ธรรมนั้นเป็นเช่นไร ? ได้ ยินได้ฟังว่าปฏิบัติธรรม ทำไมต้องปฏิบัติ

ขอถามผู้ที่ปฏิบัติธรรมค่ะ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 11
ธรรม ไม่ใช่คำสอน ไม่ใช่ข้อปฏิบัติ ไม่ใช่หลักการ ไม่ใช่แนวคิด ไม่ใช่ปรัชญา แต่เป็นสภาพความเป็นจริงในธรรมชาติ

หรือจะเรียกอีกอย่างว่าธรรมนั้นมีในทุกสิ่ง หรือเป็นทุกสิ่งทุกอย่างก็ได้ อยู่ที่ว่าเราจะกล่าวถึงธรรมในลักษณะไหน และในบางกรณีเราสามารถใช้คำบางคำในความหมายเช่นเดียวกับธรรมก็ได้เช่นคำว่าธรรมชาติ

ยกตัวอย่าง ธรรมของน้ำ หรือธรรมชาติของน้ำ มีการไหลเป็นปกติ ธรรมของไอน้ำมีการระเหยเป็นปกติ ทีนี้เราอยากให้น้ำระเหยไป เราก็ต้องรู้วิธีการคือการเพิ่มอุณหภูมิให้น้ำ จนน้ำเปลี่ยนสถานะจากของเหลวไปเป็นก๊าซ ตรงนี้ก็เทียบได้ว่าเป็นการปฏิบัติธรรม พอน้ำเปลี่ยนเป็นไอน้ำแล้ว ตรงนี้ก็เทียบได้ว่าเป็นปฏิเวธธรรม คือถึงเป้าหมายโดยสมบูรณ์แล้ว ได้ไอน้ำไปใช้งานตามที่ต้องการแล้ว

และเมื่อเรานำความรู้เกี่ยวกับสถานะของน้ำและการเปลี่ยนน้ำให้เป็นไอน้ำไปสอนคนอื่น ก็เรียกว่าปริยัติธรรม เป็นหลักธรรมคำสอนเพื่อนำไปสอนผู้อื่น แต่ธรรมที่แท้จริงก็ย่อมอ้างอิงกับความเป็นจริงนั่นเอง ซึ่งต่อให้ไม่มีใครนำมาสอน ธรรมของน้ำก็เป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว

เมื่อธรรมคือทุกสิ่งทุกอย่าง ธรรมจึงมีหลายชนิด ทั้งธรรมสูงธรรมต่ำ ธรรมดำธรรมขาว ธรรมชั่วธรรมดี ธรรมมืดธรรมสว่าง หรือแม้กระทั่งธรรมที่เป็นกลางๆ

แต่เมื่อเรากล่าวธรรมโดยเฉพาะเรื่อง เช่นธรรมของนักเรียน ปริยัติธรรมก็คือสิ่งที่ต้องเรียนรู้ ปฏิบัติธรรมก็คือการตั้งใจเรียน การตั้งใจสอบ การประพฤติตัวให้เหมาะสม การเชื่อฟัง การรักษาระเบียบวินัย การทำงานที่ได้รับมอบหมายให้เสร็จสมบูรณ์ และปฏิเวธธรรมก็คือการเรียนให้จบเพื่อนำความรู้ที่ได้ไปพัฒนาชีวิตตัวเองให้ดีขึ้นได้นั่นเอง ในกรณีนี้คำว่า ธรรม ย่อมหมายถึงสิ่งที่นักเรียนควรรู้ควรปฏิบัติและควรทำให้แจ้ง

ดังนั้นคำว่า ธรรม ที่เป็นสาระของศาสนาพุทธ จึงหมายถึงทุกสิ่งที่ควรรู้ ทุกสิ่งที่ควรปฏิบัติ และทุกสิ่งที่ควรทำให้แจ้ง ไม่ใช่แค่เพียงศึกษาหรือจดจำ แต่ยังต้องนำไปปฏิบัติจนบรรลุผลต่างๆจนเข้าถึงสัจธรรมที่แท้จริงในธรรมชาติได้อีกด้วย ดังนั้น ตำราจึงเป็นแค่ส่วนของคำสอนที่ผู้รู้สอนไว้เท่านั้น ยังไม่ใช่ตัวธรรมที่แท้จริง เพราะยังต้องมีขั้นตอนของการปฏิบัติและปฏิเวธอีก ซึ่งเราไม่สามารถเข้าถึงได้ด้วยการอ่านตำราแต่เพียงอย่างเดียว เหมือนเรารู้วิธีเปลี่ยนน้ำให้เป็นไอน้ำนั่นแหละ ถ้าแค่รู้วิธีอย่างเดียวมันก็เปลี่ยนไม่ได้อยู่ดี ต้องลงมือทำด้วยจึงจะสมบูรณ์

ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นธรรมบทไหนในพระไตรปิฎก ธรรมทุกบทนั้นสามารถนำไปปฏิบัติตามได้ทั้งสิ้น และเมื่อนำไปปฏิบัติตามอย่างจริงจังและเพียงพอแล้วก็จะบรรลุผลในธรรมลำดับต่างๆ และจะเข้าถึงสัจธรรมที่แท้จริงตามเป้าหมายของศาสนาพุทธได้ หากแค่จำได้หรือท่องและทบทวนจนเข้าใจ ก็เรียกว่าการสืบทอดคำสอนเท่านั้น ไม่ใช่การเข้าถึงธรรมที่แท้จริงของศาสนาพุทธ เพราะธรรมนั้นคือความเป็นจริงในธรรมชาติ ที่จะปรากฏชัดแก่ผู้ที่เข้าถึงด้วยการปฏิบัติเท่านั้น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่