ในฐานะที่ JMART ถือหุ้น บริษัท บี เอ็น เอ็น เรสเตอรองท์ กรุ๊ป จำกัด (BNN) เจ้าของร้านสุกี้ตี๋น้อย อยู่ในสัดส่วน 30% โดยทาง JMART รายงานว่าช่วงครึ่งปีแรกได้รับส่วนแบ่งกำไรจากการถือหุ้น บริษัท บี เอ็น เอ็น เรสเตอรองท์ กรุ๊ป จำกัด จำนวน 183 ล้านบาท
ดังนั้นหากลองคำนวณนำกำไร 183 ล้านบาท ของ JMART หาร 30% จากสัดส่วนการถือหุ้น และคูณด้วย 100% จะเท่ากับช่วงครึ่งปีแรก ร้านสุกี้ตี๋น้อย มีกำไรกว่า 610 ล้านบาท (กำไรของ BNN จะเท่ากับ 427 ล้านบาท) โดยทาง JMART ได้อัพเดตว่าจนถึงสิ้นสุด 30 มิถุนายน 2567 ร้านสุกี้ตี๋น้อย มีสาขารวมทั้งหมด 67 สาขา ช่วงไตรมาส 2/2567 เปิดเพิ่มจำนวน 6 สาขา และยังคงเปิดสาขาในต่างจังหวัดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการเปิดสาขาใหม่ช่วงที่ผ่านมาทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเช่นกัน
https://www.prachachat.net/finance/news-1627805
buffet ในงบประมาณ 300 นี้คงไม่มีเจ้าไหนสู้ได้แล้ว
คิดว่าคงได้ ipo ในไม่ช้าตอนนี้งบดูสวยมาก กำไรปีละ 1200 ล้าน
ipo ระดับ หมื่นล้าน มูลค่าน่าจะแซง jmart ด้วยซ้ำ
ตี้น้อยครึ่งปีกำไรไป 610 ล้าน
ดังนั้นหากลองคำนวณนำกำไร 183 ล้านบาท ของ JMART หาร 30% จากสัดส่วนการถือหุ้น และคูณด้วย 100% จะเท่ากับช่วงครึ่งปีแรก ร้านสุกี้ตี๋น้อย มีกำไรกว่า 610 ล้านบาท (กำไรของ BNN จะเท่ากับ 427 ล้านบาท) โดยทาง JMART ได้อัพเดตว่าจนถึงสิ้นสุด 30 มิถุนายน 2567 ร้านสุกี้ตี๋น้อย มีสาขารวมทั้งหมด 67 สาขา ช่วงไตรมาส 2/2567 เปิดเพิ่มจำนวน 6 สาขา และยังคงเปิดสาขาในต่างจังหวัดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการเปิดสาขาใหม่ช่วงที่ผ่านมาทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเช่นกัน
https://www.prachachat.net/finance/news-1627805
buffet ในงบประมาณ 300 นี้คงไม่มีเจ้าไหนสู้ได้แล้ว
คิดว่าคงได้ ipo ในไม่ช้าตอนนี้งบดูสวยมาก กำไรปีละ 1200 ล้าน
ipo ระดับ หมื่นล้าน มูลค่าน่าจะแซง jmart ด้วยซ้ำ