มนุษย์ทุกคนเคยผ่านความเป็นความตาย
เคยกินยาฆ่าตัวตายเข้าโรงบาล นอนให้น้ำเกลือ
ถูกส่งรักษาที่โรงบาลเพราะซึมเศร้า
สาเหตุเป็นเพราะเกลียดทุกคน เกลียดตัวเอง
อยากได้การยอมรับ ที่ผ่านมาไม่เคยถูกยอมรับจากใคร
สังคม ครอบครัว คนรอบข้าง
เพราะคิดว่าสังคมที่เราอยู่เราไม่เหมือนคนอื่น
คนอื่นไม่ชอบอะไรก็ทำตามที่สังคมต้องการ
ส่วนตัวเราไม่ชอบทำตามคำสั่งใครเลยถูกสังคมเกลียด
ครอบครัว ไม่ยอมรับเพราะเราเป็นคนทำให้ครอบครัวผิดหวัง ทำให้พ่อเสียใจ ทำให้แม่เสียใจ
คนรอบข้าง คงเป็นเพราะหลังๆเป็นคนไม่อยากสุงสิงกับใครเลยคิดว่าคงมีคนไม่ชอบ คงไม่ถูกยอมรับ
เคยเกลียดพ่อ โทษพ่อมาตลอดว่าเป็นคนที่ใช้แต่ความรุนแรง ทำให้แม่เสียใจ ทำให้ครอบครัวไม่ได้อยู่ด้วยกัน
หลายครั้งทะเลาะกับพ่อเรื่องนี้มาตลอด
แต่พอเริ่มขึ้นมหาลัยก็เข้าใจทุกอย่าง ว่าพ่อก็เริ่มรักเราบ้าง
มีสิ่งนึงที่ประทับใจ ช่วงฝนตกน้ำท่วมมีวันนึงตอนปี1เดินกลับบ้านจากหลักสี่มาปากเกร็ด พอกลับถึงบ้านแม่ก็รออยู่
กลับมาตัวเปียกโชคที่แขนก็มีแต่รอยกรีดแขนเต็มทั้งสองข้าง แต่ก็โกหกแม่ว่าหกล้มแล้วแขนขูดกับลวดหนามตอนเดินกลับบ้าน ไม่รู้แม่จะเชื่อมั้ย แล้วก็ไม่รู้ว่าแม่คิดอะไรอยู่ถ่ายส่งให้ป้าดู ป้าก็ส่งรูปนั้นไปให้พ่อ พ่อไม่ถามสักคำเลยว่าจริงๆแล้วเป็นไร พ่อบอกแค่ว่า เจ็บมากมั้ยลูก ก็พอรู้ได้เลยแค่คำๆเดียวก็ทำให้รู้สึกว่าพ่อรักเรา
เคยเกลียดแม่ ที่แม่เป็นคนขี้จุกจิก ชอบด่า พูดคำรุนแรง
ชอบทะเลาะกัน แม่ไม่เคยพูดรักษาน้ำใจกันเลย มีแต่พูดแทงใจดำ และเหตุผลที่เป็นแบบนั้นเพราะว่าทำแม่เครียดมาก ทำแม่เสียใจมาก หลายครั้งก็คิดว่าแม่ไม่รักเราเลย
มีปัญหากับแม่มาตั้งแต่ขึ้นม.สี่เพราะตัวเราทำให้แม่หมดความไว้ใจ แม่ถึงเป็นแบบนั้น วันที่เราพลาดแม่ก็พาเราไปแก้ไขแล้วก็เป็นห่วงเรา แต่พอเรียนม.ปลายทั้งหมดมา ความสัมพันธ์เรากับแม่ไม่ดีเลย ทำให้เราเครียด รู้สึกเป็นบ้าจนถึงกินยาไปหนึ่งกระปุกยาอีกสามแผงเข้าโรงบาล
พอแม่รู้ว่าเราเป็นแบบนั้น ตอนนั้นแม่ก็รีบมารับกลับบ้านเลย รู้สึกว่าช่วงม.สี่ถึงม.หกมันทรมานมากจริงๆ
แต่พอขึ้นมหาลัยแม่ก็เบาลงปล่อยเรา ก็พอรู้ว่าที่เขาเป็นแบบนั้นเพราะเขาไม่อยากให้เราพลาดทำอะไรอีก
พ่อกับแม่ต่างแยกทางกัน เลิกรากันแม่มีแฟนใหม่ มีน้องด้วย พ่อก็มีแฟนใหม่
เราไม่เคยอิจฉาที่แม่มีน้องเลย เพราะรู้สึกว่าช่วงเวลาวัยเด็กมีความสุขมากๆ ไม่เคยขาดความรักจากครอบครัว
ได้ไปเที่ยวตั้งแต่เด็กมากจนจำความได้ ของเล่นที่ว่าแพงๆ
พ่อก็ซื้อให้ตลอด ไม่เคยอิจฉาเด็กคนไหนที่มีของเล่นเลย
ของกินแม่ก็ทำให้กินตลอด ไม่ว่าจะของแพงมากแค่ไหนพ่อกับแม่ก็ซื้อให้ตลอดโดยที่เราไมาเคยรู้ราคาเลย
เป็นเพราะเรามีช่วงเวลาวัยเด็กที่สมบูรณ์มากๆ เราเลยไม่เคยอิจฉาครอบครัวปัจจุบันของทั้งพ่อกับแม่เลย เพราะเรารู้สึกว่าเราได้รับมาเยอะมาก ไม่เคยเสียดายเลย
รู้สึกดีทุกครั้งที่คิดถึงวัยเด็ก
แต่ก็มีบ้างบางครั้งที่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอาการของโรค หรือมันเป็นเพราะเราคิดเยอะไปเอง เราก็รู้สึกว่า เราไม่เหลือใครเลย ผู้ใหญ่ต่างแยกทางมีเส้นทางของตัวเอง พ่อทำงานอยู่ไต้หวันก็เพื่อหาเงินส่งเราเรียนให้จบ ส่วนเราอยู่กับแม่ เพราะแม่เลี้ยงมาตั้งแต่คลอด เราก็ไม่อยากอยู่กับคนอื่น
มีบางครั้งที่มันรู้สึกเหงาอยู่บ้าง พอนึกถึง พ่อ แม่ ลูก ครอบครัวสามคนเรามันก็เป็นแค่ภาพวัยเด็ก เพราะปัจจุบันมันก็เปลี่ยนอะไรหลายๆอย่าง แต่เราก็รักพ่อกับแม่มากที่สุดถึงเราจะมีทะเลาะผิดใจกันบ้าง
จริงๆแล้วเราไปโรงบาลไม่กี่ครั้งเอง เราจำได้ว่าตอนไปรับยาที่โรงบาลนึงมันราคาแพงมาก เรารู้สึกเป็นภาระแม่มาก
ทั้งไกลแล้วก็แพง เราขอเรื่องย้ายมาใกล้บ้าน แต่ทีนี้พอย้ายมาใกล้บ้าน ก็ถูกส่งตัวไปที่ศรีธัญญา เราตัดสินใจไม่ไปเพราะเราไม่อยากให้พ่อเสียเงิน ไม่อยากให้แม่เสียเวลา
เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าชีวิตปัจจุบันตอนนี้เราปกติดีมั้ย
ในหัวเราก็คิดว่าเราปกติดี แต่บางคืนก็รู้สึกเศร้าที่อยู่คนเดียวก็ร้องไห้ทั้งคืนยันเช้าถึงจะเริ่มเหนื่อยเราหลับ
เวลาเครียดเราก็มือสั่น เวลาร้องไห้ก็รู้สึกปวดใจตัวสั่นไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็มักจะกรีดแขนอยู่ เพราะรู้สึกว่าอยากให้ร่างกายมันแบ่งเบาจากการร้องไห้ ที่เป็นแบบนี้เราไม่ได้คิดว่าเราเป็นโนคึอะไร เราก็คงเป็นคนปกติที่อยากหาวิธีระบายตัวเองเฉยๆ เราไม่อยากให้ใครเดือดร้อนเลยเลือกที่จะทำอะไรให้ครอบครัวรู้
5555555 รู้สึกดีจังที่พิมพ์ออกมาทั้งหมดถึงแม้เรื่องแบบนี้อยากจะเป็นคนเล่าต่อปากกับใครสักคนนึงที่รับฟังเราแล้วอยู่ข้างๆ อยากให้มันเป็นความใจในแค่ช่วงเวลา
ไม่อยากเก็บไปคิดให้ทรมานใจจริงๆ
ไดอารี่ของคนบ้าคนหนึ่งที่อยากระบายความใจใน (ในใจ)
เคยกินยาฆ่าตัวตายเข้าโรงบาล นอนให้น้ำเกลือ
ถูกส่งรักษาที่โรงบาลเพราะซึมเศร้า
สาเหตุเป็นเพราะเกลียดทุกคน เกลียดตัวเอง
อยากได้การยอมรับ ที่ผ่านมาไม่เคยถูกยอมรับจากใคร
สังคม ครอบครัว คนรอบข้าง
เพราะคิดว่าสังคมที่เราอยู่เราไม่เหมือนคนอื่น
คนอื่นไม่ชอบอะไรก็ทำตามที่สังคมต้องการ
ส่วนตัวเราไม่ชอบทำตามคำสั่งใครเลยถูกสังคมเกลียด
ครอบครัว ไม่ยอมรับเพราะเราเป็นคนทำให้ครอบครัวผิดหวัง ทำให้พ่อเสียใจ ทำให้แม่เสียใจ
คนรอบข้าง คงเป็นเพราะหลังๆเป็นคนไม่อยากสุงสิงกับใครเลยคิดว่าคงมีคนไม่ชอบ คงไม่ถูกยอมรับ
เคยเกลียดพ่อ โทษพ่อมาตลอดว่าเป็นคนที่ใช้แต่ความรุนแรง ทำให้แม่เสียใจ ทำให้ครอบครัวไม่ได้อยู่ด้วยกัน
หลายครั้งทะเลาะกับพ่อเรื่องนี้มาตลอด
แต่พอเริ่มขึ้นมหาลัยก็เข้าใจทุกอย่าง ว่าพ่อก็เริ่มรักเราบ้าง
มีสิ่งนึงที่ประทับใจ ช่วงฝนตกน้ำท่วมมีวันนึงตอนปี1เดินกลับบ้านจากหลักสี่มาปากเกร็ด พอกลับถึงบ้านแม่ก็รออยู่
กลับมาตัวเปียกโชคที่แขนก็มีแต่รอยกรีดแขนเต็มทั้งสองข้าง แต่ก็โกหกแม่ว่าหกล้มแล้วแขนขูดกับลวดหนามตอนเดินกลับบ้าน ไม่รู้แม่จะเชื่อมั้ย แล้วก็ไม่รู้ว่าแม่คิดอะไรอยู่ถ่ายส่งให้ป้าดู ป้าก็ส่งรูปนั้นไปให้พ่อ พ่อไม่ถามสักคำเลยว่าจริงๆแล้วเป็นไร พ่อบอกแค่ว่า เจ็บมากมั้ยลูก ก็พอรู้ได้เลยแค่คำๆเดียวก็ทำให้รู้สึกว่าพ่อรักเรา
เคยเกลียดแม่ ที่แม่เป็นคนขี้จุกจิก ชอบด่า พูดคำรุนแรง
ชอบทะเลาะกัน แม่ไม่เคยพูดรักษาน้ำใจกันเลย มีแต่พูดแทงใจดำ และเหตุผลที่เป็นแบบนั้นเพราะว่าทำแม่เครียดมาก ทำแม่เสียใจมาก หลายครั้งก็คิดว่าแม่ไม่รักเราเลย
มีปัญหากับแม่มาตั้งแต่ขึ้นม.สี่เพราะตัวเราทำให้แม่หมดความไว้ใจ แม่ถึงเป็นแบบนั้น วันที่เราพลาดแม่ก็พาเราไปแก้ไขแล้วก็เป็นห่วงเรา แต่พอเรียนม.ปลายทั้งหมดมา ความสัมพันธ์เรากับแม่ไม่ดีเลย ทำให้เราเครียด รู้สึกเป็นบ้าจนถึงกินยาไปหนึ่งกระปุกยาอีกสามแผงเข้าโรงบาล
พอแม่รู้ว่าเราเป็นแบบนั้น ตอนนั้นแม่ก็รีบมารับกลับบ้านเลย รู้สึกว่าช่วงม.สี่ถึงม.หกมันทรมานมากจริงๆ
แต่พอขึ้นมหาลัยแม่ก็เบาลงปล่อยเรา ก็พอรู้ว่าที่เขาเป็นแบบนั้นเพราะเขาไม่อยากให้เราพลาดทำอะไรอีก
พ่อกับแม่ต่างแยกทางกัน เลิกรากันแม่มีแฟนใหม่ มีน้องด้วย พ่อก็มีแฟนใหม่
เราไม่เคยอิจฉาที่แม่มีน้องเลย เพราะรู้สึกว่าช่วงเวลาวัยเด็กมีความสุขมากๆ ไม่เคยขาดความรักจากครอบครัว
ได้ไปเที่ยวตั้งแต่เด็กมากจนจำความได้ ของเล่นที่ว่าแพงๆ
พ่อก็ซื้อให้ตลอด ไม่เคยอิจฉาเด็กคนไหนที่มีของเล่นเลย
ของกินแม่ก็ทำให้กินตลอด ไม่ว่าจะของแพงมากแค่ไหนพ่อกับแม่ก็ซื้อให้ตลอดโดยที่เราไมาเคยรู้ราคาเลย
เป็นเพราะเรามีช่วงเวลาวัยเด็กที่สมบูรณ์มากๆ เราเลยไม่เคยอิจฉาครอบครัวปัจจุบันของทั้งพ่อกับแม่เลย เพราะเรารู้สึกว่าเราได้รับมาเยอะมาก ไม่เคยเสียดายเลย
รู้สึกดีทุกครั้งที่คิดถึงวัยเด็ก
แต่ก็มีบ้างบางครั้งที่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอาการของโรค หรือมันเป็นเพราะเราคิดเยอะไปเอง เราก็รู้สึกว่า เราไม่เหลือใครเลย ผู้ใหญ่ต่างแยกทางมีเส้นทางของตัวเอง พ่อทำงานอยู่ไต้หวันก็เพื่อหาเงินส่งเราเรียนให้จบ ส่วนเราอยู่กับแม่ เพราะแม่เลี้ยงมาตั้งแต่คลอด เราก็ไม่อยากอยู่กับคนอื่น
มีบางครั้งที่มันรู้สึกเหงาอยู่บ้าง พอนึกถึง พ่อ แม่ ลูก ครอบครัวสามคนเรามันก็เป็นแค่ภาพวัยเด็ก เพราะปัจจุบันมันก็เปลี่ยนอะไรหลายๆอย่าง แต่เราก็รักพ่อกับแม่มากที่สุดถึงเราจะมีทะเลาะผิดใจกันบ้าง
จริงๆแล้วเราไปโรงบาลไม่กี่ครั้งเอง เราจำได้ว่าตอนไปรับยาที่โรงบาลนึงมันราคาแพงมาก เรารู้สึกเป็นภาระแม่มาก
ทั้งไกลแล้วก็แพง เราขอเรื่องย้ายมาใกล้บ้าน แต่ทีนี้พอย้ายมาใกล้บ้าน ก็ถูกส่งตัวไปที่ศรีธัญญา เราตัดสินใจไม่ไปเพราะเราไม่อยากให้พ่อเสียเงิน ไม่อยากให้แม่เสียเวลา
เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าชีวิตปัจจุบันตอนนี้เราปกติดีมั้ย
ในหัวเราก็คิดว่าเราปกติดี แต่บางคืนก็รู้สึกเศร้าที่อยู่คนเดียวก็ร้องไห้ทั้งคืนยันเช้าถึงจะเริ่มเหนื่อยเราหลับ
เวลาเครียดเราก็มือสั่น เวลาร้องไห้ก็รู้สึกปวดใจตัวสั่นไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็มักจะกรีดแขนอยู่ เพราะรู้สึกว่าอยากให้ร่างกายมันแบ่งเบาจากการร้องไห้ ที่เป็นแบบนี้เราไม่ได้คิดว่าเราเป็นโนคึอะไร เราก็คงเป็นคนปกติที่อยากหาวิธีระบายตัวเองเฉยๆ เราไม่อยากให้ใครเดือดร้อนเลยเลือกที่จะทำอะไรให้ครอบครัวรู้
5555555 รู้สึกดีจังที่พิมพ์ออกมาทั้งหมดถึงแม้เรื่องแบบนี้อยากจะเป็นคนเล่าต่อปากกับใครสักคนนึงที่รับฟังเราแล้วอยู่ข้างๆ อยากให้มันเป็นความใจในแค่ช่วงเวลา
ไม่อยากเก็บไปคิดให้ทรมานใจจริงๆ