ระหว่างทาง...ที่คุ้นเคย (นิยายผีเล่มละบาท)

ตามหัวข้อเลยครับ หัดแต่ง น้อมรับคำติชมครับ

ผมชื่อเอก พนักงานออฟฟิศธรรมดาๆ แฟนผมชื่อพลอย เราสองคนเพิ่งเลิกงานจากต่างจังหวัดและกำลังขับรถกลับกรุงเทพฯ ด้วยกัน ครั้งนี้เป็นครั้งแรกในรอบปีที่เราไม่ต้องเติมน้ำมันคนละถัง เพราะปกติพลอยทำงานในกรุงเทพฯ ส่วนผมทำงานที่ต่างจังหวัด เลยแทบไม่ได้เดินทางกลับด้วยกันบ่อยๆ
เหตุผลที่เลือกกลับคืนวันนี้ก็เพราะพลอยบอกว่าไม่อยากตื่นเช้าตรู่วันเสาร์แล้วต้องรีบกลับกรุงเทพฯ แบบสติแตก แถมยังอยากทำกิจกรรมที่ทำให้รู้สึกว่า "โอ้ นี่แหละชีวิต!" ส่วนผมก็ไม่ได้ขัดอะไร เพราะคิดว่า เอ่อ... งั้นไปเถอะครับ

อีกอย่างคือ... ใครจะอยากตื่นมาขับรถตอนเช้าหลังจากทำงานหนักมาตลอดสัปดาห์ล่ะครับ? เลยตกลงกันว่า คืนนี้ก็ขับไปแล้วกัน ถึงกรุงเทพจะได้มีเวลาพักผ่อนเต็มๆ ก่อนเริ่มต้นสัปดาห์ใหม่

เส้นทางที่เรากำลังขับอยู่นั้นเป็นเส้นทางลัดผ่านป่าละเมาะ ซึ่งถึงแม้จะรู้สึกว่าเส้นทางนี้ค่อนข้างเงียบและมีทุ่งหญ้ารกๆ แต่ผมคิดว่ามันจะเร็วกว่าเส้นหลักที่มักจะมีรถเยอะและคอยติดขัด ผมเคยใช้เส้นนี้หลายครั้งตอนที่ต้องรีบกลับบ้าน และมันก็ผ่านไปได้เร็วดี แม้ถนนจะค่อนข้างทรุดโทรมบ้างก็ตาม

สองข้างทางเริ่มมีบ้านเรือนบ้าง แต่นับว่าห่างกันพอสมควร บางบ้านก็ดูเหมือนจะเป็นบ้านเก่าที่ถูกทิ้งร้างไปแล้ว เงียบและไร้ชีวิตชีวา ทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ พอสมควร ข้างทางบางจุดเป็นหลุมเป็นบ่อจนต้องลดความเร็วลง พลอยเองก็เริ่มทักขึ้นมาว่า 

"เอก... ทำไมมันดูเงียบจังเลยอะ"

เธอคงพูดเล่นๆ เพราะเราเคยใช้เส้นทางนี้มาหลายครั้งแล้ว แต่เสียงของเธอก็แฝงไปด้วยความสงสัยเล็กน้อย
ผมยิ้มและพูดไปแบบขำๆ

"ไม่ต้องกลัว เดี๋ยวก็ออกถนนใหญ่แล้วน่า คิดซะว่าผ่านป่าเดี๋ยวก็เจอร้านสะดวกซื้อ"

แม้ว่าผมจะพูดเล่น แต่ก็เห็นเธอคลายความกังวลลงบ้าง พลอยหัวเราะเบาๆ แล้วหันมองทางข้างหน้าอีกครั้ง ใบหน้าของเธอดูผ่อนคลายขึ้นนิดหน่อย 

ผ่านไปสักพัก ผมเหลือบดูนาฬิกาเป็นเวลาตีหนึ่ง เสียงนกกลางคืนเริ่มดังขึ้น ท่ามกลางความมืด เสียงลมที่พัดผ่านต้นไม้และหญ้าข้างทางดังเหมือนมีอะไรบางอย่างเคลื่อนไหวในความมืด ทำให้ผมรู้สึกถึงความแปลกประหลาดรอบตัวมากขึ้น

"เอก ดูนั่นสิ..." พลอยพูดเสียงแผ่วเบา เธอหันไปมองทางข้างถนนและกระซิบเสียงต่ำ

ผมหันไปมองตามสายตาของพลอย ที่มองไปยังรถคันหนึ่งที่จอดอยู่ข้างทาง มีผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่ข้าง ๆ รถ ไฟกระโปรงรถวาบไปมา แล้วพลอยก็พูดขึ้นว่า 

"จอดรถไปดูหน่อยไหม?"

ในใจผมมีความรู้สึกแปลกๆ เกิดขึ้น สถานการณ์นี้ทำให้รู้สึกเหมือนกำลังเข้าไปในภาพยนตร์แนวสยองขวัญแบบที่เคยดูมา ผมตัดสินใจเหยียบคันเร่งแล้วขับรถไปข้างหน้า พลอยหันมามองที่ผมเหมือนจะถามอะไรสักอย่างเกี่ยวกับเหตุผลที่ผมไม่จอดรถ แต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา เธอเพียงแต่เงียบและมองกระจกหลังไปที่ผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างทาง

เมื่อขับผ่านไปแล้ว ผมเหลือบตามองกระจกมองหลัง เงาสะท้อนของผู้หญิงในชุดเดรสสีขาวยาวๆ ยังคงยืนอยู่ที่เดิม หันมามองรถเรา 
ผมพูดเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศว่า 

"พลอย นี่เราขับผ่านโซนนางฟ้าประจำทางหรือไง?"

ผมพยายามพูดออกมาอย่างตลกๆ หวังว่าจะทำให้พลอยคลายความกังวล
พลอยยังคงหันมามองหน้าผม ผ่อนคลายขึ้น ยิ้มเล็กน้อย 

"นางฟ้าแบบไหนมาทำงานกลางดึกแบบนี้เนี่ย?"

"ก็นางฟ้ากะดึกไงล่ะ" ผมแซวแล้วบีบแตรเบาๆ เพื่อทำให้บรรยากาศดูเป็นเรื่องขำขัน
ถึงแม้ว่าผมจะพูดเล่น แต่ในใจผมก็ยังรู้สึกไม่ค่อยดีเหมือนกัน เสียงเพลงในรถยังคงเล่นต่อไปอย่างไม่สนใจกับบรรยากาศรอบตัวที่เงียบผิดปกติ

“เอก...” พลอยเอ่ยเรียกผมขึ้นในความเงียบ

“หือ?” ผมตอบกลับมาเสียงเบา

“เธอรู้สึกเหมือนเราถูกมองอยู่ไหม” พลอยถามขึ้น

“ยังไงเหรอ?” ผมแกล้งถามด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูงงๆ แต่ในใจรู้ว่าพลอยหมายถึงอะไร

“ไม่รูู้สิ..บอกไม่ถูก” 

พลอยพูดออกไปโดยที่ไม่แน่ใจตัวเองนักว่ากำลังรู้สึกอย่างไร ทั้งความสงสัยและความหวาดระแวงที่ไม่สามารถบอกได้ชัดเจน
ผมเงียบไปสักพัก ก่อนจะพูดขึ้นว่า

“อาจจะแค่คิดไปเองมั้ง เดี๋ยวถึงปั๊มเราแวะพักกันหน่อยก็ได้”

ไม่ทันที่พลอยจะตอบกลับ เสียงหรีดหริ่งจากข้างทางเริ่มดังขึ้นมาเป็นระยะ มีเสียงแปลกประหลาดดังขึ้น เหมือนกับว่าอะไรบางอย่างกำลังเคลื่อนไหว ผมเหลือบตามองที่ป่าข้างทาง ไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกเหมือนมีบางอย่างแวบไปมาระหว่างพุ่มไม้และเงามืด รอคอยให้ผมเผลอ

ขนที่ต้นคอของผมเริ่มลุกซู่ขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว ใจผมเริ่มสั่น
ผมหันไปมองพลอย เธอนั่งนิ่ง ดวงตาจ้องไปข้างหน้า ริมฝีปากเม้มแน่น ความกดดันที่มองไม่เห็นเริ่มแผ่รอบเราสองคน

"พลอย...มีอะไรหรือเปล่า?" ผมถามเสียงเบา แต่เธอไม่ตอบ

ผมหันไปมองกระจกข้าง และหัวใจแทบหยุดเต้น

เธออยู่ตรงนั้น...
ผู้หญิงในชุดเดรสขาวที่เราขับผ่านไปเมื่อครู่ ตอนนี้เธออยู่ข้างรถ มือทั้งสองข้างแข็งทื่อแนบลำตัว ใบหน้าขาวซีดเหมือนหินผา ตากลมโตดำลึก ริมฝีปากขยับเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ไม่มีเสียงหลุดออกมาแม้แต่คำเดียว ทั้งที่รถวิ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว เธอมาอยู่ตรงนี้ได้อย่างไร 
ผมสะดุ้งสุดตัว รีบเบนสายตากลับมาที่ถนน เหยียบคันเร่งเพิ่มขึ้น รู้สึกถึงหัวใจที่เต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมาจากอก

แต่แล้ว...
เสียงกระซิบเย็นเยียบดังขึ้นจากเบาะหลัง
ผมแข็งทื่อไปทั้งตัว ลมหายใจขาดห้วง จับพวงมาลัยแน่นจนรู้สึกเจ็บมือ
 
"เอก!" พลอยตะโกนลั่น 

เธอหันไปมองด้านหลังตาเบิกกว้าง ผมกัดฟันแน่น หัวใจแทบหยุดเต้น ไม่กล้าหันไปมอง
แต่ไม่ต้องมอง ผมก็รู้...
เธออยู่ข้างหลังเรา

ผมค่อย ๆ เหลือบมองกระจกรถด้านหลังที่สะท้อนภาพบางอย่าง—เงาสีขาวจางๆ ค่อยๆ โน้มตัวเข้ามาใกล้
เสียงลมหายใจเย็นเฉียบเป่ารดต้นคอของผม
เสียงกระซิบดังขึ้นอีกครั้ง แผ่วเบาแต่ทำให้ขนลุกไปทั้งตัว

แรงบางอย่างกระชากไหล่ผมจากข้างหลัง ผมสะบัดตัวสุดแรง กลั้นใจหันไปมองผ่านกระจกมองหลัง—
ใบหน้าซีดขาวอยู่ห่างจากผมแค่ไม่กี่นิ้ว!
ดวงตากลวงโบ๋เหมือนโพรงมืดขนาดใหญ่ จ้องตรงมาที่ผมโดยไม่มีเปลือกตา ริมฝีปากแสยะออกจนกว้างผิดธรรมชาติ เผยให้เห็นฟันเรียงซี่ที่เล็กและถี่จนดูไม่เหมือนฟันของมนุษย์

"เฮ้ย!" 

ผมตะโกนลั่น เหยียบคันเร่งจนมิด รถพุ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็ว พลอยหลับตาปี๋ มือกำแน่นกับเบาะ
ผมหันกลับมามองถนน พยายามตั้งสติ แต่มือที่กำพวงมาลัยอยู่ยังสั่นไม่หยุด
ผ่านไปไม่กี่วินาที ผมกลั้นใจเหลือบมองกระจกมองหลังอีกครั้ง
เธอหายไปแล้ว...
ราวกับไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น

รถยังคงแล่นไปข้างหน้า มีเพียงเสียงหอบหายใจหนักๆ ของผมและพลอยที่ดังอยู่ในห้องโดยสาร
พลอยหันมามองผม สีหน้าซีดเผือดไม่ต่างกัน เราทั้งคู่ไม่พูดอะไร แต่ความเงียบในรถยิ่งทำให้บรรยากาศยิ่งหนักอึ้งขึ้น
หลังจากผ่านไปสักพัก พลอยเริ่มพูดเสียงเบา เหมือนกลัวว่ามันจะดังไปในความเงียบ

“เอก...” 

“หือ?” ผมหันไปมองพลอย
 
“เธอได้ยินเสียงอะไรไหม?” พลอยถามเสียงสั่น

ผมขมวดคิ้ว “เสียงอะไร?”

พลอยชะงักไป ก่อนที่จะตอบกลับมาเสียงเบา 
“เหมือน...เหมือนเสียงหมา”

“หมาเหรอ?” 
ผมถามด้วยน้ำเสียงที่พยายามทำให้ดูเหมือนเรื่องปกติ 
“ไม่มีอะไรหรอกมั้ง”

แต่ในตอนนั้นเอง เสียงฝีเท้าดังขึ้นข้างรถ ไม่ใช่เสียงฝีเท้าของคน แต่เป็นเสียงที่หนักๆ เหมือนกับบางสิ่งวิ่งไปตามถนนข้างรถ
ผมขยับมือไปที่พวงมาลัย หน้าผากเริ่มเหงื่อซึมออกมา

 “นี่มันอะไรกันเนี่ย...”

แล้วจู่ๆ ก็มีเสียงฟึ่บๆ ค่อยๆ เข้าใกล้ จนกระทั่งได้ยินเสียงกรอบแกรบ เหมือนกับบางสิ่งกำลังขูดกับพื้นถนน

“เอก...ทำไมเสียงมันใกล้ขึ้นเรื่อยๆ” 

พลอยพูดด้วยน้ำเสียงที่เหมือนจะร้องไห้
ผมรีบกดคันเร่งให้รถเร่งความเร็ว 

“พลอย ไม่ต้องห่วง มันไม่มีอะไร”

แต่แล้ว...
ผมเห็นเงาใหญ่ๆ แว้บๆ ผ่านกระจกข้าง เหมือนสัตว์ขนาดใหญ่ที่วิ่งเร็วเท่ารถ
เสียงฝีเท้าที่หนักหน่วงยังคงดังขึ้นข้างรถ จนกระทั่งมันเหมือนจะวิ่งอยู่ข้างๆ เราได้ พอลองเหลือบมองไปที่กระจกข้างอย่างตั้งใจ ก็เห็นอะไรบ้างอย่างวิ่งตามหลัง แต่ใกล้เข้ามาทุกที

“เอก... นั่นมันไม่ใช่หมาใช่ไหม”

พลอยพูดออกมาพร้อมเสียงสะอื้น

ผมหันไปมองมัน... มันดูเหมือนหมา แต่มันไม่ใช่หมาเลย ตัวมันคล้ายหมาดำตัวใหญ่ ผิวหนังมีลักษณะแห้งกรอบและซีดจนเกือบขาว เหมือนผิวหนังที่ถูกไหม้ มีเขี้ยวยาวและแหลม ขาทั้งสี่ยาวผิดปกติ ดวงตามันแดงก่ำอย่างน่าสะพรึงกลัว 
“รีบไปเร็วๆ!” พลอยตะโกน
ผมกดคันเร่งสุดเท่าที่จะทำได้ แต่ไม่ว่าเราจะขับเร็วแค่ไหน มันก็ยังวิ่งตามทัน มันเป็นตัวอะไร... มันไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์หรือสัตว์ธรรมดาจะทำได้

“มัน...มันไม่หยุดตามมาเลย!”

พลอยตะโกนเสียงสั่น
ผมมองกระจกหลัง

(มีต่อ ตัวอักษรเกินครับ แต่งไปแต่งมาขนลุกแหะ บ้านตัวเองแท้ๆ เรื่องไม่ได้น่ากลัวหรอก แต่ตุ๊กแกบ้านไหนไม่รู้ ดันร้องตอนกำลังอ่านทวนพอดี ^ ^)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่