
วิวยอดเยาเม่ยเฟิงสี่ดรุณีแบบเต็ม ๆ ตา เมื่อมองจากทะเลสาบปาเจี่ยวเผิง
สำหรับคนที่เคยมาพิชิตยอดเขาต้าเฟิงที่สี่ดรุณี จะรู้กันดีว่า วิวบนยอดเขาต้าเฟิงอลังการงานสร้างเอามาก ๆ เพราะนอกจากวิวภูเขาน้อง ๆ สี่ดรุณีอีกสามลูก(เอ้อเฟิง,ซานเฟิง และเยาเม่ยเฟิง)ที่อยู่ใกล้ ๆ แล้ว ยังมียอดภูเขาหิมะอื่น ๆ เป็นฉากหลังอีกนับเป็นสิบ ๆ ลูก

ด้านหลังคือวิวแนวเทือกเขาหิมะที่อยู่ตรงข้ามเทือกเขาสี่ดรุณี
คนที่ได้ไปเห็นวิวนั้น คงมีบ้างที่ต้องอดนึกสงสัยไม่ได้ว่า ในบรรดาภูเขานับสิบลูกที่อยู่ลิบ ๆ นั่น มีลูกไหนที่มันขึ้นถึงยอดได้บ้างหรือเปล่า ?
คำตอบก็คือ....
มีครับ ^^ มีอยู่ยอดนึงที่ขึ้นได้แน่ ๆ และเป็นเขาที่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวทั่วไปด้วย กล่าวคือสามารถเดินเทรคปกติขึ้นยอดเขาได้
ยอดเขาที่ว่านั้น มีชื่อว่า " อิงเกอจุ่ยเฟิง(鹰鸽嘴峰yinggezuifeng) " ครับ

ยอดแหลม ๆ ตรงกลางก็คือยอดอิงเกอจุ่ยเฟิง
อิงเกอ(鹰鸽) ถ้าแปลตรงตัว จะแปลว่า " นกอินทรี+นกพิราบ " ตัวอะไรของมันหว่า --"
แต่ไกด์ที่สี่ดรุณี บอกผมว่า อิงเกอสำหรับพวกเขา มันแปลว่า "นกแก้ว " ครับ (นกแก้วในภาษาจีนกลาง จริง ๆ ต้องเขียนว่า鹦鹉และอ่านว่า " อิงอู่ " )
ส่วนจุ่ย(嘴) จะแปลว่า ปาก ครับ และเฟิง(峰) แปลว่า ยอดเขา
ดังนั้น ในความหมายรวม อิงเกอจุ่ยเฟิง จึงแปลว่า "ยอดเขาปากนกแก้ว" ครับ ก็คงได้ชื่อมาจากส่วนปลายยอดที่คล้ายจะงอยปากนกนั่นเอง

ถ้ามองจากยอดต้าเฟิง ยอดอิงเกอฯจะอยู่ทางซ้าย(ลูกศรสีแดง)

แต่ถ้ามองจากยอดเอ้อเฟิง ยอดอิงเกอฯจะอยู่ทางขวา(ที่มีตัวอักษรจีน)
อิงเกอจุ่ยเฟิง มีความสูง 5180 เมตร (สูงกว่าต้าเฟิง แต่เตี้ยกว่าเอ้อเฟิง) ระยะทางเดินเทรคจากตัวเมืองสี่ดรุณี 34 กิโลเมตร ทางเทรคเริ่มต้นจะไปทางไห่จึโกวเหมือนต้าเฟิงและเอ้อเฟิง แต่จะแยกไปคนละทางเมื่อถึงต่าเจียนเปา
จากข้อมูลที่หาได้ทางอินเตอร์เน็ต ยอดเขานี้ เราสามารถจบได้ในสี่วันเช่นเดียวกับต้าเฟิงและเอ้อเฟิงครับ :
วันที่ 1 - เดินทางจากเฉิงตูไปตำบลสี่ดรุณี
วันที่ 2 - เทรคจากตำบลสี่ดรุณีไปทางไห่จึโกว(ทางเดียวกับต้าเฟิงและเอ้อเฟิง) ผ่านต่าเจียนเปา(打尖包) , เหล่าหนิวเหยียนจึ(老牛园子),ปาเจี่ยวเผิงไห่จึ(八角棚海子), จนไปถึงเบสแคมป์(สูง 4000 เมตร) ระยะทางราว ๆ 18 กิโลเมตร
วันที่ 3 - summit และ กลับสู่ตำบลสี่ดรุณี
วันที่ 4 - กลับเฉิงตู
ถ้าจะมองว่า อิงเกอจุ่ยเฟิงก็สูงพอ ๆ กับต้าเฟิงและเอ้อเฟิง งั้นเราก็ไม่เห็นต้องไปเลย จะว่าแบบนั้นมันก็ถูกครับ
แต่ความน่าสนใจของที่นี่ก็คือ ถ้าเราไปถึงยอดเขาได้ เราจะเห็นเทือกเขาสี่ดรุณีเป็นฉากหลัง !

บริเวณยอดเขาอิงเกอจุ่ยเฟิง เห็นยอดเยาเม่ยเฟิงอยู่ไกล ๆ ด้านหลัง
นอกจากนี้ทางเทรคยังผ่านทะเลสาบปาเจี่ยวเผิง(八角棚bajiaopeng) ซึ่งสะท้อนเงาเยาเม่ยเฟิง(น้องเล็กสี่ดรุณี) เป็นวิวที่ได้ชื่อว่างดงามอันดับต้น ๆ ของอุทยานสี่ดรุณีเลยครับ

วิวสะท้อนเยาเม่ยเฟิงบนทะเลสาบปาเจี่ยวเผิง
ช่วงเวลาปีนอิงเกอจุ่ยจะคล้าย ๆ ต้ากับเอ้อเฟิง เดือน 7-10 จะไม่มีหิมะ ถ้าอยากได้หิมะ ปีนช่วงเดือน 3-5 จะเหมาะที่สุด
+++ข้อมูลอิงเกอจุ่ยเฟิงจากที่ผมได้ไปสัมผัสมาด้วยตัวเอง+++
ตอนที่ผมได้ข้อมูลอิงเกอจุ่ยเฟิงจากไกด์ปีนเขาที่สี่ดรุณี ผมก็เซททีมเลยครับ แล้วก็พาคนไทยกลุ่มแรก(15 คน)ไปลองขึ้นเขามาแล้วเมื่อตุลาคม ปี2019
มาว่ากันถึงผลสำรวจอิงเกอจุ่ยเฟิงกันเลยดีกว่านะครับ
วันแรก รถมารับพวกเราตอนตีห้าตามแผนการ แต่ที่ผิดแผนก็คือ เราไปเจอการปิดซ่อมถนนระหว่างทางไปสี่ดรุณี ทำให้เราเสียเวลาอยู่บนถนนสามชม. --"
ดังนั้น กว่าเราจะถึงเมืองสี่ดรุณี เวลาก็ปาไปบ่ายสอง ทำให้ตอนแรกที่เราจะออกเทรควันนี้ จึงไม่สามารถทำได้
เนื่องจากแผนที่เราวางไว้ว่าจะเทรคสองวันไปอิงเกอจุ่ยเฟิง หดเหลือวันเดียว ทำให้เราไม่มีทางเลือก ในวันที่สองจึงต้องยอมเช่าม้านั่งไปทะเลสาบปาเจี่ยวเผิง
ระหว่างเดินทาง มีการพักม้าเป็นระยะ และมีพักให้พวกเรากินข้าวที่ต่าเจียนเปา กว่าเราจะไปถึงที่หมายก็ราว ๆ ห้าโมงเย็น

ทางเทรคไปทะเลสาบปาเจี่ยวเผิงยังเป็นธรรมชาติอยู่มาก เส้นทางนี้คนมาไม่เยอะเหมือนทางเทรคไปต้าเฟิง

ผ่านทุ่งหญ้าและพุ่มไม้หนาแน่นตลอดทาง
ทะเลสาบปาเจี่ยวเผิง อยู่ที่ระดับความสูงราวสี่พันห้าร้อยเมตร ช่วงที่เราไป น้ำค่อนข้างน้อย และท้องฟ้าก็มืดครึ้ม ทำให้ไม่สวยงามอย่างที่เราคาดกันไว้
วันที่สาม พวกเราตื่นขึ้นมาเพื่อเตรียมตัวขึ้นยอดอิงเกอจุ่ยเฟิงตอนตีสาม มีสี่คนที่โดนAMSเล่นงาน เลยเหลือสมาชิกขึ้นยอด 12 คน คนที่เหลือก็สภาพไม่ดีเท่าไหร่ ปวดหัวกันเกือบยกทีม (ผมด้วย --")
หิมะโปรยปรายตลอดทางที่เราเทรคขึ้นเขา ทางเทรคสู่ยอดเขาชันมาก(75 องศา --" ) และเป็นทางหินก้อนเล็ก ๆ เวลาเหยียบจะไม่มั่นคง เมื่อรวมกับหิมะที่ตกลงมา ทำให้ทางลื่นมาก (ผมล้มเป็นสิบ ๆ รอบเลย) --"

อากาศวันที่ทีมผมขึ้นยอดไม่ดีเลย ฟ้าปิดมัวไปหมด ยังดีที่ลมไม่แรงมาก
พวกเราถึงบริเวณไหล่เขา(ความสูงราวเกือบห้าพันเมตร) ตอนเจ็ดโมงครึ่ง ฟ้าปิด มองวิวรอบ ๆ ไม่เห็นอะไรเลย --"
พวกเราทุกคนลงความเห็นว่า ไปถึงยอดก็คงไม่ต่างกัน จึงตัดสินใจลง โดยมีน้องคนหนึ่งที่มีความฟิตดี ขึ้นไปพิชิตยอดเขากับไกด์อีกหนึ่งคน

วิวตอนที่ทีมผมเริ่มเดินลงเขา
ประสบการณ์จากที่ได้ไปขึ้นยอดอิงเกอจุ่ยเฟิงมา ผมคิดว่าก็เป็นยอดที่ขึ้นยากอยู่นะครับ ยากกว่าต้าเฟิงแต่ไม่ยากเท่าเอ้อเฟิง ทางเป็นหินไม่ค่อยมั่นคงเท่าไหร่ ทางชันมากด้วย เส้นทางเดินก็ไม่ชัดเจน แต่ถ้าใครอยากลองก็คิดว่ามาได้ครับ แต่ควรต้องมีไกด์ประกบ 1:1 เลยก็จะดี เพื่อความปลอดภัย

ทางเดินขึ้นอิงเกอ ชันกันแบบนี้เลย
การมาพิชิตยอดอิงเกอจุ่ยเฟิง เส้นทางจนถึงเบสแคมป์(ริมทะเลสาบปาเจี่ยวเผิง) ค่อนข้างไกลและยากลำบาก ถ้าจะเดินไป ต้องใช้เวลาสองวัน ดังนั้นถ้าเทียบกับการไปต้าเฟิงก็ถือว่าตัองเดินทางนานกว่าและเหนื่อยกว่าเยอะ
แต่ผมก็คิดว่าเส้นทางนี้คุ้มค่าที่จะมานะครับ ถ้าไม่อยากเหนื่อยมากก็ไม่ต้องขึ้นยอดอิงเกอจุ่ยเฟิง มาถึงแค่ทะเลสาบปาเจี่ยวเผิงก็พอแล้ว ได้วิวสวยถูกใจแน่นอนครับ

มานอนริมทะเลสาบปาเจี่ยวเผิงเพื่อวิวนี้ก็คุ้มค่าที่เทรคมาแล้ว
รูปประกอบ : จากอินเตอร์เน็ตและXiaohongshu รูปตอนกลุ่มผมไปมาจากกล้องเพื่อน
ทะเลสาบปาเจี่ยวเผิง+ยอดอิงเกอจุ่ยเฟิง : หนึ่งในเส้นทางเทรคเลอค่า ณ สี่ดรุณี
วิวยอดเยาเม่ยเฟิงสี่ดรุณีแบบเต็ม ๆ ตา เมื่อมองจากทะเลสาบปาเจี่ยวเผิง
สำหรับคนที่เคยมาพิชิตยอดเขาต้าเฟิงที่สี่ดรุณี จะรู้กันดีว่า วิวบนยอดเขาต้าเฟิงอลังการงานสร้างเอามาก ๆ เพราะนอกจากวิวภูเขาน้อง ๆ สี่ดรุณีอีกสามลูก(เอ้อเฟิง,ซานเฟิง และเยาเม่ยเฟิง)ที่อยู่ใกล้ ๆ แล้ว ยังมียอดภูเขาหิมะอื่น ๆ เป็นฉากหลังอีกนับเป็นสิบ ๆ ลูก
ด้านหลังคือวิวแนวเทือกเขาหิมะที่อยู่ตรงข้ามเทือกเขาสี่ดรุณี
คนที่ได้ไปเห็นวิวนั้น คงมีบ้างที่ต้องอดนึกสงสัยไม่ได้ว่า ในบรรดาภูเขานับสิบลูกที่อยู่ลิบ ๆ นั่น มีลูกไหนที่มันขึ้นถึงยอดได้บ้างหรือเปล่า ?
คำตอบก็คือ....
มีครับ ^^ มีอยู่ยอดนึงที่ขึ้นได้แน่ ๆ และเป็นเขาที่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวทั่วไปด้วย กล่าวคือสามารถเดินเทรคปกติขึ้นยอดเขาได้
ยอดเขาที่ว่านั้น มีชื่อว่า " อิงเกอจุ่ยเฟิง(鹰鸽嘴峰yinggezuifeng) " ครับ
ยอดแหลม ๆ ตรงกลางก็คือยอดอิงเกอจุ่ยเฟิง
อิงเกอ(鹰鸽) ถ้าแปลตรงตัว จะแปลว่า " นกอินทรี+นกพิราบ " ตัวอะไรของมันหว่า --"
แต่ไกด์ที่สี่ดรุณี บอกผมว่า อิงเกอสำหรับพวกเขา มันแปลว่า "นกแก้ว " ครับ (นกแก้วในภาษาจีนกลาง จริง ๆ ต้องเขียนว่า鹦鹉และอ่านว่า " อิงอู่ " )
ส่วนจุ่ย(嘴) จะแปลว่า ปาก ครับ และเฟิง(峰) แปลว่า ยอดเขา
ดังนั้น ในความหมายรวม อิงเกอจุ่ยเฟิง จึงแปลว่า "ยอดเขาปากนกแก้ว" ครับ ก็คงได้ชื่อมาจากส่วนปลายยอดที่คล้ายจะงอยปากนกนั่นเอง
ถ้ามองจากยอดต้าเฟิง ยอดอิงเกอฯจะอยู่ทางซ้าย(ลูกศรสีแดง)
แต่ถ้ามองจากยอดเอ้อเฟิง ยอดอิงเกอฯจะอยู่ทางขวา(ที่มีตัวอักษรจีน)
อิงเกอจุ่ยเฟิง มีความสูง 5180 เมตร (สูงกว่าต้าเฟิง แต่เตี้ยกว่าเอ้อเฟิง) ระยะทางเดินเทรคจากตัวเมืองสี่ดรุณี 34 กิโลเมตร ทางเทรคเริ่มต้นจะไปทางไห่จึโกวเหมือนต้าเฟิงและเอ้อเฟิง แต่จะแยกไปคนละทางเมื่อถึงต่าเจียนเปา
จากข้อมูลที่หาได้ทางอินเตอร์เน็ต ยอดเขานี้ เราสามารถจบได้ในสี่วันเช่นเดียวกับต้าเฟิงและเอ้อเฟิงครับ :
วันที่ 1 - เดินทางจากเฉิงตูไปตำบลสี่ดรุณี
วันที่ 2 - เทรคจากตำบลสี่ดรุณีไปทางไห่จึโกว(ทางเดียวกับต้าเฟิงและเอ้อเฟิง) ผ่านต่าเจียนเปา(打尖包) , เหล่าหนิวเหยียนจึ(老牛园子),ปาเจี่ยวเผิงไห่จึ(八角棚海子), จนไปถึงเบสแคมป์(สูง 4000 เมตร) ระยะทางราว ๆ 18 กิโลเมตร
วันที่ 3 - summit และ กลับสู่ตำบลสี่ดรุณี
วันที่ 4 - กลับเฉิงตู
ถ้าจะมองว่า อิงเกอจุ่ยเฟิงก็สูงพอ ๆ กับต้าเฟิงและเอ้อเฟิง งั้นเราก็ไม่เห็นต้องไปเลย จะว่าแบบนั้นมันก็ถูกครับ
แต่ความน่าสนใจของที่นี่ก็คือ ถ้าเราไปถึงยอดเขาได้ เราจะเห็นเทือกเขาสี่ดรุณีเป็นฉากหลัง !
บริเวณยอดเขาอิงเกอจุ่ยเฟิง เห็นยอดเยาเม่ยเฟิงอยู่ไกล ๆ ด้านหลัง
นอกจากนี้ทางเทรคยังผ่านทะเลสาบปาเจี่ยวเผิง(八角棚bajiaopeng) ซึ่งสะท้อนเงาเยาเม่ยเฟิง(น้องเล็กสี่ดรุณี) เป็นวิวที่ได้ชื่อว่างดงามอันดับต้น ๆ ของอุทยานสี่ดรุณีเลยครับ
วิวสะท้อนเยาเม่ยเฟิงบนทะเลสาบปาเจี่ยวเผิง
ช่วงเวลาปีนอิงเกอจุ่ยจะคล้าย ๆ ต้ากับเอ้อเฟิง เดือน 7-10 จะไม่มีหิมะ ถ้าอยากได้หิมะ ปีนช่วงเดือน 3-5 จะเหมาะที่สุด
+++ข้อมูลอิงเกอจุ่ยเฟิงจากที่ผมได้ไปสัมผัสมาด้วยตัวเอง+++
ตอนที่ผมได้ข้อมูลอิงเกอจุ่ยเฟิงจากไกด์ปีนเขาที่สี่ดรุณี ผมก็เซททีมเลยครับ แล้วก็พาคนไทยกลุ่มแรก(15 คน)ไปลองขึ้นเขามาแล้วเมื่อตุลาคม ปี2019
มาว่ากันถึงผลสำรวจอิงเกอจุ่ยเฟิงกันเลยดีกว่านะครับ
วันแรก รถมารับพวกเราตอนตีห้าตามแผนการ แต่ที่ผิดแผนก็คือ เราไปเจอการปิดซ่อมถนนระหว่างทางไปสี่ดรุณี ทำให้เราเสียเวลาอยู่บนถนนสามชม. --"
ดังนั้น กว่าเราจะถึงเมืองสี่ดรุณี เวลาก็ปาไปบ่ายสอง ทำให้ตอนแรกที่เราจะออกเทรควันนี้ จึงไม่สามารถทำได้
เนื่องจากแผนที่เราวางไว้ว่าจะเทรคสองวันไปอิงเกอจุ่ยเฟิง หดเหลือวันเดียว ทำให้เราไม่มีทางเลือก ในวันที่สองจึงต้องยอมเช่าม้านั่งไปทะเลสาบปาเจี่ยวเผิง
ระหว่างเดินทาง มีการพักม้าเป็นระยะ และมีพักให้พวกเรากินข้าวที่ต่าเจียนเปา กว่าเราจะไปถึงที่หมายก็ราว ๆ ห้าโมงเย็น
ทางเทรคไปทะเลสาบปาเจี่ยวเผิงยังเป็นธรรมชาติอยู่มาก เส้นทางนี้คนมาไม่เยอะเหมือนทางเทรคไปต้าเฟิง
ผ่านทุ่งหญ้าและพุ่มไม้หนาแน่นตลอดทาง
ทะเลสาบปาเจี่ยวเผิง อยู่ที่ระดับความสูงราวสี่พันห้าร้อยเมตร ช่วงที่เราไป น้ำค่อนข้างน้อย และท้องฟ้าก็มืดครึ้ม ทำให้ไม่สวยงามอย่างที่เราคาดกันไว้
วันที่สาม พวกเราตื่นขึ้นมาเพื่อเตรียมตัวขึ้นยอดอิงเกอจุ่ยเฟิงตอนตีสาม มีสี่คนที่โดนAMSเล่นงาน เลยเหลือสมาชิกขึ้นยอด 12 คน คนที่เหลือก็สภาพไม่ดีเท่าไหร่ ปวดหัวกันเกือบยกทีม (ผมด้วย --")
หิมะโปรยปรายตลอดทางที่เราเทรคขึ้นเขา ทางเทรคสู่ยอดเขาชันมาก(75 องศา --" ) และเป็นทางหินก้อนเล็ก ๆ เวลาเหยียบจะไม่มั่นคง เมื่อรวมกับหิมะที่ตกลงมา ทำให้ทางลื่นมาก (ผมล้มเป็นสิบ ๆ รอบเลย) --"
อากาศวันที่ทีมผมขึ้นยอดไม่ดีเลย ฟ้าปิดมัวไปหมด ยังดีที่ลมไม่แรงมาก
พวกเราถึงบริเวณไหล่เขา(ความสูงราวเกือบห้าพันเมตร) ตอนเจ็ดโมงครึ่ง ฟ้าปิด มองวิวรอบ ๆ ไม่เห็นอะไรเลย --"
พวกเราทุกคนลงความเห็นว่า ไปถึงยอดก็คงไม่ต่างกัน จึงตัดสินใจลง โดยมีน้องคนหนึ่งที่มีความฟิตดี ขึ้นไปพิชิตยอดเขากับไกด์อีกหนึ่งคน
วิวตอนที่ทีมผมเริ่มเดินลงเขา
ประสบการณ์จากที่ได้ไปขึ้นยอดอิงเกอจุ่ยเฟิงมา ผมคิดว่าก็เป็นยอดที่ขึ้นยากอยู่นะครับ ยากกว่าต้าเฟิงแต่ไม่ยากเท่าเอ้อเฟิง ทางเป็นหินไม่ค่อยมั่นคงเท่าไหร่ ทางชันมากด้วย เส้นทางเดินก็ไม่ชัดเจน แต่ถ้าใครอยากลองก็คิดว่ามาได้ครับ แต่ควรต้องมีไกด์ประกบ 1:1 เลยก็จะดี เพื่อความปลอดภัย
ทางเดินขึ้นอิงเกอ ชันกันแบบนี้เลย
การมาพิชิตยอดอิงเกอจุ่ยเฟิง เส้นทางจนถึงเบสแคมป์(ริมทะเลสาบปาเจี่ยวเผิง) ค่อนข้างไกลและยากลำบาก ถ้าจะเดินไป ต้องใช้เวลาสองวัน ดังนั้นถ้าเทียบกับการไปต้าเฟิงก็ถือว่าตัองเดินทางนานกว่าและเหนื่อยกว่าเยอะ
แต่ผมก็คิดว่าเส้นทางนี้คุ้มค่าที่จะมานะครับ ถ้าไม่อยากเหนื่อยมากก็ไม่ต้องขึ้นยอดอิงเกอจุ่ยเฟิง มาถึงแค่ทะเลสาบปาเจี่ยวเผิงก็พอแล้ว ได้วิวสวยถูกใจแน่นอนครับ
มานอนริมทะเลสาบปาเจี่ยวเผิงเพื่อวิวนี้ก็คุ้มค่าที่เทรคมาแล้ว
รูปประกอบ : จากอินเตอร์เน็ตและXiaohongshu รูปตอนกลุ่มผมไปมาจากกล้องเพื่อน