นานแล้วก่อนโควิดจะมา ช่วงน้ำท่วมใหญ่กรุงเทพ
วันหนึ่งไปเจอรุ่นน้องที่สนามราชมังฯ ไปช่วยกันขนของหนีน้ำท่วม
น้องคนนี้ไม่ได้สนิทมาก แต่ก็คุยกันบ่อยเวลาเจอกัน ทักทายกันดี
ไม่ได้เจอเธอครึ่งปี พอมาเจอเธอเปลี่ยนไปชัดเจน ปกติผมเธอก็ไม่ได้ขาว เป็นผิวสีแทน
วันนั้นพอมาเจอกัน ผมก็ทักน้องไปว่า "โห้ ไปทำอะไรมาทำไมตัวดำจัง"
คือเป็นการทักทาย ไม่ได้ต้องการคำตอบ เหมือนว่าเจอหน้าเห็นอะไรก็พูดไป
น้องๆก็อึ้งๆไม่ได้พูดอะไร ยิ้มแห้งๆ แล้วต่างคนก็ต่างทำงานตรงหน้าไป
ผมมานึกย้อนหลัง มารู้อีกทีก็นานแล้ว หลังๆไม่ได้เจอเธอแล้ว
รู้ว่าพอเรียนจบก็ไปเมืองนอกเลย ได้ข่าวล่าสุดคือไปอยู่กับแฟนที่เป็นต่างชาติ
ผมมานึกย้อนหลัง อยากตบปากตัวเอง ทักทายอะไรไม่ใช้สมองเลย
ตั้งแต่นั่นมาผมระวังเลยล่ะ
"ดำนะ ขาวขึ้น ผอมจัง ทำไมอ้วน" คำพวกนี้จะไม่ออกจากปากและจะไม่คิดอีกแล้วจ้า
ขอโทษสาวๆทุกคนด้วยคร้าบบบ
(ไม่ได้เจอเธออีกเลย ขาดการติดต่อทุกระบบ และกับทุกคนด้วย เธอคงไปเริ่มต้นใหม่ที่ไกลบ้าน)
นานมากแล้ว มีอยู่ครั้งหนึ่งผมพลาดมาก ในเรื่องของคำพูด กว่าจะรู้ตัวก็เกือบปี
วันหนึ่งไปเจอรุ่นน้องที่สนามราชมังฯ ไปช่วยกันขนของหนีน้ำท่วม
น้องคนนี้ไม่ได้สนิทมาก แต่ก็คุยกันบ่อยเวลาเจอกัน ทักทายกันดี
ไม่ได้เจอเธอครึ่งปี พอมาเจอเธอเปลี่ยนไปชัดเจน ปกติผมเธอก็ไม่ได้ขาว เป็นผิวสีแทน
วันนั้นพอมาเจอกัน ผมก็ทักน้องไปว่า "โห้ ไปทำอะไรมาทำไมตัวดำจัง"
คือเป็นการทักทาย ไม่ได้ต้องการคำตอบ เหมือนว่าเจอหน้าเห็นอะไรก็พูดไป
น้องๆก็อึ้งๆไม่ได้พูดอะไร ยิ้มแห้งๆ แล้วต่างคนก็ต่างทำงานตรงหน้าไป
ผมมานึกย้อนหลัง มารู้อีกทีก็นานแล้ว หลังๆไม่ได้เจอเธอแล้ว
รู้ว่าพอเรียนจบก็ไปเมืองนอกเลย ได้ข่าวล่าสุดคือไปอยู่กับแฟนที่เป็นต่างชาติ
ผมมานึกย้อนหลัง อยากตบปากตัวเอง ทักทายอะไรไม่ใช้สมองเลย
ตั้งแต่นั่นมาผมระวังเลยล่ะ
"ดำนะ ขาวขึ้น ผอมจัง ทำไมอ้วน" คำพวกนี้จะไม่ออกจากปากและจะไม่คิดอีกแล้วจ้า
ขอโทษสาวๆทุกคนด้วยคร้าบบบ
(ไม่ได้เจอเธออีกเลย ขาดการติดต่อทุกระบบ และกับทุกคนด้วย เธอคงไปเริ่มต้นใหม่ที่ไกลบ้าน)