
วิวทะเลหมอกบนยอดปิงชวนไห่
ในช่วงต้นปี2025นี้ ต้าเฟิง(และเส้นทางเทรคทั้งหมดในอุทยานสี่ดรุณี)ก็ยังคงปิดอยู่เช่นเดียวกับเมื่อปีก่อน เห็นทางเอเยนต์ที่สี่ดรุณีบอกว่า ปีนี้น่าจะเปิดเดือนพฤษภาคม เร็วกว่าปีก่อนหนึ่งเดือน
การปิดต้าเฟิงเมื่อปีก่อน(2024)จริง ๆ ก็สร้างเรื่องดี ๆ ให้กับวงการเทรคที่สี่ดรุณีด้วยเช่นกัน เพราะส่งผลให้มีการบุกเบิกเส้นทางเทรคอื่น ๆ แถว ๆ สี่ดรุณีขึ้นมาทดแทนเต็มไปหมด เอาแค่ที่ผมเขียนแนะนำไว้เมื่อปีก่อนก็มี 4 เส้นทางเข้าไปแล้ว (เจี๋ยซือโกวชวนซานต้ง, อียางเจียปัว,ซ่าอู๋ และ หลางต๋า)
ทั้ง 4 เส้นทางที่เคยเขียนแนะนำไปก็เป็นลักษณะยอดภูเขาหิมะคล้าย ๆ ต้าเฟิงทั้งนั้น คือเป็นเทรคกิ้งพีคที่เดินขึ้นถึงยอดได้ และมีความสูงราว +/-5000 เมตร ก็ช่วยทดแทนต้าเฟิงได้เป็นอย่างดี
จากตอนนั้นถึงทุกวันนี้ แถวพื้นที่เสฉวนก็ยังมีการเปิดเส้นทางขึ้นยอดภูเขาใหม่ ๆ อีกเรื่อย ๆ เลยครับ จำชื่อกันไม่ทันเลย --"
วันนี้ก็เลยจะมาแนะนำเส้นทางเทรคอีกซักเส้นทางนึง เส้นเทรคนี้นอกจากจะทดแทนต้าเฟิงได้แล้ว ยังน่าจะทดแทนเอ้อเฟิงได้ด้วยครับ ที่สำคัญคือ มันอยู่ใกล้สี่ดรุณีด้วยครับ
เส้นเทรค "จิ่วเจี้ยไห่(九架海Jiujiahai)" น่าจะพึ่งบุกเบิกได้ไม่นานนี้เองครับ เพราะหาอ่านข้อมูลมีน้อยมาก แต่ด้วยว่ามันอยู่ไม่ไกลจากสี่ดรุณี ในช่วงนี้ที่ต้าเฟิงปิดอยู่ คนจีนเลยเริ่มแห่กันไปอยู่พอสมควร
คำว่า"จิ่วเจี้ยไห่" แปลเป็นจีนก็คือ "ทะเลสาบเก้าแห่ง(จิ่ว=เก้า, เจี้ย=แห่ง, ไห่=ทะเลสาบ)" ซึ่งก็สื่อถึงจำนวนทะเลสาบที่มีอยู่แถว ๆ บริเวณนี้
จิ่วเจี้ยไห่โดยตำแหน่งจะอยู่ที่ตำบลต๋าเหว๋ย(达维Dawei) ซึ่งอยู่ห่างจากสี่ดรุณีแค่ 20 กิโลเมตรเท่านั้น เรียกว่าพักที่สี่ดรุณีแล้วค่อยตื่นเช้านั่งรถมาเทรคที่นี่ก็ยังได้
ถ้าจะบอกพิกัดให้ชัดกว่านั้นอีกหน่อย จิ่วเจี้ยไห่ก็คือหุบเขาที่อยู่ข้าง ๆ ซวงเฉียวโกวที่สี่ดรุณีนี่เองครับ ดังนั้นแนวภูเขาหิมะที่เราเห็นตอนไปเที่ยวซวงเฉียวโกว ระหว่างเดินเทรคที่จิ่วเจี้ยไห่เราก็จะเห็นด้วยเช่นเดียวกัน

ภาพกราฟฟิคแสดงให้เห็นระยะห่างระหว่างเส้นเทรคจิ่วเจี้ยไห่(เส้นปะสีแดง)กับซวงเฉียวโกว (เส้นปะสีน้ำเงิน)
เส้นเทรคจิ่วเจี้ยไห่จะแบ่งเป็น 3 เส้นทางหลัก ๆ ครับ จุดเริ่มเทรคจะอยู่ที่เดียวกัน ลักษณะของเส้นเทรคจะเป็นแนวเทรคขึ้นยอดภูเขาหิมะเหมือนกัน แต่ก็จะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแตกต่างกันไป
1. เส้นทางขึ้นยอด "เฝ่ยชุ่ยจือเหยี่ยน(翡翠之眼แปลว่าดวงตาแห่งหยก)"
เส้นนี้เป็นเส้นทางแรกก็เพราะว่าจากจุดเริ่มเทรคเราก็จะเริ่มขึ้นยอดกันตั้งแต่ตรงนั้นเลยครับ ดังนั้นเราสามารถเทรคจบได้ภายในวันเดียว ระยะทางไปกลับ 13 กิโลเมตร ความชันสะสม 1300 เมตร
ยอดเขาของเส้นทางนี้จะสูง 5095 เมตร ก่อนจะถึงยอด เราจะผ่านทะเลสาบเฝ่ยชุ่ยจือเหยี่ยนซึ่งเป็นที่มาของชื่อเส้นทางนี้ ทะเลสาบนี้นักท่องเที่ยวจีนบอกว่าจะสวยแนว ๆ ทะเลสาบเล่อตัวมั่นอินเลยครับ เพราะมีลักษณะเป็นภูเขาหิมะอยู่รอบด้าน
ความยากในการปีนเฝ่ยชุ่ยจือเหยี่ยน เอเยนต์ผมบอกว่าจะราว ๆ ต้าเฟิงนี่แหล่ะ แต่มีข้อดีกว่าต้าเฟิงก็คือ เราไม่ต้องเทรคไปเบสแคมป์ก่อน ไม่ต้องเหนื่อยเดินหรือเปลืองค่านั่งม้าในการเดินทางไป

ทะเลสาบเฝ่ยชุ่ยจือเหยี่ยน รูปทรงมีความสวยงามคล้ายทะเลสาบเล่อตัวมั่นอินที่อยู่แถว ๆ ก้งก๋า

คลิปเส้นทางเทรคไปทะเลสาบเฝ่ยชุ่ยจือเหยี่ยน
ดูคลิปนี้ได้ที่ :
https://www.facebook.com/share/p/1BAP98Sai7/
2. เส้นเทคไปทะเลสาบ "หลานหมอจือเล่ย(蓝魔之泪แปลว่า น้ำตาของปีศาจสีฟ้า)
เส้นทางนี้ จากจุดเริ่มเทรคเราต้องเดินทางราบราว 2 กิโลเมตรซะก่อน จากนั้นถึงจะเทรคขึ้นยอดอีก 6 กิโลเมตร ความชันสะสม 1500 เมตร ยอดที่นี่จะเป็นทางข้ามพาสจิ่วเจี้ยไห่(สูง4660เมตร) จากตรงนี้ก็เดินไปอีกหน่อยก็จะถึงทะเลสาบหลานหมอจือเล่ย
เส้นเทรคเส้นทางนี้ความยากก็น่าจะราว ๆ ต้าเฟิงเหมือนกันครับ แต่จะต้องเดินเยอะหน่อย แต่ความชันจะน้อยกว่าเส้นแรก ปกติก็จะเดินกันวันเดียวจบเช่นกัน(ไปกลับ 17 กิโลเมตร)

ทะเลสาบหลานหมอจือเล่ย สวยคุ้มค่าเหนื่อยที่จะเดินขึ้นมา

เบื้องหลังของทะเลสาบหลานหมอจือเล่ยจะเป็นเทือกเขาแถว ๆ สี่ดรุณี
3. เส้นทางขึ้นยอด "ปิงชวนไห่(冰川海 แปลว่า ทะเลสาบธารน้ำแข็ง)"
เส้นนี้จะเป็นเส้นทางเทรคที่ยาวที่สุด โดยปกติจะต้องใช้เวลาสองวันหนึ่งคืน ในวันแรกจะต้องเดินเทรคทางราบราว 7 กิโลเมตรเพื่อไปยังเบสแคมป์(3600 เมตร) จากนั้นในเช้าตรู่วันต่อมาก็ต้องตื่นตี 3 เพื่อเทรคพิชิตยอดเขา
ในตอนต้นบทความที่ผมเกริ่นว่า มีอยู่เส้นทางนึงที่ทดแทนเอ้อเฟิงได้ เส้นทางนั้นก็คือทางขึ้นยอดปิงชวนไห่นี่แหล่ะครับ เพราะจากเบสแคมป์ไปถึงยอด(5018 เมตร)ระยะทาง 5 กิโลเมตร แต่จะมีความชันสะสมมากถึง 1400 เมตร ! เรียกว่าชันขาสั่นกันตั้งแต่เริ่มเดินจนถึงยอดเลยครับ เอเยนต์ผมบอกว่าที่นี่อาจจะโหดกว่าเอ้อเฟิงด้วยซ้ำไป --"

ทางเทรคช่วงแรกของเส้นทางไปยอดปิงชวนไห่

ทางขึ้นยอดปิงชวนไห่ช่วงใกล้ถึงยอดจะชันมาก ต้องใช้เชือกช่วย
จากที่ผมได้หาข้อมูลและดูรูปกับคลิปในXiaohongshu ผมคิดว่าเส้นเทรคจิ่วเจี้ยไห่ทั้งสามเส้นทางน่าสนใจอยู่ไม่น้อยเลยครับ ปัจจัยหลัก ๆ ที่ทำให้ผมคิดว่ามันน่าไปก็คือ :
- การเดินทางไปสะดวก จุดเริ่มเทรคอยู่ห่างจากสี่ดรุณีแค่ไม่ถึงหนึ่งชม.
- มีสองเส้นทางที่จบได้ภายในวันเดียว
- ค่าใช้จ่ายถูกกว่าไปต้าเฟิงหรือเอ้อเฟิงเยอะมาก แพคเกจแค่หลักพันหยวนต้น ๆ เท่านั้น (มีเส้นปิงชวนไห่จะราวพันหยวนปลาย ๆ เพราะมีไปค้างคืนที่เบสแคมป์)
- วิวบนยอดสวยทั้งสามที่เลยครับ ! ยอดเฝ่ยชุ่ยฯจะสวยที่ตัวทะเลสาบที่เขาว่าสวยเหมือนทะเลสาบเล่อตัวมั่นอินเลยครับ ยอดหลานหมอฯ ก็จะสวยที่ทะเลสาบเหมือนกันแต่ไม่เพียงแค่นั้น ด้านหลังยังมีวิวแนวเทือกเขาหิมะแถวสี่ดรุณีเป็นพื้นหลังให้อีก ส่วนยอดปิงชวนไห่ยิ่งสวยหนัก เพราะได้วิวทะเลหมอกบนยอดเขาหิมะเลยครับ

ภาพกราฟฟิคของทั้งสามเส้นทาง
เส้นสีเขียว - เฝ่ยชุ่ยจือเหยี่ยน
เส้นสีน้ำเงิน - หลานหมอจือเล่ย
เส้นสีแดง - ปิงชวนไห่

เส้นเทรคปิงชวนไห่(สีแดง) และเส้นเทรคหลานหมอจือเล่ย(สีน้ำเงิน)จะอยู่ฝั่งเดียวกัน
ให้ว่ากันจริง ๆ ในความคิดส่วนตัวของผม แค่ภูเขาหิมะหลางต๋ากับซ่าอู่ก็เป็นทางเลือกเสริมให้กับคนไทยได้เยอะแล้วครับ แค่สองที่นี้ก็เกินพอแล้ว แต่ตอนนี้มีทางจิ่วเจี้ยไห่มาเสริมอีกที่ คราวนี้ก็ยิ่งมีทางเลือกแบบเหลือเฟือเลย ต้าเฟิงกับเอ้อเฟิงจะปิดยาวแค่ไหนก็ไม่มีปัญหาแล้วครับ ^^
ก็เชื่อว่าต่อไปเส้นเทรคจิ่วเจี้ยไห่ก็คงเป็นอีกหมุดหมายหลักให้คนไทยที่จะมาเทรคที่สี่ดรุณีในภายภาคหน้าเป็นแน่แท้ครับ
ภาพและคลิปประกอบบทความ : จากXiaohongshu ดูเครดิตที่ภาพและคลิป
จิ่วเจี้ยไห่ : เส้นทางเทรคที่ทดแทนได้ทั้งต้าเฟิงและเอ้อเฟิง
วิวทะเลหมอกบนยอดปิงชวนไห่
ในช่วงต้นปี2025นี้ ต้าเฟิง(และเส้นทางเทรคทั้งหมดในอุทยานสี่ดรุณี)ก็ยังคงปิดอยู่เช่นเดียวกับเมื่อปีก่อน เห็นทางเอเยนต์ที่สี่ดรุณีบอกว่า ปีนี้น่าจะเปิดเดือนพฤษภาคม เร็วกว่าปีก่อนหนึ่งเดือน
การปิดต้าเฟิงเมื่อปีก่อน(2024)จริง ๆ ก็สร้างเรื่องดี ๆ ให้กับวงการเทรคที่สี่ดรุณีด้วยเช่นกัน เพราะส่งผลให้มีการบุกเบิกเส้นทางเทรคอื่น ๆ แถว ๆ สี่ดรุณีขึ้นมาทดแทนเต็มไปหมด เอาแค่ที่ผมเขียนแนะนำไว้เมื่อปีก่อนก็มี 4 เส้นทางเข้าไปแล้ว (เจี๋ยซือโกวชวนซานต้ง, อียางเจียปัว,ซ่าอู๋ และ หลางต๋า)
ทั้ง 4 เส้นทางที่เคยเขียนแนะนำไปก็เป็นลักษณะยอดภูเขาหิมะคล้าย ๆ ต้าเฟิงทั้งนั้น คือเป็นเทรคกิ้งพีคที่เดินขึ้นถึงยอดได้ และมีความสูงราว +/-5000 เมตร ก็ช่วยทดแทนต้าเฟิงได้เป็นอย่างดี
จากตอนนั้นถึงทุกวันนี้ แถวพื้นที่เสฉวนก็ยังมีการเปิดเส้นทางขึ้นยอดภูเขาใหม่ ๆ อีกเรื่อย ๆ เลยครับ จำชื่อกันไม่ทันเลย --"
วันนี้ก็เลยจะมาแนะนำเส้นทางเทรคอีกซักเส้นทางนึง เส้นเทรคนี้นอกจากจะทดแทนต้าเฟิงได้แล้ว ยังน่าจะทดแทนเอ้อเฟิงได้ด้วยครับ ที่สำคัญคือ มันอยู่ใกล้สี่ดรุณีด้วยครับ
เส้นเทรค "จิ่วเจี้ยไห่(九架海Jiujiahai)" น่าจะพึ่งบุกเบิกได้ไม่นานนี้เองครับ เพราะหาอ่านข้อมูลมีน้อยมาก แต่ด้วยว่ามันอยู่ไม่ไกลจากสี่ดรุณี ในช่วงนี้ที่ต้าเฟิงปิดอยู่ คนจีนเลยเริ่มแห่กันไปอยู่พอสมควร
คำว่า"จิ่วเจี้ยไห่" แปลเป็นจีนก็คือ "ทะเลสาบเก้าแห่ง(จิ่ว=เก้า, เจี้ย=แห่ง, ไห่=ทะเลสาบ)" ซึ่งก็สื่อถึงจำนวนทะเลสาบที่มีอยู่แถว ๆ บริเวณนี้
จิ่วเจี้ยไห่โดยตำแหน่งจะอยู่ที่ตำบลต๋าเหว๋ย(达维Dawei) ซึ่งอยู่ห่างจากสี่ดรุณีแค่ 20 กิโลเมตรเท่านั้น เรียกว่าพักที่สี่ดรุณีแล้วค่อยตื่นเช้านั่งรถมาเทรคที่นี่ก็ยังได้
ถ้าจะบอกพิกัดให้ชัดกว่านั้นอีกหน่อย จิ่วเจี้ยไห่ก็คือหุบเขาที่อยู่ข้าง ๆ ซวงเฉียวโกวที่สี่ดรุณีนี่เองครับ ดังนั้นแนวภูเขาหิมะที่เราเห็นตอนไปเที่ยวซวงเฉียวโกว ระหว่างเดินเทรคที่จิ่วเจี้ยไห่เราก็จะเห็นด้วยเช่นเดียวกัน
ภาพกราฟฟิคแสดงให้เห็นระยะห่างระหว่างเส้นเทรคจิ่วเจี้ยไห่(เส้นปะสีแดง)กับซวงเฉียวโกว (เส้นปะสีน้ำเงิน)
เส้นเทรคจิ่วเจี้ยไห่จะแบ่งเป็น 3 เส้นทางหลัก ๆ ครับ จุดเริ่มเทรคจะอยู่ที่เดียวกัน ลักษณะของเส้นเทรคจะเป็นแนวเทรคขึ้นยอดภูเขาหิมะเหมือนกัน แต่ก็จะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแตกต่างกันไป
1. เส้นทางขึ้นยอด "เฝ่ยชุ่ยจือเหยี่ยน(翡翠之眼แปลว่าดวงตาแห่งหยก)"
เส้นนี้เป็นเส้นทางแรกก็เพราะว่าจากจุดเริ่มเทรคเราก็จะเริ่มขึ้นยอดกันตั้งแต่ตรงนั้นเลยครับ ดังนั้นเราสามารถเทรคจบได้ภายในวันเดียว ระยะทางไปกลับ 13 กิโลเมตร ความชันสะสม 1300 เมตร
ยอดเขาของเส้นทางนี้จะสูง 5095 เมตร ก่อนจะถึงยอด เราจะผ่านทะเลสาบเฝ่ยชุ่ยจือเหยี่ยนซึ่งเป็นที่มาของชื่อเส้นทางนี้ ทะเลสาบนี้นักท่องเที่ยวจีนบอกว่าจะสวยแนว ๆ ทะเลสาบเล่อตัวมั่นอินเลยครับ เพราะมีลักษณะเป็นภูเขาหิมะอยู่รอบด้าน
ความยากในการปีนเฝ่ยชุ่ยจือเหยี่ยน เอเยนต์ผมบอกว่าจะราว ๆ ต้าเฟิงนี่แหล่ะ แต่มีข้อดีกว่าต้าเฟิงก็คือ เราไม่ต้องเทรคไปเบสแคมป์ก่อน ไม่ต้องเหนื่อยเดินหรือเปลืองค่านั่งม้าในการเดินทางไป
ทะเลสาบเฝ่ยชุ่ยจือเหยี่ยน รูปทรงมีความสวยงามคล้ายทะเลสาบเล่อตัวมั่นอินที่อยู่แถว ๆ ก้งก๋า
คลิปเส้นทางเทรคไปทะเลสาบเฝ่ยชุ่ยจือเหยี่ยน
ดูคลิปนี้ได้ที่ : https://www.facebook.com/share/p/1BAP98Sai7/
2. เส้นเทคไปทะเลสาบ "หลานหมอจือเล่ย(蓝魔之泪แปลว่า น้ำตาของปีศาจสีฟ้า)
เส้นทางนี้ จากจุดเริ่มเทรคเราต้องเดินทางราบราว 2 กิโลเมตรซะก่อน จากนั้นถึงจะเทรคขึ้นยอดอีก 6 กิโลเมตร ความชันสะสม 1500 เมตร ยอดที่นี่จะเป็นทางข้ามพาสจิ่วเจี้ยไห่(สูง4660เมตร) จากตรงนี้ก็เดินไปอีกหน่อยก็จะถึงทะเลสาบหลานหมอจือเล่ย
เส้นเทรคเส้นทางนี้ความยากก็น่าจะราว ๆ ต้าเฟิงเหมือนกันครับ แต่จะต้องเดินเยอะหน่อย แต่ความชันจะน้อยกว่าเส้นแรก ปกติก็จะเดินกันวันเดียวจบเช่นกัน(ไปกลับ 17 กิโลเมตร)
ทะเลสาบหลานหมอจือเล่ย สวยคุ้มค่าเหนื่อยที่จะเดินขึ้นมา
เบื้องหลังของทะเลสาบหลานหมอจือเล่ยจะเป็นเทือกเขาแถว ๆ สี่ดรุณี
3. เส้นทางขึ้นยอด "ปิงชวนไห่(冰川海 แปลว่า ทะเลสาบธารน้ำแข็ง)"
เส้นนี้จะเป็นเส้นทางเทรคที่ยาวที่สุด โดยปกติจะต้องใช้เวลาสองวันหนึ่งคืน ในวันแรกจะต้องเดินเทรคทางราบราว 7 กิโลเมตรเพื่อไปยังเบสแคมป์(3600 เมตร) จากนั้นในเช้าตรู่วันต่อมาก็ต้องตื่นตี 3 เพื่อเทรคพิชิตยอดเขา
ในตอนต้นบทความที่ผมเกริ่นว่า มีอยู่เส้นทางนึงที่ทดแทนเอ้อเฟิงได้ เส้นทางนั้นก็คือทางขึ้นยอดปิงชวนไห่นี่แหล่ะครับ เพราะจากเบสแคมป์ไปถึงยอด(5018 เมตร)ระยะทาง 5 กิโลเมตร แต่จะมีความชันสะสมมากถึง 1400 เมตร ! เรียกว่าชันขาสั่นกันตั้งแต่เริ่มเดินจนถึงยอดเลยครับ เอเยนต์ผมบอกว่าที่นี่อาจจะโหดกว่าเอ้อเฟิงด้วยซ้ำไป --"
ทางเทรคช่วงแรกของเส้นทางไปยอดปิงชวนไห่
ทางขึ้นยอดปิงชวนไห่ช่วงใกล้ถึงยอดจะชันมาก ต้องใช้เชือกช่วย
จากที่ผมได้หาข้อมูลและดูรูปกับคลิปในXiaohongshu ผมคิดว่าเส้นเทรคจิ่วเจี้ยไห่ทั้งสามเส้นทางน่าสนใจอยู่ไม่น้อยเลยครับ ปัจจัยหลัก ๆ ที่ทำให้ผมคิดว่ามันน่าไปก็คือ :
- การเดินทางไปสะดวก จุดเริ่มเทรคอยู่ห่างจากสี่ดรุณีแค่ไม่ถึงหนึ่งชม.
- มีสองเส้นทางที่จบได้ภายในวันเดียว
- ค่าใช้จ่ายถูกกว่าไปต้าเฟิงหรือเอ้อเฟิงเยอะมาก แพคเกจแค่หลักพันหยวนต้น ๆ เท่านั้น (มีเส้นปิงชวนไห่จะราวพันหยวนปลาย ๆ เพราะมีไปค้างคืนที่เบสแคมป์)
- วิวบนยอดสวยทั้งสามที่เลยครับ ! ยอดเฝ่ยชุ่ยฯจะสวยที่ตัวทะเลสาบที่เขาว่าสวยเหมือนทะเลสาบเล่อตัวมั่นอินเลยครับ ยอดหลานหมอฯ ก็จะสวยที่ทะเลสาบเหมือนกันแต่ไม่เพียงแค่นั้น ด้านหลังยังมีวิวแนวเทือกเขาหิมะแถวสี่ดรุณีเป็นพื้นหลังให้อีก ส่วนยอดปิงชวนไห่ยิ่งสวยหนัก เพราะได้วิวทะเลหมอกบนยอดเขาหิมะเลยครับ
ภาพกราฟฟิคของทั้งสามเส้นทาง
เส้นสีเขียว - เฝ่ยชุ่ยจือเหยี่ยน
เส้นสีน้ำเงิน - หลานหมอจือเล่ย
เส้นสีแดง - ปิงชวนไห่
เส้นเทรคปิงชวนไห่(สีแดง) และเส้นเทรคหลานหมอจือเล่ย(สีน้ำเงิน)จะอยู่ฝั่งเดียวกัน
ให้ว่ากันจริง ๆ ในความคิดส่วนตัวของผม แค่ภูเขาหิมะหลางต๋ากับซ่าอู่ก็เป็นทางเลือกเสริมให้กับคนไทยได้เยอะแล้วครับ แค่สองที่นี้ก็เกินพอแล้ว แต่ตอนนี้มีทางจิ่วเจี้ยไห่มาเสริมอีกที่ คราวนี้ก็ยิ่งมีทางเลือกแบบเหลือเฟือเลย ต้าเฟิงกับเอ้อเฟิงจะปิดยาวแค่ไหนก็ไม่มีปัญหาแล้วครับ ^^
ก็เชื่อว่าต่อไปเส้นเทรคจิ่วเจี้ยไห่ก็คงเป็นอีกหมุดหมายหลักให้คนไทยที่จะมาเทรคที่สี่ดรุณีในภายภาคหน้าเป็นแน่แท้ครับ
ภาพและคลิปประกอบบทความ : จากXiaohongshu ดูเครดิตที่ภาพและคลิป