สุกี้ตี๋น้อย ปิดปี 2567 กำไรทะลุพันล้าน โต 28%
วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2568
“บี เอ็น เอ็น เรสเตอรองท์ กรุ๊ป” บริษัทเจ้าของร้าน “สุกี้ตี๋น้อย” ปิดปี 2567 กวาดกำไร 1,169 ล้านบาท โต 28% ด้าน JMART รับส่วนแบ่งกำไรถือหุ้น 30% จำนวน 350.7 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานตามที่บริษัท เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JMART ได้ประกาศงบการเงินปี 2567 (ม.ค.-ธ.ค. 2567) ผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวานนี้ (11 ก.พ. 2568) ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้น 1,140.8 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 355% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน (YOY)
ในฐานะที่ JMART ถือหุ้น บริษัท บี เอ็น เอ็น เรสเตอรองท์ กรุ๊ป จำกัด (BNN) เจ้าของร้าน “สุกี้ตี๋น้อย (Suki Teenoi)” อยู่ในสัดส่วน 30% โดยทาง JMART รายงานว่าในปี 2567 ที่ผ่านมา JMART ได้รับส่วนแบ่งกำไรจากการถือหุ้น บริษัท บี เอ็น เอ็น เรสเตอรองท์ กรุ๊ป จำกัด จำนวน 350.7 ล้านบาท
จากผลกำไรสุทธิรวมของ BNN อยู่ที่ 1,169 ล้านบาท (กำไรของ BNN จะเท่ากับ 818.3 ล้านบาท)
ซึ่งหากเปรียบเทียบกับปี 2566 จะพบว่ากำไรสุทธิรวมของ BNN ในปี 2567 ที่ 1,169 ล้านบาท
ปรับตัวเพิ่มขึ้น 28% เมื่อเทียบจากปี 2566 (ปี 2566 BNN มีกำไร 913 ล้านบาท JMART รับส่วนแบ่งกำไร 274 ล้านบาท)
กำไรสุทธิของ BNN ปี’62-67
ปี 2567 มีกำไร 1,169 ล้านบาท JMART รับส่วนแบ่งกำไร 350.7 ล้านบาท
ปี 2566 มีกำไร 913 ล้านบาท JMART รับส่วนแบ่งกำไร 274 ล้านบาท
ปี 2565 มีกำไร 591 ล้านบาท JMART รับส่วนแบ่งกำไร 19 ล้านบาท
ปี 2564 มีกำไร 147 ล้านบาท
ปี 2563 มีกำไร 140 ล้านบาท
ปี 2562 มีกำไร 15 ล้านบาท
รายได้รวมของ BNN ปี’62-66
ปี 2566 มีรายได้รวม 5,262 ล้านบาท
ปี 2565 มีรายได้รวม 3,976 ล้านบาท
ปี 2564 มีรายได้รวม 1,572 ล้านบาท
ปี 2563 มีรายได้รวม 1,223 ล้านบาท
ปี 2562 มีรายได้รวม 499 ล้านบาท
ทั้งนี้จำนวนสาขาร้าน “สุกี้ตี๋น้อย (Suki Teenoi)” ปิดสิ้นปี 2567 มีสาขาทั้งหมด 78 สาขา Teenoi BBQ (บุฟเฟต์ปิ้งย่าง) 1 สาขา และ Teenoi Express (บุฟเฟต์พรีเมี่ยม) 1 สาขา โดยในปี 2567 ที่ผ่านมา Suki Teenoi ได้เปิดสาขาเพิ่มขึ้นจำนวน 23 สาขา
โดยสาขาที่เปิดเพิ่มมีส่วนหนึ่งที่ได้เริ่มขยายออกไปต่างจังหวัด เช่น ชลบุรี ระยอง สุพรรณบุรี มหาสารคาม อุดรธานี และเชียงใหม่ ซึ่งเป็นทำเลที่มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการค่อนข้างหนาแน่น ด้วยแนวคิดของการให้บริการที่เข้าถึงความต้องของลูกค้าที่อยากทานสุกี้ ชาบู ที่มีราคาคุ้มค่าต่อการบริโภค จึงทำให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างดี
“JMART ได้เข้าร่วมลงทุนในบริษัท บี เอ็น เอ็น เรสเตอรองท์ กรุ๊ป จำกัด (BNN) เจ้าของร้านสุกี้ตี๋น้อย เสร็จสิ้นสมบูรณ์เมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2565 และเริ่มรับรู้กำไรตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2565 โดยเข้าซื้อหุ้นจำนวน 352,941 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 30% ของจำนวนหุ้นที่มีสิทธิออกเสียงทั้งหมด มูลค่าลงทุน 1,200 ล้านบาท”
https://www.prachachat.net/finance/news-1753297#m72hh01syv8tpupruq
สุกี้ตี๋น้อย ปิดปี 2567 กำไรทะลุพันล้าน โต 28% วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2568
วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2568
“บี เอ็น เอ็น เรสเตอรองท์ กรุ๊ป” บริษัทเจ้าของร้าน “สุกี้ตี๋น้อย” ปิดปี 2567 กวาดกำไร 1,169 ล้านบาท โต 28% ด้าน JMART รับส่วนแบ่งกำไรถือหุ้น 30% จำนวน 350.7 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานตามที่บริษัท เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JMART ได้ประกาศงบการเงินปี 2567 (ม.ค.-ธ.ค. 2567) ผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวานนี้ (11 ก.พ. 2568) ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้น 1,140.8 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 355% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน (YOY)
ในฐานะที่ JMART ถือหุ้น บริษัท บี เอ็น เอ็น เรสเตอรองท์ กรุ๊ป จำกัด (BNN) เจ้าของร้าน “สุกี้ตี๋น้อย (Suki Teenoi)” อยู่ในสัดส่วน 30% โดยทาง JMART รายงานว่าในปี 2567 ที่ผ่านมา JMART ได้รับส่วนแบ่งกำไรจากการถือหุ้น บริษัท บี เอ็น เอ็น เรสเตอรองท์ กรุ๊ป จำกัด จำนวน 350.7 ล้านบาท
จากผลกำไรสุทธิรวมของ BNN อยู่ที่ 1,169 ล้านบาท (กำไรของ BNN จะเท่ากับ 818.3 ล้านบาท)
ซึ่งหากเปรียบเทียบกับปี 2566 จะพบว่ากำไรสุทธิรวมของ BNN ในปี 2567 ที่ 1,169 ล้านบาท
ปรับตัวเพิ่มขึ้น 28% เมื่อเทียบจากปี 2566 (ปี 2566 BNN มีกำไร 913 ล้านบาท JMART รับส่วนแบ่งกำไร 274 ล้านบาท)
กำไรสุทธิของ BNN ปี’62-67
ปี 2567 มีกำไร 1,169 ล้านบาท JMART รับส่วนแบ่งกำไร 350.7 ล้านบาท
ปี 2566 มีกำไร 913 ล้านบาท JMART รับส่วนแบ่งกำไร 274 ล้านบาท
ปี 2565 มีกำไร 591 ล้านบาท JMART รับส่วนแบ่งกำไร 19 ล้านบาท
ปี 2564 มีกำไร 147 ล้านบาท
ปี 2563 มีกำไร 140 ล้านบาท
ปี 2562 มีกำไร 15 ล้านบาท
รายได้รวมของ BNN ปี’62-66
ปี 2566 มีรายได้รวม 5,262 ล้านบาท
ปี 2565 มีรายได้รวม 3,976 ล้านบาท
ปี 2564 มีรายได้รวม 1,572 ล้านบาท
ปี 2563 มีรายได้รวม 1,223 ล้านบาท
ปี 2562 มีรายได้รวม 499 ล้านบาท
ทั้งนี้จำนวนสาขาร้าน “สุกี้ตี๋น้อย (Suki Teenoi)” ปิดสิ้นปี 2567 มีสาขาทั้งหมด 78 สาขา Teenoi BBQ (บุฟเฟต์ปิ้งย่าง) 1 สาขา และ Teenoi Express (บุฟเฟต์พรีเมี่ยม) 1 สาขา โดยในปี 2567 ที่ผ่านมา Suki Teenoi ได้เปิดสาขาเพิ่มขึ้นจำนวน 23 สาขา
โดยสาขาที่เปิดเพิ่มมีส่วนหนึ่งที่ได้เริ่มขยายออกไปต่างจังหวัด เช่น ชลบุรี ระยอง สุพรรณบุรี มหาสารคาม อุดรธานี และเชียงใหม่ ซึ่งเป็นทำเลที่มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการค่อนข้างหนาแน่น ด้วยแนวคิดของการให้บริการที่เข้าถึงความต้องของลูกค้าที่อยากทานสุกี้ ชาบู ที่มีราคาคุ้มค่าต่อการบริโภค จึงทำให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างดี
“JMART ได้เข้าร่วมลงทุนในบริษัท บี เอ็น เอ็น เรสเตอรองท์ กรุ๊ป จำกัด (BNN) เจ้าของร้านสุกี้ตี๋น้อย เสร็จสิ้นสมบูรณ์เมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2565 และเริ่มรับรู้กำไรตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2565 โดยเข้าซื้อหุ้นจำนวน 352,941 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 30% ของจำนวนหุ้นที่มีสิทธิออกเสียงทั้งหมด มูลค่าลงทุน 1,200 ล้านบาท”
https://www.prachachat.net/finance/news-1753297#m72hh01syv8tpupruq