จากตอนแรกที่วางแผนว่าจะปลูกข้าวครั้งที่ 2 ในเดือนกรกฏา แต่ข้าวที่ปลูกครั้งแรก ขาย และ ถูกจองหมดภายใน 2 เดือน ทำให้เราต้องวางแผนปลูกข้าวไวขึ้นภายในเดือนกุมภา 
ข้าวที่เราเลือกเลยต้องเป็นข้าวนาปรังที่ปลูกได้ตลอดทั้งปี ซึ่งโดยปกติ คนแถวนั้นจะปลูกข้าวขาวซึ่งไม่ใช่หอมมะลิ ที่อาจจะไม่นุ่มเหมือนหอมมะลิ 105 เราก็เลยเลือกที่จะลองปลูกข้าวไรซ์เบอรี่แทน 
รอบนี้เรากลับมาพักเดือนกุมภา และมีเวลาเตรียมตัวปลูกข้าว 13 วัน หลังจากแช่ข้าว 24 ชม วันที่ 4 กุมภา ก็เอาออกมาใส่กระสอบไว้เหมือนครั้งก่อน คิดว่าไม่เกิน 24 ชม ข้าวจะต้องงอกแน่ๆ 
ด้วยความใจร้อน ข้าวยังไม่ทันงอกเราก็พากันเพาะใส่ถาดเพาะซะแล้ว แถมคิดเอาเองว่า ถ้าเรารดน้ำยังไงข้าวก็ต้องงอก แต่ผ่านมา 3 วันก็ไม่เห็นข้าวงอกซักที จนเริ่มถอดใจแล้ว คิดว่ารอบนี้คงปลูกข้าวไม่ทันแน่ๆ
จนมาวันที่ 7 กุมภา ข้าวเริ่มแทงยอดออกมาจากดิน เลยจะปลูกข้าววันที่ 13-14 กุมภาก่อนกลับไปทำงาน ต้นกล้าอายุแค่ 6 วัน ก็จะเตี้ยๆหน่อย 
เราสองคนตื่นแต่เช้าเพื่อมาโยนกล้า โชคดีที่นาเราไม่กว้างมาก ทำให้เราไม่ต้องลงไปเดินในนา อาศัยโยนไกลๆแรงๆเอา วันแรกนั้นแดดแรงมาก จนต้องอาศัยร่มตลอดทั้งวัน แอบคิดในใจว่า รอบหน้าเราจะทำนาหว่านดีมั๊ย
หมดวันแล้ว แต่ถาดเพาะกล้ายังไม่หมด เราเลยตั้งใจที่จะมาโยนต่อในวันที่ 14 กุมภา วันนี้อากาศตอนเช้าดีมาก หมอกหนาจน 8:30 ทำให้ไม่ร้อนเวลาโยนกล้า เอาน้ำเข้านาเสร็จเราก็เตรียมตัวกลับไปบ้าน เพื่อรอเดินทางไปทำงานต่อในวันรุ่งขึ้น
นาข้าวเราก็ปล่อยให้ฟ้าฝนดูแล เหมือนรอบที่แล้ว ส่วนต้นข้าวน้อยๆ ก็ค่อยมาลุ้นว่าจะโผล่พ้นน้ำเมื่อไหร่ ถ้าไม่รอด รอบหน้าค่อยวางแผนปลูกใหม่
แอบกังวลอยู่นิดเดียวคือ ข้าวไรซ์เบอรี่ที่ปลูกหน้าร้อน เค้าว่าสีจะไม่ม่วงเข้ม แต่เราไม่รู้เลยว่าสีของเมล็ดจะอ่อนขนาดไหน ใครมีรูปข้าวไรซ์เบอรี่ที่ปลูกหน้าร้อนมาแชร์ให้ด้วยนะคะ