เริ่มเรื่องนะครับ ผมได้คำแนะนำจากคนรู้จัก นะครับ
ว่าบ้านหลังดังกล่าว ต้องการขายฝาก ที่ดิน พร้อมบ้าน โดยได้พากันไปดูที่ดิน และบ้านหลังดังกล่าวปรากฏว่า บ้านหลังกล่าว มีคนอยู่ในบ้าน สมมุติว่าชื่อ A แล้วกันนะครับ
หลังจากนั้นก็ได้สำรวจจากหมายเลขโฉนด จากเวป ค้นหาโฉนด ปรากฏว่าตรงตามรูปแบบ ดังนั้นจึงตกลงไปไถ่ถอน จากธนาคารเนื่องจากทรัพย์ดังกล่าวติดจำนองอยู่
เมื่อถึงวันเวลาที่นัดไปไถ่ถอนที่ ธนาคารเจ้าของทรัพย์ ปรากฏว่า ชื่อเจ้าของกรรมสิทธิ์ เป็นชื่อ นายB ซึ่งก่อนหน้านี้ผมเข้าใจมาตลอดว่าชื่อจริง นามสกุลจริงที่ปรากฏในโฉนด เป็นชื่อของนายA
ผมจึงได้ปฎิเสธการขายฝาก ที่ได้ตกลงกับนายA เนื่องจากนายA ไม่ใช่เจ้าของกรรมสิทธิ์ตัวจริง
โดยความเข้าใจของผม การกระทำในการซื้อ ขาย ที่ดิน ขายฝาก จำนอง ต้องเป็นเจ้าของที่ดินที่มีกรรมสิทธิ์ แต่นายA เป็นเพียงผู้อยู่อาศัยเท่านั้น การที่นายA จะเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์จำเป็นที่ต้อง จะหาเงิน เก็บเงิน หรือ หยิบยืม เพื่อเป็นจะของกรรมสิทธิ์ที่แท้จริง
โดยผมได้ทำการปฎิเสธไปเพราะ ไม่ต้องการให้นายA ยืมเงิน และต้องการซื้อที่ดิน จากเจ้าของกรรมสิทธิ์ตัวจริงเท่านั้น
หลังจากนั้นผมก็ถามนายB ซึ่งเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ว่า ต้องการขาย ที่ดินดังกล่าวหรือไม่ ปรากฏว่านายB ก็ต้องการขายอยู่แล้ว
ผมจึงได้ทำการไถ่ถอนการจำนองจากธนาคาร ด้วยเงินสดของผม เพื่อจะไปโอนซื้อขายกันที่กรมที่ดิน
เมื่อไปถึงกรมที่ดิน ก็ตกลงทำการซื้อ ขาย กับนายB ซึง นายBก็ได้ขายและมอบโฉนดดังกล่าว ให้กับผม แต่นายA ได้ขอทำหนังสือจะซื้อ จะขายที่ดิน โดยได้จ่ายค่ามัดจำ และ กำหนดซื้อภายในระยะเวลา และตลอดเวลานายA ก็ยังอาศัยอยู่ในที่ดินนี้ (ตัวเลขราคาที่ซื้อกลับเป็นราคาที่ตกลงว่าจะขายฝากกันตอนแรกครับ)
เมื่อถึงระยะเวลาสิ้นสุดในสัญญาจะซื้อขายที่ดิน ปรากฏว่า นายA ไม่ได้ทำการซื้อขาย ตามสัญญาที่ระบุไว้ และยังคงอาศัยอยู่ในบ้านหลังกล่าว เมื่อเตือนให้ออกไป นายA ก็จะอ้างว่าที่ดินดังกล่าว เป็นการขายฝาก ผมไม่มีสิทธิ์ไปไล่เขา
สุดท้ายตอนนี้ผมได้ทำเรื่องฟ้อง ละเมิด และ ขับไล่ในชั้นศาล แล้วครับ
ยอมรับนะครับ ว่าประมาทเพราะไม่ได้ดูบัตรประชาชนนายA ว่าตรงกับหลังโฉนด
โดยชะล่าใจว่ามีทั้งธนาคาร และ กรมที่ดินที่คอยตรวจสอบกรรมสิทธิ์ ของผู้ครอบครองแทนตัวผม
ยอมรับนะครับว่าครั้งแรกตกปากรับคำว่าจะทำขายฝาก แต่ไม่ได้ทำหนังสือสัญญาใดๆ ว่าจะขายฝากนะครับ เพียงแต่นัดกันไปไถ่ถอนกันที่ธนาคาร
ที่ผมเปลี่ยนใจไม่ขายฝาก เพราะประเด็นเดียวเลยครับ เขาไม่มีกรรมสิทธิ์
คำพูดที่เขาพูดมา ทำให้ผมกังวลมาตลอด
ผมขอถามนะครับการที่ผมซื้อขายที่ดินกับเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ระบุไว้ในโฉนด และการที่ผมทำสัญญาจะซื้อขายไป ให้กับผู้อยู่อาศัยเดิม มันเป็นนิติกรรมอำพราง หรือไม่ หรือ ทำให้เขา อ้างเป็นการกู้ยืมเงิน เพื่อการขายฝากอะไรทำนองนั้นได้หรือไม่ครับ
และการที่คนที่ไม่มีกรรมสิทธิ์เป็นเพียงผู้อยู่อาศัยสามารถทำเรื่องขายฝากได้ด้วยหรือครับ
ขอบคุณครับ
มีเรื่องปรึกษาปัญหากฎหมายที่ดิน ขายฝาก ขอปรึกษาหน่อยครับ
ว่าบ้านหลังดังกล่าว ต้องการขายฝาก ที่ดิน พร้อมบ้าน โดยได้พากันไปดูที่ดิน และบ้านหลังดังกล่าวปรากฏว่า บ้านหลังกล่าว มีคนอยู่ในบ้าน สมมุติว่าชื่อ A แล้วกันนะครับ
หลังจากนั้นก็ได้สำรวจจากหมายเลขโฉนด จากเวป ค้นหาโฉนด ปรากฏว่าตรงตามรูปแบบ ดังนั้นจึงตกลงไปไถ่ถอน จากธนาคารเนื่องจากทรัพย์ดังกล่าวติดจำนองอยู่
เมื่อถึงวันเวลาที่นัดไปไถ่ถอนที่ ธนาคารเจ้าของทรัพย์ ปรากฏว่า ชื่อเจ้าของกรรมสิทธิ์ เป็นชื่อ นายB ซึ่งก่อนหน้านี้ผมเข้าใจมาตลอดว่าชื่อจริง นามสกุลจริงที่ปรากฏในโฉนด เป็นชื่อของนายA
ผมจึงได้ปฎิเสธการขายฝาก ที่ได้ตกลงกับนายA เนื่องจากนายA ไม่ใช่เจ้าของกรรมสิทธิ์ตัวจริง
โดยความเข้าใจของผม การกระทำในการซื้อ ขาย ที่ดิน ขายฝาก จำนอง ต้องเป็นเจ้าของที่ดินที่มีกรรมสิทธิ์ แต่นายA เป็นเพียงผู้อยู่อาศัยเท่านั้น การที่นายA จะเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์จำเป็นที่ต้อง จะหาเงิน เก็บเงิน หรือ หยิบยืม เพื่อเป็นจะของกรรมสิทธิ์ที่แท้จริง
โดยผมได้ทำการปฎิเสธไปเพราะ ไม่ต้องการให้นายA ยืมเงิน และต้องการซื้อที่ดิน จากเจ้าของกรรมสิทธิ์ตัวจริงเท่านั้น
หลังจากนั้นผมก็ถามนายB ซึ่งเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ว่า ต้องการขาย ที่ดินดังกล่าวหรือไม่ ปรากฏว่านายB ก็ต้องการขายอยู่แล้ว
ผมจึงได้ทำการไถ่ถอนการจำนองจากธนาคาร ด้วยเงินสดของผม เพื่อจะไปโอนซื้อขายกันที่กรมที่ดิน
เมื่อไปถึงกรมที่ดิน ก็ตกลงทำการซื้อ ขาย กับนายB ซึง นายBก็ได้ขายและมอบโฉนดดังกล่าว ให้กับผม แต่นายA ได้ขอทำหนังสือจะซื้อ จะขายที่ดิน โดยได้จ่ายค่ามัดจำ และ กำหนดซื้อภายในระยะเวลา และตลอดเวลานายA ก็ยังอาศัยอยู่ในที่ดินนี้ (ตัวเลขราคาที่ซื้อกลับเป็นราคาที่ตกลงว่าจะขายฝากกันตอนแรกครับ)
เมื่อถึงระยะเวลาสิ้นสุดในสัญญาจะซื้อขายที่ดิน ปรากฏว่า นายA ไม่ได้ทำการซื้อขาย ตามสัญญาที่ระบุไว้ และยังคงอาศัยอยู่ในบ้านหลังกล่าว เมื่อเตือนให้ออกไป นายA ก็จะอ้างว่าที่ดินดังกล่าว เป็นการขายฝาก ผมไม่มีสิทธิ์ไปไล่เขา
สุดท้ายตอนนี้ผมได้ทำเรื่องฟ้อง ละเมิด และ ขับไล่ในชั้นศาล แล้วครับ
ยอมรับนะครับ ว่าประมาทเพราะไม่ได้ดูบัตรประชาชนนายA ว่าตรงกับหลังโฉนด
โดยชะล่าใจว่ามีทั้งธนาคาร และ กรมที่ดินที่คอยตรวจสอบกรรมสิทธิ์ ของผู้ครอบครองแทนตัวผม
ยอมรับนะครับว่าครั้งแรกตกปากรับคำว่าจะทำขายฝาก แต่ไม่ได้ทำหนังสือสัญญาใดๆ ว่าจะขายฝากนะครับ เพียงแต่นัดกันไปไถ่ถอนกันที่ธนาคาร
ที่ผมเปลี่ยนใจไม่ขายฝาก เพราะประเด็นเดียวเลยครับ เขาไม่มีกรรมสิทธิ์
คำพูดที่เขาพูดมา ทำให้ผมกังวลมาตลอด
ผมขอถามนะครับการที่ผมซื้อขายที่ดินกับเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ระบุไว้ในโฉนด และการที่ผมทำสัญญาจะซื้อขายไป ให้กับผู้อยู่อาศัยเดิม มันเป็นนิติกรรมอำพราง หรือไม่ หรือ ทำให้เขา อ้างเป็นการกู้ยืมเงิน เพื่อการขายฝากอะไรทำนองนั้นได้หรือไม่ครับ
และการที่คนที่ไม่มีกรรมสิทธิ์เป็นเพียงผู้อยู่อาศัยสามารถทำเรื่องขายฝากได้ด้วยหรือครับ
ขอบคุณครับ