NAD TRAVEL:: "มุลาอิ" ขุนเขาแห่งศรัทธา ความสวยงามที่แฝงไปด้วยอันตราย

กระทู้สนทนา

เที่ยวภูเขา สถานที่ท่องเที่ยวต่างประเทศ เดินป่า

สายแอดเวนเจอร์ห้ามพลาด!! เดินทางง่าย เหมาะสำหรับมือใหม่

หัวข้อรีวิว
1. "มุลาอิ" คืออะไร
2. การเดินทาง+การจอง+การเตรียมตัว
3. พร้อมแล้ว เริ่มลุยกัน!
-----------------------------------------------------
1. "มุลาอิ" คืออะไร

มุลาอิ (Mulayit Taung) / พระธาตุมุลาอิ หรือ มอลออิ

ตั้งอยู่ในเขตปกครองของรัฐกระเหรี่ยง DKBA จ.เมียวดี ประเทศพม่า

เป็นสถานที่สักการะบูชา แสวงบุญ ของชาวพุทธในพม่า โดยเฉพาะชาวกระเหรี่ยง

อีกทั้งยังเป็นจุดชมวิวธรรมชาติที่ขึ้นชื่อจนทำให้นักท่องเที่ยวสายผจญภัย สายเดินป่า

ต้องมาเยือนสถานที่แห่งนี้ให้ได้สักครั้ง

ลักษณะภูมิทัศน์ : ยอดเขามีความสูง ประมาณ 2,070 เมตร

บริเวณบนลานกางเต้นท์มีลักษณะเป็นเขาโล้น พื้นหญ้า กับโขดหิน ไม่ค่อยมีต้นไม้ใหญ่

ทำให้สภาพอากาศด้านบนมีแดดจัดในตอนกลางวัน ลมแรง และอากาศหนาวเย็นในตอนกลางคืน

ประมาณ 8 - 10 องศา

สถานที่แห่งนี้ มีกฎที่ค่อนข้างเข้มงวด
- ห้ามทานเนื้อสัตว์ (กินเจ)

- ห้าม ญ ตักน้ำในบ่อน้ำด้านบน

- ห้าม ช ญ นอนด้วยกันบนเขา

- ห้าม ญ มีประจำเดือนเข้าเขตพระธาตุและสิ่งศักดิ์สิทธิ์

- ห้าม ญ เข้าสักการะพระธาตุ บริเวณชั้นบนสุด (สักการะได้เฉพาะชั้นล่างเท่านั้น)

- ห้ามดื่มสุราและของมึนเมา

- ห้ามพูดคำหยาบ

- ห้าม ช ญ ใกล้ชิดกันบริเวณพระธาตุและสิ่งศักดิ์สิทธิ์

- ญ ต้องเปลี่ยนผ้าถุงก่อนขึ้นและถอดรองเท้าก่อนขึ้นสักการะพระธาตุ

2. การเดินทาง+การจอง+การเตรียมตัว

การเดินทางในครั้งนี้เราเลือกเดินทางไปกับทัวร์ Go Up Go Anywhere (GUGA)

เนื่องจากเป็นการเดินทางข้ามประเทศ และต้องทานอาหารเจ การไปกับทัวร์จึงค่อนข้างสะดวกกว่า

เริ่มต้นการเดินทางจาก กทม. - อ.พบพระ จ.ตาก

คำเตือน การเดินทางไปมุลาอิครั้งนี้ เป็นการเดินทางข้ามด่านชายแดนไทย - พม่า

ซึ่งไม่ใช่การผ่านด่านใหญ่ ไม่มีตรวจพาสปอร์ต เสมือนเราเป็นต่างด้าวในประเทศเขา

ฉะนั้นประกันการเดินทางจะครอบคลุมแค่ฝั่งไทยเท่านั้น

อีกทั้งตลอดสองข้างทางในฝั่งพม่า เราจะเห็นรอยกระสุนเป็นระยะๆ

ซึ่งอันตรายมากๆ ถ้าเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้น

ทุกคนควรทำตามข้อแนะนำของทัวร์/สตาฟอย่างเคร่งครัด

จากนั้นทำการเปลี่ยนเสื้อผ้า (แต่ไม่อาบน้ำ 555+ หนาวงะ)

เราจะใส่เป็นชุดปกปิดทั้งตัว + แว่นตา + แมส + ผ้าบัฟ + หมวก

เพราะสิ่งที่เราต้องเจอหลังจากข้ามแดนไปฝั่งพม่าแล้วนั้น คือ ฝุ่น

และเปลี่ยนรถ จากรถตู้ สู่ รถกระบะ 4 วิล

เพื่อมุ่งหน้าจาก อ.พบพระ จ.ตาก สู่ ชายแดนไทย - พม่า

เอาหละ เริ่มออกเดินทางด้ายยย

ช่วงแรกยังเป็นทางปูน เพื่อหลอกล่อให้เราตายใจ

แต่ต่อมานี่แหละ ถ้าไม่คลุมทั้งตัว รับรองแก่แน่!

(หัวขาว ตัวขาวไปหมด)

ผมนี่ลุกเลยฮะ! ไม่ใช่ไรนะ รถโยกเยกตลอดทางเลย ถ้าฝืนนั่งนานๆ พรุ่งนี้มีช้ำ!

และแล้วเราก็มาถึงจุดพักค่ะ เป็นพื้นที่เคลียร์เนื้อสัตว์ เผื่อท่านไหนถือติดมือมา จะได้รีบๆ กินให้หมด

เพราะถ้าเลยจากจุดนี้ไปแล้ว และถูกจับได้ จะโดยปรับ 5,000฿ เลยมั้ง ถ้าจำไม่ผิด

อ่ออีกอย่าง มุลาอิแห่งนี้เคยปิด! เพราะรู้ว่ามีผู้แสวงบุญไม่ทำตามกฎ แอบนำเนื้อสัตว์เข้าพื้นที่มาแล้วนะคะ

ไปเมืองตาหลิ่ว ก็ต้องหลิ่วตาตามด้วยนะทุกคน

ขนมที่เราถือเหมือนเปาะเปี๊ยะ ไส้มัน คือใหม่ สด หวาน และอร่อยมาก

ถึงแล้วจ้า เตรียมกระเป๋าแล้วเริ่มเดินกันเลย

มีห้องน้ำบริเวณนี้เท่านั้น

เดินไปสักพักก็เจอเนินตรงนี้ ท้อสุดแล้วบอกเลย ถึงลมจะแรงมาก แต่ลมหายใจเราก็แรงมากเช่นกัน T.T

เดินประมาณฯ 1 km. ก็ถึงลานกางเต้นท์แล้วค่าาา

ลมแรงมากก จนต้องนำแว่นมาใส่ เพราะฝุ่น กับดอกไม้จากหญ้ามันปลิวมาเข้าตาอะ

แถมหวั่นๆ ว่าเต้นท์จะปลิวไหมว้าาา 555+

เห็นที่เหมือนหน้าผาข้างหลังไหม จริงๆ ไม่ใช่หน้าผานะ มันเป็น Slope สามารถเดินลงไปได้ ถือว่าเป็นจุดไฮไลต์เลย

จุดตรงนี้ห้ามทำอาหาร และไม่มีห้องน้ำ ฉะนั้นต้องใช้ถุง 4 เท่านั้นน้า

เอาหละ กางเต้นท์เสร็จแล้ว เดินกลับไปกินข้าวกัน 5555+

เดินไม่ไกลค่ะ แต่แค่ต้องเดินไปเดินกลับหลายรอบหน่อย Q.Q

มื้อแรก เป็นเจที่พี่เขาสั่งมาจากฝั่งไทย

กินข้าวเสร็จ ก็ไปสักการะพระธาตุกันจ้า เดินไม่ไกล แต่ต้องเดินขึ้นเนิน + บันได + และลม

เราได้เห็นหมอกไหลด้วยทุกคน สวยม๊ากก

ญ สักการะได้เฉพาะชั้นล่าง ส่วน ช ขึ้นไปได้จนถึงชั้นบนนะ

พอลงมาจากพระธาตุก็นั่งพักเม้าส์มอยกันเล่นๆ นะ หาชา-กาแฟกิน

ส่วนเราก็ลองกินอาหารของเขาดู ถึงเป็นเจ แต่ก็อร่อยนะขอบอก

จากนั้นเราก็กลับมากินมื้อเย็นนะ หิวๆ เลยเร่งพี่สตาฟ ขอกินตั้งแต่ 4 โมงเย็น 5555

(ข้าวกระเพราเจ เราซื้อมานะ เสียดายเลยเอาออกมากินด้วย)

พออิ่ม เราเดินกลับไปที่จุดกางเต้นท์นะ

เดินเล่นรอชมพระอาทิตย์ตก ลมแรงมาก เห็นหมอกไหล อย่างกับ Timelapse

อีกภาพ หนาวๆ ลมแรงแบบแรงจริง แรงมาก เวลาลุกต้องเอามือจับพื้นหินไว้ด้วย กลัวลมพากลิ้งตกหิน >.<

และด้วยความที่ลมแรง เลยทำให้ไม่เห็นพระอาทิตย์ตก

เลยต้องตื่นเช้ามาชมพระอาทิตย์ขึ้นแทน

โชคดีมากก พอครึ่งคืนลมก็สงบจ้าาา

บรรยากาศตอนตี 4 กับเต้นท์เรืองแสง

ลมสงบก็ทำให้ฟ้าเปิด เราเลยเห็นหมู่ดาวบนท้องฟ้า

นี่คือภาพที่ถ่ายตอนพระอาทิตย์ขึ้นแล้ว

แบบ.. สีทองตะโกนนนนน!!! สวยมากกกก

แต้มบุญสูงมากทริปนี้

ได้เจอทั้ง หมอกไหล + ลมแรง + อากาศโคตรหนาว + ลมสงบ + เห็นพระอาทิตย์ขึ้น + ทุ่งหญ้าสีทอง

ท้ายนี้ เราขอขอบคุณความสงบในพม่า

ที่ทำให้ชาวไทยอย่างเราสามารถเดินทางข้ามแดน เพื่อไปเปิดประสบการณ์

และสักการะพระธาตุยังสถานที่แห่งนี้ได้

เราเชื่อเหลือเกินว่า ประเทศพม่ายังคงมีอีกหลายที่ที่ยังไม่ถูกค้นพบ ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีเสน่ห์ ชวนหลงไหล

รอวันที่นักท่องเที่ยวอย่างเราจะเข้าไปเปิดประสบการณ์แบบนี้อีกนับครั้งไม่ถ้วนเลย

เพียงแค่รอวันสงครามจะสงบเท่านั้นเอง

ไปดูเต็มๆ รีวิวแบบละเอียดกันได้ที่ช่องยูทูป : nadtiiz

============================================
ขอขอบคุณที่ติดตามมาถึงตอนนี้ค่า
หรือติดตามต่อได้ที่ :
Facebook : nadtiiz
Tiktok : nadtiiz
Instagram : nadtiiz