครควรได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ?
           บุคคลทุกคนที่มีอายุตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป ควรได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่เป็นประจำทุกปี โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงที่อาจเกิดการเจ็บป่วยรุนแรงหากได้รับเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ได้แก่
          ✅ หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป
          ✅ เด็กอายุ 6 เดือน ถึง 2 ปี
          ✅ ผู้มีโรคเรื้อรัง ดังนี้ ปอดอุดกั้นเรื้อรัง หืด หัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย และเบาหวาน
          ✅ บุคคลที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป
          ✅ ผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้
          ✅ โรคธาลัสซีเมีย และผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง (รวมถึงผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่มีอาการ) หรือผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ระหว่างการได้รับเคมีบำบัด
          ✅ โรคอ้วน (น้ำหนัก > 100 กิโลกรัม หรือ BMI > 35 กิโลกรัมต่อตารางเมตร)

เมื่อไรที่ท่านควรได้รับวัคซีนไข้หวัดใหญ่?
          ควรได้รับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ประจำทุกปีโดยเร็ว เนื่องจากวัคซีนจะช่วยป้องกันได้หากฤดูไข้หวัดใหญ่เกิดเร็วขึ้น ในประเทศไทยโรคไข้หวัดใหญ่สามารถพบได้ตลอดปี แต่พบมากในช่วงเดือนมิถุนายนถึงกันยายน และช่วงเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ ดังนั้นการได้รับวัคซีนเดือนธันวาคมหรือช้ากว่านั้นก็ยังสามารถได้รับประโยชน์จากวัคซีนได้

วิธีใช้วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ชนิดฉีดเข้ากล้ามเนื้อ
          👶 6 เดือนขึ้นไปจนถึง 9 ปี 1-2 เข็ม (ห่างกัน 4 สัปดาห์)*
          🧑 ตั้งแต่ 9 ปีขึ้นไปและผู้ใหญ่ 1 เข็ม
     *ฉีดจำนวน 2 เข็ม หากเด็กไม่เคยได้รับวัคซีนไข้หวัดใหญ่มาก่อน

ข้อห้ามในการรับวัคซีน คือ คนที่เคยแพ้วัคซีนไข้หวัดใหญ่มาก่อนแบบขั้นรุนแรง (Anaphylaxis shock)

ฉีดแล้วภูมิจะขึ้นเมื่อไหร่?
          หลังได้รับวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่แล้ว ร่างกายจะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ ในการสร้างภูมิคุ้มกันโรค และภูมิคุ้มกันนี้จะอยู่ได้นานประมาณ 1 ปี จึงแนะนำให้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่เป็นประจำทุกปี
          อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ได้รับวัคซีนแล้วยังอาจเป็นโรคไข้หวัดใหญ่จากการติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์อื่นที่ไม่ได้บรรจุในวัคซีน แต่ความรุนแรงของการเจ็บป่วยจะลดน้อยลง รวมถึงช่วยลดการเสียชีวิตจากภาวะแทรกซ้อนของโรคได้

ผลไม่พึงประสงค์ของวัคซีนไข้หวัดใหญ่
          🟠 ผลไม่พึงประสงค์ที่พบได้ทั่วไป
ระบม แดง หรือบวมบริเวณที่ฉีด เสียงแหบ เจ็บ คันตาหรือตาแดง ไอ มีไข้ ปวดเมื่อย ปวดศีรษะ คัน เมื่อยล้า ปกติแล้วจะหายได้เองภายใน 1-2 วัน
          🔴 ผลไม่พึงประสงค์รุนแรง
การแพ้ถึงขั้นเป็นอันตรายต่อชีวิตเกิดน้อยมาก หากเกิดขึ้นจะปรากฏใน 2-3 นาทีถึง 2-3 ชั่วโมงหลังฉีด โดยสังเกตอาการแพ้ที่รุนแรงรวมทั้งการหายใจไม่สะดวก เสียงแหบ หรือ ลมพิษ หากเกิดอาการแพ้อย่างรุนแรงให้รีบไปโรงพยาบาลทันที
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่