รบกวนปรึกษาเรื่องที่จะเล่านี้เข้าข่ายคดีอะไร

กระทู้คำถาม
เรื่องมีอยู่ว่า อาเป็นผู้หญิงแก่ อายุ 70 กว่า ไม่มีความรู้ นามสมมุติชื่อ A  มีลูกชาย 2 คน แกอาศัยอยู่กับลูกที่ทำงานที่เชียงใหม่ และแกก็ทำอาชีพเป็นแม่บ้านอยู่ที่นั่น วันนึงลูกแกเสียชีวิตกระทันหัน ลูกอีกคนก็ทำงานหาเช้ากินค่ำ หวังพึ่งพาคงจะยาก แกเลยตัดสินใจมาใช้ชีวิตบั้นปลายอยูใกล้พี่น้องที่นครสวรรค์ พี่น้องที่ว่าก็มีครอบครัวพี่สาว ครอบครัวพี่ชาย และลูกพี่ลูกน้องอาศัยอยู่ในละแวกเดียวกัน แกก็หวังจะฝากผีฝากไข้ตามประสาของแก แกใช้เงินเก็บของแก กับเงินประกันชีวิตที่แกได้รับจากลูกที่เสียชีวิต มาซื้อที่ดินของลูกพี่ลูกน้องที่ขายให้ จำนวน 117 ตารางวา และจ้างญาติปลูกบ้าน ซึ่งค่าที่ดิน และค่าก่อสร้างบ้าน รวมแล้วเกือบ 800,000 บาท  แกก็หากินเล็กๆ น้อยๆ ขายข้าวเหนียวปิ้งพอประทังชีวิต อยู่มาวันนึงแกขาดเงิน เนื่องจากขายของไม่ค่อยดี เงินที่มีก็ปลูกบ้านจนหมด แกขาดเงิน แกก็เอาบ้านและที่ดินของแกไปจำนองกับสามีภรรยาคู่หนึ่งในจำนวน 100,000 บาท ต่อมาสามีภรรยาคู่นี้ต้องการเงินคืนจากแก ซึ่งแกไม่มีเงิน แกก็เลยไปขอความช่วยเหลือจากหลานสาว นามสมมุติชื่อ B ซึ่ง B ก็ยินดีไปไถ่ถอนจำนองออกมาตามรายละเอียดดังนี้
1.  นาง Aได้ไถ่ถอนที่ดินและบ้านจากสามี ภรรยาคู่นั้น                                                             เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2566
2.  นางสาว B (หลานสาว)รับจำนองที่ดินจากนาง A                                                                 เมื่อวันที่ 24  พศจิกกายน 2566 
3.  นางA ได้ไถ่ถอนที่ดินจาก นส.B                                                                                        เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2566
4. นางA ได้ขายที่ดินให้นาง C (ซึ่งเป็นแม่ของน.ส.B) ตามหนังสือสัญญา 480,000 บาท             เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2566 (วันเดียวกันกับไถ่ถอน)
5. นาง C ทำนิติกรรมยกบ้านและที่ดินให้ น.ส B เนื่องจากนางสาว B แต่งงานกับชาวต่างชาติไม่สามารถนำสามีมาเซ็นต์ชื่อรับรู้ในการซื้อขายได้
    ก็ต้องทำนิติกรรม"ให้" ที่สำนักงานที่ดิน                                                             เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2566 (วันเดียวกันกับไถ่ถอน ซื้อขาย และยกให้)
6 สุดท้ายชื่อในโฉนดที่ดินเป็นของ นางสาว B ไปเรียบร้อยแล้ว

สรุป นาง Aไม่เคยได้รับเงินจากการซื้อขายบ้านและที่ดินดังกล่าวนี้เลย หลานสาว B ไม่เคยแจ้งว่าจะมีการซื้อขายบ้านและที่ดิน สุดท้ายเพิ่งมารู้ว่าบ้านและที่ดินไม่ใช่ชื่อของตัวเองเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2568 เพราะมีเจ้าหน้าที่จากบริษัทประกันภัยมาขอถ่ายรูปบ้าน เพื่อเหตุผลอะไรไม่ทราบ เจ้าหน้าที่ประกันภัยแจ้งนาง Aว่า บ้านและที่ดินไม่ใช่ชื่อของนาง A อีกต่อไปแล้ว นาง Aก็นำเรื่องนี้มาปรึกษาพี่น้อง และก็พากันไปตรวจสอบที่สำนักงานที่ดิน พบหลักฐานการทำนิติกรรมตามข้อ 1-6 หลังจากกลับจากสำนักงานที่ดินลูกพี่ลูกน้องที่เป็นคนกลางก็ได้มาสอบถามนาง B ผู้เป็นแม่ที่ทำการรับซื้อที่ดินจากนาง A ว่า ได้ให้เงินสำหรับการซื้อที่ดินและบ้านกับนาง A หรือไม่ คำตอบคือไม่ได้ให้ นาง C รู้แต่เพียงว่าB ลูกสาวรับจำนองที่ดินจากอาA และลูกสาวBให้ไปเซ็นต์ชื่อที่สำนักงานที่ดินก็ไป เมื่อนส.B กลับมานครสวรรค์ ลูกพี่ลูกน้องก็เข้าไปพูดคุยถึงเรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้น หลาน B เล่าว่า อาA ยืมเงินเธอไป รวมกับเงินที่ไปไถ่ถอนจำนองด้วยเบ็ดเสร็จ จำนวน 780,000 บาท ถ้าอา A อยากได้บ้านและที่ดินคืน ต้องหาเงินมาให้หลาน B จำนวน 780,000 บาท ซึ่งเอกสารการรับเงินต่างๆ ไม่สามารถนำมาแสดงได้ ยกเว้นเอกสารการไถ่อนจำนอง จำนวน150,000 บาท เท่านั้น ซึ่ง อาA ไม่เคยได้รับเงินอื่นใดเลย นอกจากเงินที่นำไปไถ่ถอนจากสามีภรรยาคู่นั้นเท่านั้น

อยากปรึกษาผู้มีความรู้ และช่วยเหลือนาง A แกยากจน แกไม่มีความรู้ แกไว้ใจหลาน แกไม่มีทางสู้ใครแกสูญเสียบ้านและที่ดินให้หลานสาวไปแล้ว แกควรทำอย่างไร คดีนี้คือคดีอะไรคะ รบกวนขอคำชี้แนะคะ ว่าต้องเริ่มอย่างไร แกไม่มีเงินจ้างทนายด้วยค่ะ สงสารแกค่ะ เรื่องมันผ่านไปปีกว่า เพิ่งจะรู้ว่าบ้านที่แกอาศัยอยู่ไม่ใช่ชื่อแกอีกต่อไปแล้ว 
 
สรุป ตัวละครมี 3 ตัวค่ะ
A คือ อาที่มีฐานะยากจน อาศัยอยู่นครสวรรค์
B คือหลานสาว ทำธุรกิจ เปิดบริษัทร่วมกับสามีชาวต่างชาติ ที่อยู่กรุงเทพฯ
C คือ แม่ของ B  เป็นพี่สะใภ้ของA อาศัยอยู่นครสวรรค์
ส่วนพ่อของ B เสียชีวิตไปแล้ว

นิติกรรมที่ทำไป
ไถ่ถอนที่ดิน จำนวน150,000 บาท มีหลักฐานที่สำนักงานที่ดิน
ซื้อขาย จำนวน 480,000 บาท มีหลักฐานที่สำนักงานที่ดิน
ยืมเงิน จำนวน 780,000 บาท ไม่มีหลักฐาน อ้างว่าจะดูจากกล้องวงจรปิดว่ามีการให้เงินกัน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่