เทียบการขึ้นเขาปีนี้เมื่อวันศุกร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ ปี2568 กับเมื่อปีที่แล้วนะครับ
1. ค่ารถกระบะ แบบไป-กลับ คนละ 200 บาท มีเพิ่มเติมประกันอุบัติเหตุคนละ 10 บาท (เบี้ยประกัน 200,000 บาท)
2. จุดขึ้นรถคิววัดกระทิง มีจุดบริการจอดรถค่อนข้างกว้างขวาง มีเจ้าหน้าที่คอยโบกรถและเฝ้าตามจุดต่างๆตลอดเวลา มีแสงไฟสว่าง
จุดขึ้นรถคิววัดพลวง ก็ยังคงคึกคักกว่าวัดกระทิง มีร้านอาหาร และร้านขายของสว่างไสวกว่า มีบริการห้องน้ำที่ดีกว่า
(แต่เราก็ยังคงเลือกขึ้นที่วัดกระทิงครับ ด้วยความต้องการสักการะสรีระหลวงพ่อเขียน)
3. ปีนี้มีป้ายแจ้งน้ำหนักสำหรับการใช้เสลี่ยงแบบชัดเจน ไม่เกิน 70 กก. (และเรทราคาวันธรรมดากับวันเสาร์-อาทิตย์)
4. ปีนี้ตลอดเส้นทาง มีร้านค้าสวัสดิการ ร้านจำหน่ายอาหารเครื่องดื่มเยอะมากๆ เพิ่มเติมมีร้านจำหน่ายของที่ระลึก และมีจุดจำหน่ายน้ำมันนวดด้วย
5. สัญญานมือถือปีนี้ สัญญานดีงาม แทบทุกค่าย ตั้งแต่ลานพระสิวลี จนไปถึงผ้าแดง
คำแนะนำสำหรับการขึ้นเขา
1. ควรใส่ชุดที่ค่อนข้างโปร่ง ไม่รัดรูป ด้านบนอากาศบนเขาจะค่อนข้างเย็น ถ้ามีเสื้อกันลมจะดีมาก
2. การขึ้นรถกระบะ ถ้าต้องนั่งด้านหลัง เวลารถวิ่งด้วยความเร็ว ลมจะตีหน้าค่อนข้างแรง ควรมีแว่นตากันฝุ่นและแรงลมปกป้องตา
2.1 นั่งรถกระบะ ขาขึ้น ตามแรงโน้มถ่วงจะเทมาด้านหลัง ขาลง จะเทไปด้านหน้า จุดที่นั่งเกาะแบบสบายที่สุดคือ นั่งริมในสุด เพราะมีราวให้เกาะด้านหน้าได้เลย
2.2 รถกระบะ มีทั้งแบบมีแค็ปและแบบธรรมดา สามารถเลือกนั่งด้านหน้าข้างคนขับและในแค็ปได้ แต่แทบทุกคันจะไม่ได้เปิดแอร์ระหว่างขับรถ
3. สำหรับรองเท้า ควรเลือกแบบที่เกาะพื้นสักหน่อย เพราะในส่วนที่เป็นพื้นดิน จะค่อนข้างลื่น
3.1 รองเท้าผ้าใบ ใส่เดินขึ้น เดินทางราบ จะค่อนข้างสบาย แต่ควรเลือกแบบที่หน้ากว้าง เพราะขาลง จะทำให้เจ็บเล็บได้
3.2 รองเท้าแตะก็ขึ้นได้ แต่ต้องใช้ความระมัดระวังมากกว่าผ้าใบ
4. บริเวณรอยพระพุทธบาท ต้องถอดรองเท้า จึงไม่ควรใส่ถุงเท้าเวลาเดิน ด้วยมีหินที่มีความลาดเอียง จะลื่นได้ง่ายมาก
5. ไม้เท้าบริเวณลานสิวลี ก่อนทางขึ้นเขา มีประโยชน์มากในการเดินขึ้นลงเขา หยิบขึ้นไปแล้ว อย่าลืมหยิบกลับลงมาคืนที่เดิม
6. โซนเคาะระฆัง ไม่ควรใช้ไม้เท้าเคาะ เพราะจะทำให้ระฆังเสียหายได้ ใช้เหรียญจะสะดวกกว่า จุดปลายทางของระฆังจะมีกล่องให้หยอดทำบุญ
7. กระเป๋าและถุงสัมภาระที่แบกขึ้นไป ควรมีซิบหรือที่ปิดแน่นหนา เพราะของอาจจะร่วงได้ระหว่างเดินทาง
8. ห้องน้ำด้านบนมีให้บริการหลายจุด แต่ส่วนใหญ่สภาพผ่านศึกมาพอสมควร
9. จุดเริ่มต้นเดินบันไดขึ้นเขา จะค่อนข้างลาดชัน ไม่ควรรีบ เร่งเดิน ... ควรจะค่อยๆเดิน เพื่อให้ร่างกายปรับสภาพก่อน
รับชมแบบคลิปได้ที่นี่
สุดท้ายขออนุโมทนาบุญ กับสาธุชนทุกๆท่านด้วยนะครับ
สามารถติดตามรับชมรีวิวอื่นๆของพวกเราได้ที่
http://www.facebook.com/j2ctravel
http://www.jaaechoun.blogspot.com
เขาคิชฌกูฏปี 2568 มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง
1. ค่ารถกระบะ แบบไป-กลับ คนละ 200 บาท มีเพิ่มเติมประกันอุบัติเหตุคนละ 10 บาท (เบี้ยประกัน 200,000 บาท)
2. จุดขึ้นรถคิววัดกระทิง มีจุดบริการจอดรถค่อนข้างกว้างขวาง มีเจ้าหน้าที่คอยโบกรถและเฝ้าตามจุดต่างๆตลอดเวลา มีแสงไฟสว่าง
จุดขึ้นรถคิววัดพลวง ก็ยังคงคึกคักกว่าวัดกระทิง มีร้านอาหาร และร้านขายของสว่างไสวกว่า มีบริการห้องน้ำที่ดีกว่า
(แต่เราก็ยังคงเลือกขึ้นที่วัดกระทิงครับ ด้วยความต้องการสักการะสรีระหลวงพ่อเขียน)
3. ปีนี้มีป้ายแจ้งน้ำหนักสำหรับการใช้เสลี่ยงแบบชัดเจน ไม่เกิน 70 กก. (และเรทราคาวันธรรมดากับวันเสาร์-อาทิตย์)
4. ปีนี้ตลอดเส้นทาง มีร้านค้าสวัสดิการ ร้านจำหน่ายอาหารเครื่องดื่มเยอะมากๆ เพิ่มเติมมีร้านจำหน่ายของที่ระลึก และมีจุดจำหน่ายน้ำมันนวดด้วย
5. สัญญานมือถือปีนี้ สัญญานดีงาม แทบทุกค่าย ตั้งแต่ลานพระสิวลี จนไปถึงผ้าแดง
คำแนะนำสำหรับการขึ้นเขา
1. ควรใส่ชุดที่ค่อนข้างโปร่ง ไม่รัดรูป ด้านบนอากาศบนเขาจะค่อนข้างเย็น ถ้ามีเสื้อกันลมจะดีมาก
2. การขึ้นรถกระบะ ถ้าต้องนั่งด้านหลัง เวลารถวิ่งด้วยความเร็ว ลมจะตีหน้าค่อนข้างแรง ควรมีแว่นตากันฝุ่นและแรงลมปกป้องตา
2.1 นั่งรถกระบะ ขาขึ้น ตามแรงโน้มถ่วงจะเทมาด้านหลัง ขาลง จะเทไปด้านหน้า จุดที่นั่งเกาะแบบสบายที่สุดคือ นั่งริมในสุด เพราะมีราวให้เกาะด้านหน้าได้เลย
2.2 รถกระบะ มีทั้งแบบมีแค็ปและแบบธรรมดา สามารถเลือกนั่งด้านหน้าข้างคนขับและในแค็ปได้ แต่แทบทุกคันจะไม่ได้เปิดแอร์ระหว่างขับรถ
3. สำหรับรองเท้า ควรเลือกแบบที่เกาะพื้นสักหน่อย เพราะในส่วนที่เป็นพื้นดิน จะค่อนข้างลื่น
3.1 รองเท้าผ้าใบ ใส่เดินขึ้น เดินทางราบ จะค่อนข้างสบาย แต่ควรเลือกแบบที่หน้ากว้าง เพราะขาลง จะทำให้เจ็บเล็บได้
3.2 รองเท้าแตะก็ขึ้นได้ แต่ต้องใช้ความระมัดระวังมากกว่าผ้าใบ
4. บริเวณรอยพระพุทธบาท ต้องถอดรองเท้า จึงไม่ควรใส่ถุงเท้าเวลาเดิน ด้วยมีหินที่มีความลาดเอียง จะลื่นได้ง่ายมาก
5. ไม้เท้าบริเวณลานสิวลี ก่อนทางขึ้นเขา มีประโยชน์มากในการเดินขึ้นลงเขา หยิบขึ้นไปแล้ว อย่าลืมหยิบกลับลงมาคืนที่เดิม
6. โซนเคาะระฆัง ไม่ควรใช้ไม้เท้าเคาะ เพราะจะทำให้ระฆังเสียหายได้ ใช้เหรียญจะสะดวกกว่า จุดปลายทางของระฆังจะมีกล่องให้หยอดทำบุญ
7. กระเป๋าและถุงสัมภาระที่แบกขึ้นไป ควรมีซิบหรือที่ปิดแน่นหนา เพราะของอาจจะร่วงได้ระหว่างเดินทาง
8. ห้องน้ำด้านบนมีให้บริการหลายจุด แต่ส่วนใหญ่สภาพผ่านศึกมาพอสมควร
9. จุดเริ่มต้นเดินบันไดขึ้นเขา จะค่อนข้างลาดชัน ไม่ควรรีบ เร่งเดิน ... ควรจะค่อยๆเดิน เพื่อให้ร่างกายปรับสภาพก่อน
รับชมแบบคลิปได้ที่นี่
สุดท้ายขออนุโมทนาบุญ กับสาธุชนทุกๆท่านด้วยนะครับ
สามารถติดตามรับชมรีวิวอื่นๆของพวกเราได้ที่
http://www.facebook.com/j2ctravel
http://www.jaaechoun.blogspot.com