สวัสดีค่ะทุกคน ตามหัวข้อเลยค่ะ
เราพึ่งเลิกกับแฟนเก่าที่คบมา3ปีได้5เดือน เราอายุเท่ากันนะคะ เป็นเพื่อนกันมาก่อนหลายปีก่อนจะคบกัน จริงๆเราก็เข้ากันได้ดีแทบทุกอย่าง แต่ติดอย่างเดียวคือเราทะเลาะกันบ่อยทะเลาะแค่เรื่องเล็กๆน้อยๆ เวลาทะเลาะกันต่างคนต่างเป็นไฟ และบางครั้งเขาจะพูดจารุนแรงกับเรามากๆ แล้วมันก็หนักขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเราเป็นโรคซึมเศร้ามาตั้งแต่เด็ก ก็รู้สึกว่าเป็นปัญหาใหญ่สำหรับเรา เขาเป็นคนที่ทะเลาะหนักๆแล้วพอใจเย็นเดี๋ยวเขาก็จะดีเองเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาชอบบอกว่าจะไม่ทำอีก จะไม่พูดอีก แต่ก็ยังเผลอทำ ส่วนเราเป็นคนจำฝังใจมากกับคำพูด และโกรธง่ายหายยาก ไม่รู้จักปล่อยวาง เราทะเลาะกันหนักและเราเองก็รับคำพูดเขาไม่ได้จนเกือบฆตตหลายครั้ง เราทำร้ายตัวเองบ่อยมาก หนักขึ้นทุกรอบ จนเราเองตัดสินใจออกมา แต่หลังจากเลิกกันเราก็ยังติดต่อกันอยู่และไม่ค่อยทะเลาะกันอีก
ถ้าตัดเรื่องปัญหาเวลาทะเลาะกันออกไป เขาไม่เคยทำให้เราลำบากใจเรื่องผู้หญิงเลย ไม่เจ้าชู้ ไม่เคยมีเรื่องผู้หญิงสักครั้ง เราเข้ากันได้ดีมาก เราหาเงินช่วยกัน คิดช่วยกัน และเป็นที่พึ่งของกันและกันมาโดยตลอด ติดปัญหาแค่เรื่องทะเลาะกัน
ต่อมาหลังจากจบความสัมพันธ์กับคนเก่าเราก็ย้ายเข้ามาอยู่กรุงเทพคนเดียว แล้วเราก็ได้พบกับผู้ชายคนนึง เป็นคนต่างชาติ อายุมากกว่าเราเกือบ12ปี เราเข้ากันได้ไว เเละเขาก็ทำให้เราลืมเรื่องคนเก่าไปได้พักนึงเลย หลังจากเรารู้จักกับคนใหม่ได้ประมาณเดือนกว่าเขาก็ย้ายมาอยู่คอนโดกับเรา เราเริ่มทำความรู้จักกันมากขึ้นเรื่อยๆแต่ด้วยความที่เราอายุห่างกันมากและคุยกันคนละภาษา บางครั้งเราก็รู้สึกว่าเราไม่สามารถเข้าใจกันได้แบบจริงๆ จนเราอยู่ด้วยกันมา4เดือน เราอยู่ด้วยกันทุกวัน กินข้าวด้วยกันทุกมื้อ ไปเที่ยวด้วยกันหลายที่ แต่เราไม่เคยคุยเรื่องชีวิตลึกๆกันเลย และเราเคยแอบไปเห็นรูปว่าเขายังเก็บรูปแฟนเก่าไว้ในโทรศัพท์ ด้วยนิสัยเรา คิดมากสุดๆเลยค่ะ555 แต่เราก็ยังไม่กล้าถามและไม่ได้ยุ่ง และก็ด้วยความที่เขาเป็นผู้ใหญ่แล้วก็อาจจะไม่ได้มีโมเม้นต์หวานๆเหมือนวัยรุ่นทั่วไป อันนี้พอเข้าใจ เราก็รู้สึกสบายใจเพราะเรากับเขาไม่เคยทะเลาะกันเลยแต่กลับกันเราก็ไม่เคยคุยกันลึกๆเหมือนที่เราทำกับแฟนเก่า เรารู้สึกว่าจริงๆแล้วในบางครั้งเรากับเขายังไม่รู้จักกันดีพอด้วยซ้ำ
และประเด็นก็คือ เพื่อนของเขาจะกลับเกาหลีสิ้นเดือนนี้ ส่วนเขาเองตัดสินใจว่าจะอยู่กับเราต่อทั้งที่ไม่มีงานทำ เพราะแค่รู้สึกอยากอยู่กับเรา แรกๆเราก็เหมือนจะดีใจ แต่จู่ๆดันกลายเป็นเราเองที่สับสน เพราะเราไม่มั่นใจว่าเรากับเขาจะเข้ากันได้จริงๆหรือป่าว เพราะบางครั้งแม้กระทั่งเวลาที่เราเครียด ท้อ หรืออยากร้องไห้ เราไม่กล้าแม้แต่บอกเขาด้วยซ้ำ ต้องแอบไปอยู่ในห้องน้ำคนเดียว555 และต้องบอกก่อนว่าตั้งแต่เรามาอยู่ที่นี่เรายังไม่ได้ทำงานนะคะ(เราอายุแค่20) เพราะอยู่กับเขาทุกวันด้วยและยังไม่รู้จะไปทำงานอะไรดี ก่อนหน้านี้เคยขายของออนไลน์แต่พอมาอยู่นี่ก็ได้หยุดไปเพราะขัดสนเรื่องเงิน เรามีค่าใช้จ่ายเยอะ และหาเงินเลี้ยงตัวเองมา3-4ปีแล้วค่ะ ที่บ้านเราก็ไม่มี เลยไม่สามารถช่วยอะไรได้ ที่ผ่านมามีแต่แฟนเก่าเราที่คอยช่วยเหลือกันมาตลาด และมาอยู่นี่เราแค่ใช้เงินเก็บที่เก็บมาตั้งแต่เด็ก เราเป็นคนจ่ายค่าคอนโดค่าน้ำค่าไฟ ส่วนเขาจะจ่ายเป็นค่าอาหารและเวลาไปเที่ยวด้วยกันเขาก็จะเป็นคนออก จนมาตอนนี้ที่เงินเก็บเราใกล้จะหมดแล้วและพอเขาตัดสินใจว่าจะอยู่ที่ไทยต่อไปกับเรา เราก็สับสนมากๆเลยค่ะ ทั้งตอนนี้แฟนเก่าเราก็คอยทักมาเป็นห่วง ให้กำลังใจอยู่เรื่อย ถามไถ่ว่าเราสบายดีมั้ย มีเงินพอใช้หรือป่าว จนเราก็แอบหวั่นๆคิดถึงคนเก่าบ้างและอยากลองกลับไปอยู่ด้วยกันอีกครั้ง แต่เราก็ไม่รู้ว่ามันจะดีจริงๆหรือป่าวเพราะคนใหม่เขาก็ไม่เคยทำอะไรแย่กับเรา แอบสงสารเขาเหมือนกันค่ะ
เท่าที่อ่านมาทุกคนคิดว่าเราควรเอายังไงต่อไปดีคะเราไม่รู้ใจตัวเองเลย
คนเก่าที่คุยกันได้ทุกเรื่อง เข้าใจกันแทบทุกอย่าง รู้จักกันมานาน แต่เลิกกันไปเพราะปัญหาเรื่องทะเลาะและไม่ใส่ใจเรื่องเล็กๆ
หรือคนใหม่ที่พึ่งรู้จัก แต่ไม่ได้คุยกันได้ทุกเรื่อง ไม่หวานไม่พิเศษแต่สม่ำเสมอ ใส่ใจเรื่องเล็กๆน้อยๆ และไม่ทะเลาะกัน
แล้วอีกอย่างเรารู้สึกอยากกลับไปอยู่ที่ต่างจังหวัดเพราะไม่มีงาน ไม่มีเงินเก็บแล้ว แต่เราไม่รู้ว่าเราควรจะเริ่มบอกคนใหม่ยังไงดี เราไม่รู้จะเริ่มพูดจากตรงไหน เพราะไม่เคยคุยเรื่องจริงจังกัน เราไม่อยากรอให้มันนานไปมากกว่านี้เพราะเขากำลังจะตัดสินใจอยู่ที่นี่ต่อไปกับเรา และเขามีแค่เราที่นี่ไม่ได้มีเพื่อนหรือญาติพี่น้อง
ปล.เขาไม่เคยขอเราเป็นแฟนนะคะ แต่ก็เรียกเราว่าแฟน กับเพื่อนก็บอกว่าเราเป็นแฟนแต่ไม่เคยเปิดตัวไม่เคยลงรูปคู่
จริงๆเราเองก็รู้สึกดีกับเขานะคะ แต่ยังมีความไม่มั่นใจก็เพราะไม่เคยคุยกันลึกๆ และเราก็ไม่กล้า เพราะไม่รู้เขาจะรีแอ็คชั่นยังไง ไม่รู้ว่าตอนนี้ควรทำยังไงต่อไปเลยค่ะ เครียดมากๆ
คนเก่าที่เคยแย่แต่ตอนนี้กลับมาดีอีกครั้ง กับคนใหม่ที่กำลังจะไปข้างหน้าแต่เหมือนยังไม่รู้จักกันดีพอ ทุกคนจะเลือกอะไรคะTT
เราพึ่งเลิกกับแฟนเก่าที่คบมา3ปีได้5เดือน เราอายุเท่ากันนะคะ เป็นเพื่อนกันมาก่อนหลายปีก่อนจะคบกัน จริงๆเราก็เข้ากันได้ดีแทบทุกอย่าง แต่ติดอย่างเดียวคือเราทะเลาะกันบ่อยทะเลาะแค่เรื่องเล็กๆน้อยๆ เวลาทะเลาะกันต่างคนต่างเป็นไฟ และบางครั้งเขาจะพูดจารุนแรงกับเรามากๆ แล้วมันก็หนักขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเราเป็นโรคซึมเศร้ามาตั้งแต่เด็ก ก็รู้สึกว่าเป็นปัญหาใหญ่สำหรับเรา เขาเป็นคนที่ทะเลาะหนักๆแล้วพอใจเย็นเดี๋ยวเขาก็จะดีเองเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาชอบบอกว่าจะไม่ทำอีก จะไม่พูดอีก แต่ก็ยังเผลอทำ ส่วนเราเป็นคนจำฝังใจมากกับคำพูด และโกรธง่ายหายยาก ไม่รู้จักปล่อยวาง เราทะเลาะกันหนักและเราเองก็รับคำพูดเขาไม่ได้จนเกือบฆตตหลายครั้ง เราทำร้ายตัวเองบ่อยมาก หนักขึ้นทุกรอบ จนเราเองตัดสินใจออกมา แต่หลังจากเลิกกันเราก็ยังติดต่อกันอยู่และไม่ค่อยทะเลาะกันอีก
ถ้าตัดเรื่องปัญหาเวลาทะเลาะกันออกไป เขาไม่เคยทำให้เราลำบากใจเรื่องผู้หญิงเลย ไม่เจ้าชู้ ไม่เคยมีเรื่องผู้หญิงสักครั้ง เราเข้ากันได้ดีมาก เราหาเงินช่วยกัน คิดช่วยกัน และเป็นที่พึ่งของกันและกันมาโดยตลอด ติดปัญหาแค่เรื่องทะเลาะกัน
ต่อมาหลังจากจบความสัมพันธ์กับคนเก่าเราก็ย้ายเข้ามาอยู่กรุงเทพคนเดียว แล้วเราก็ได้พบกับผู้ชายคนนึง เป็นคนต่างชาติ อายุมากกว่าเราเกือบ12ปี เราเข้ากันได้ไว เเละเขาก็ทำให้เราลืมเรื่องคนเก่าไปได้พักนึงเลย หลังจากเรารู้จักกับคนใหม่ได้ประมาณเดือนกว่าเขาก็ย้ายมาอยู่คอนโดกับเรา เราเริ่มทำความรู้จักกันมากขึ้นเรื่อยๆแต่ด้วยความที่เราอายุห่างกันมากและคุยกันคนละภาษา บางครั้งเราก็รู้สึกว่าเราไม่สามารถเข้าใจกันได้แบบจริงๆ จนเราอยู่ด้วยกันมา4เดือน เราอยู่ด้วยกันทุกวัน กินข้าวด้วยกันทุกมื้อ ไปเที่ยวด้วยกันหลายที่ แต่เราไม่เคยคุยเรื่องชีวิตลึกๆกันเลย และเราเคยแอบไปเห็นรูปว่าเขายังเก็บรูปแฟนเก่าไว้ในโทรศัพท์ ด้วยนิสัยเรา คิดมากสุดๆเลยค่ะ555 แต่เราก็ยังไม่กล้าถามและไม่ได้ยุ่ง และก็ด้วยความที่เขาเป็นผู้ใหญ่แล้วก็อาจจะไม่ได้มีโมเม้นต์หวานๆเหมือนวัยรุ่นทั่วไป อันนี้พอเข้าใจ เราก็รู้สึกสบายใจเพราะเรากับเขาไม่เคยทะเลาะกันเลยแต่กลับกันเราก็ไม่เคยคุยกันลึกๆเหมือนที่เราทำกับแฟนเก่า เรารู้สึกว่าจริงๆแล้วในบางครั้งเรากับเขายังไม่รู้จักกันดีพอด้วยซ้ำ
และประเด็นก็คือ เพื่อนของเขาจะกลับเกาหลีสิ้นเดือนนี้ ส่วนเขาเองตัดสินใจว่าจะอยู่กับเราต่อทั้งที่ไม่มีงานทำ เพราะแค่รู้สึกอยากอยู่กับเรา แรกๆเราก็เหมือนจะดีใจ แต่จู่ๆดันกลายเป็นเราเองที่สับสน เพราะเราไม่มั่นใจว่าเรากับเขาจะเข้ากันได้จริงๆหรือป่าว เพราะบางครั้งแม้กระทั่งเวลาที่เราเครียด ท้อ หรืออยากร้องไห้ เราไม่กล้าแม้แต่บอกเขาด้วยซ้ำ ต้องแอบไปอยู่ในห้องน้ำคนเดียว555 และต้องบอกก่อนว่าตั้งแต่เรามาอยู่ที่นี่เรายังไม่ได้ทำงานนะคะ(เราอายุแค่20) เพราะอยู่กับเขาทุกวันด้วยและยังไม่รู้จะไปทำงานอะไรดี ก่อนหน้านี้เคยขายของออนไลน์แต่พอมาอยู่นี่ก็ได้หยุดไปเพราะขัดสนเรื่องเงิน เรามีค่าใช้จ่ายเยอะ และหาเงินเลี้ยงตัวเองมา3-4ปีแล้วค่ะ ที่บ้านเราก็ไม่มี เลยไม่สามารถช่วยอะไรได้ ที่ผ่านมามีแต่แฟนเก่าเราที่คอยช่วยเหลือกันมาตลาด และมาอยู่นี่เราแค่ใช้เงินเก็บที่เก็บมาตั้งแต่เด็ก เราเป็นคนจ่ายค่าคอนโดค่าน้ำค่าไฟ ส่วนเขาจะจ่ายเป็นค่าอาหารและเวลาไปเที่ยวด้วยกันเขาก็จะเป็นคนออก จนมาตอนนี้ที่เงินเก็บเราใกล้จะหมดแล้วและพอเขาตัดสินใจว่าจะอยู่ที่ไทยต่อไปกับเรา เราก็สับสนมากๆเลยค่ะ ทั้งตอนนี้แฟนเก่าเราก็คอยทักมาเป็นห่วง ให้กำลังใจอยู่เรื่อย ถามไถ่ว่าเราสบายดีมั้ย มีเงินพอใช้หรือป่าว จนเราก็แอบหวั่นๆคิดถึงคนเก่าบ้างและอยากลองกลับไปอยู่ด้วยกันอีกครั้ง แต่เราก็ไม่รู้ว่ามันจะดีจริงๆหรือป่าวเพราะคนใหม่เขาก็ไม่เคยทำอะไรแย่กับเรา แอบสงสารเขาเหมือนกันค่ะ
เท่าที่อ่านมาทุกคนคิดว่าเราควรเอายังไงต่อไปดีคะเราไม่รู้ใจตัวเองเลย
คนเก่าที่คุยกันได้ทุกเรื่อง เข้าใจกันแทบทุกอย่าง รู้จักกันมานาน แต่เลิกกันไปเพราะปัญหาเรื่องทะเลาะและไม่ใส่ใจเรื่องเล็กๆ
หรือคนใหม่ที่พึ่งรู้จัก แต่ไม่ได้คุยกันได้ทุกเรื่อง ไม่หวานไม่พิเศษแต่สม่ำเสมอ ใส่ใจเรื่องเล็กๆน้อยๆ และไม่ทะเลาะกัน
แล้วอีกอย่างเรารู้สึกอยากกลับไปอยู่ที่ต่างจังหวัดเพราะไม่มีงาน ไม่มีเงินเก็บแล้ว แต่เราไม่รู้ว่าเราควรจะเริ่มบอกคนใหม่ยังไงดี เราไม่รู้จะเริ่มพูดจากตรงไหน เพราะไม่เคยคุยเรื่องจริงจังกัน เราไม่อยากรอให้มันนานไปมากกว่านี้เพราะเขากำลังจะตัดสินใจอยู่ที่นี่ต่อไปกับเรา และเขามีแค่เราที่นี่ไม่ได้มีเพื่อนหรือญาติพี่น้อง
ปล.เขาไม่เคยขอเราเป็นแฟนนะคะ แต่ก็เรียกเราว่าแฟน กับเพื่อนก็บอกว่าเราเป็นแฟนแต่ไม่เคยเปิดตัวไม่เคยลงรูปคู่
จริงๆเราเองก็รู้สึกดีกับเขานะคะ แต่ยังมีความไม่มั่นใจก็เพราะไม่เคยคุยกันลึกๆ และเราก็ไม่กล้า เพราะไม่รู้เขาจะรีแอ็คชั่นยังไง ไม่รู้ว่าตอนนี้ควรทำยังไงต่อไปเลยค่ะ เครียดมากๆ