ขอคำแนะนำจากผู้รู้กฎหมาย ทำสัญญาเช่าที่ดินเปล่าทำตลาดนัด คู่สัญญาเป็นทนาย แต่ไม่ทำตามสัญญา ต้องดำเนินการยังไงต่อไปคะ

รบกวนขอคำแนะนำจากผู้รู้กฎหมายค่ะ เนื่องจาก
1.คู่สัญญาเป็นทนายความ
2.คู่กรณีอีกฝ่ายเป็นเจ้าของโครงการอสังหาและบริษัทหลายที่ ต้องมีทีมทนายของบริษัทแน่นอน
3.จขก.อยู่ต่างประเทศ การติดต่อปรึกษาทนายลำบาก
4.คุณพ่อที่ดูแลพื้นที่อายุมากแล้ว ไม่อยากให้เป็นคดีความ แค่ต้องการความรู้เพื่อนำไปสู่การเจรจา ให้จบโดยเร็วและยุติธรรม

จึงเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมตามกฎหมาย เนื่องจากใช้วิธีการโทรศัพท์ ส่งไลน์แล้ว อ่านไม่ตอบ โทรแทบไม่รับ เพิ่งมีโอกาสได้คุยและเป็นที่แน่นอน จะเข้ามายกเลิกสัญญา เข้าเดือนที่สองที่จขก.ไม่ได้รับค่าเช่า จึงเห็นแล้วว่าโอกาสที่จขก.ไม่ได้รับความเป็นธรรมสูง จึงบอกคุณพ่อว่าห้ามเซนต์เอกสารใดๆ จนกว่าจะได้ค่าเช่าที่ค้างไว้ เพราะใช้พื้นที่เราทำธุรกิจมาตลอด ต้องมีคนรับผิดชอบ

คุณพ่อก็อยากให้จบๆ บอกช่างมันเถอะ แต่จขก.เห็นว่า ถ้าสัญญาไม่มีความศักดิ์สิทธิ์ จะทำสัญญากันเพื่ออะไร และคู่สัญญาก็เป็นทนายความ เป็นผู้ใช้กฏหมาย แต่กลับทำให้ขาดความน่าเชื่อถือ แค่ต้องการรักษาสิทธิ์และผลประโยชน์ตามกฏหมาย ไม่ใช่เห็นคนแก่ ตาสีตาสา แค่แจ้งบอกให้รูเพียงฝ่ายเดียว ไม่สนใจคูสัญญา แล้วก็จบ ไม่มีการบอกยกเลิกสัญญาล่วงหน้าใดๆ โทรไม่รับ ไลน์ไม่ตอบ ให้เรายุ่งยากวิ่งวุ่นกับค่าเช่าไม่กี่บาท ทั้งที่คูสัญญาได้ร่วมกันทำธุรกิจบนพื้นที่ของจขก.ถือว่าไม่ให้เกียรติกัน

จึงอยากรบกวนขอคำแนะนำเพื่อใช้ในการต่อรองให้จบอย่างเป็นธรรมค่ะ 
โดยไม่ต้องเป็นคดีความ เพราะเสียเวลา ไม่สะดวกและค่าเช่าไม่ได้เยอะ แต่จขก.ต้องการเรียกร้องสิทธิ์ตามกฎหมายและต้องการเห็นความศักดิ์สิทธิ์ของสัญญาที่ทำกับทนายผู้ใช้กฎหมาย แต่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายซะเอง

จึงต้องการดำเนินการตามสเตปขั้นตอนที่ถูกต้อง เพื่อนำไปสู่การเจรจา ได้ค่าเช่าที่ค้างไว้ ก่อนยกเลิกสัญญาเช่าต่อไป

ที่มาของปัญหา ปี2560 จขก.มีที่แปลงใหญ่16ไร่ ยาวติดทางสี่เลนประมาณ120ม.ได้ทำการปล่อยเช่าที่ดินเปล่าด้านหน้าทั้งแปลงเพื่อทำตลาดนัด

ต่อมาประมาณปี2562 ได้ทำการแบ่งแปลงที่ดินเป็น2แปลงๆละ8ไร่ เป็นของพี่สาวและ จขก.โดยทางเข้าที่เชื่อมต่อกับกรมทางหลวงจะตรงกับพื้นที่ของ จขก.ทั้งหมด

ต่อมา จขก.ได้ปล่อยเช่าพื้นที่บางส่วนให้กับร้านสะดวกซื้อ เหลือพื้นที่เข้าออกด้านหน้าติดทางหลวง18.50ม.และตลาดนัดได้ทำสัญญาเช่าพื้นที่กับแปลงของพี่สาวแบบปีต่อปี สัญญาสิ้นสุดธันวาคม2567

โดยตลอดเวลา จขก.ให้ตลาดนัด พ่อค้าแม่ค้า คนในพื้นที่ ใช้ทางเข้าออกพื้นที่และจอดรถได้ตามปกติ คือพื้นที่ด้านหน้า18.50ม.ลึกประมาณ100ม.โดยโซนค้าขายส่วนมากอยู่บนพื้นที่ของพี่สาวและยกค่าเช่าให้พี่สาวคนเดียว เคยขอเก็บค่าเช่าเพิ่มเพราะที่คนละแปลง แต่ทนายไม่ยอมจ่าย บอกให้เก็บกับคนที่มาซื้อของ เราสงสารคนซื้อจึงไม่เก็บและอลุ่มอล่วยให้ใช้พื้นที่เพราะเห็นแก่ประโยชน์ของพี่สาว

ต่อมาเดือนกันยายน2567พี่สาวทำการขายที่ดิน แต่สัญญาที่ทำไว้กับตลาดจะสิ้นสุดเดือนธันวาคม โดยทนายซึ่งเป็นผู้จัดการตลาดได้คุยกับเจ้าของใหม่ เค้าบอกมีแพลนจะก่อสร้างด้านหน้า ตลาดต้องอยู่ตรงกลาง ทนายจึงขอทำสัญญากับ จขก.แทน เพราะมีทางเข้าด้านหน้าติดทาง18.50ม. โดยทำสัญญาไว้ตั้งแต่เดือนตุลาคม โดยจะย้ายตลาดมาวันที่1มกราคม2568

ในระหว่างนั้นทนายแจ้งให้จขก.ปรับพื้นที่ไว้สำหรับตลาด ซึ่งขจก.ลงดินเพิ่ม100เที่ยวเป็นเงินหลายหมื่นบาท ตัดต้นไม้ ปรับพื้นที่ให้เรียบร้อย ระหว่างรอหมดสัญญา จขก.ได้เจรจาตกลงปากเปล่ากับเจ้าของใหม่ว่า ขอส่วนแบ่งค่าเช่าประมาณหนึ่งในสี่ของรายได้ต่อเดือน เพราะใช้พื้นที่ของจขก.ขนาด18.50x100ม.ถ้าไม่เข้าทางนี้ก็จัดตลาดไม่ได้ ซึ่งเจ้าของใหม่ก็โอเค แต่ระหว่างนั้น มีปัญหาได้ค่าเช่าล่าช้า จขก.จึงแจ้งทนายให้หักค่าเช่าส่วนที่ตกลงไว้ให้ ทำให้ทนายรู้ว่า ขจก.ได้ค่าเช่าบางส่วนจากเจ้าของใหม่

ใกล้สิ้นปี สัญญาจะสิ้นสุดลง สัญญาใหม่มีผลบังคับ วันที่1มกราคม2568  จขก.พยามติดต่อสอบถาว่าจะย้ายเข้าพื้นที่วันไหน เพราะแม่ค้าบางส่วนบอกได้ข่าวว่าตลาดจะไม่ย้าย อยู่ที่เดิม ทำให้ จขก.ต้องการความชัดเจน เพราะลงทุนไปเยอะและมีคนมาติดต่อเช่าก็ปฏิเสธเพราะติดทำสัญญาแล้ว

จนกระทั่ง31ธ.ค2567คุณพ่อจึงโทรติดต่อได้ ทนายแจ้งว่าแม่เสีย ขอเลื่อนเข้าพื้นที่เพราะต้องย้ายของ และพูดว่าเจ้าจขก.ก็ได้ส่วนแบ่งค่าเช่าจากเจ้าของใหม่อยู่แล้ว จึงขอเลื่อนไปก่อนโดยไม่มีกำหนด ซึ่งทางขจก.เมื่อได้ยินดังนั้น ซึ่งเป็นเจ้าของพยายามโทรติดต่อเพื่อพูดคุย จะแจ้งแค่ว่ายังไม่ย้ายแล้วจบ แบบนี้ไม่เคลียร์ สัญญาทำแล้ว เราลงทุนไปเยอะ ปฏิเสธคนเช่ารายอื่นและที่ทางไม่ใช่ราคาบาทสองบาท ที่ต้องรอตามเก็บจากใคร มันไม่แฟร์กับเรา

จนวันที่15ม.ค จึงได้ส่งข้อความทางไลน์ถึงทั้งเจ้าของใหม่และทนายเพื่อเจรจา เพราะจขก.ไม่ได้รับค่าเช่า ที่จ่ายทุกวันที่2ของเดือน และเดือนมกราคม ทนายทำสัญญาไว้แล้ว แต่โอนค่าเช่าทั้งหมดให้เจ้าของใหม่ตามเดิม ทั้งที่ทำสัญญาใหม่และมีผลบังคับใช้แล้ว โดยไม่สนใจว่า จขก.ได้รับค่าเช่าส่วนแบ่งหรือไม่ และบอกว่าไม่รู้ว่าคุยกับเจ้าของใหม่ว่ายังไง ต้องไปตามกับเค้า

จขก.พยายามติดต่อตลอดตั้งแต่วันที่15ม.ค ซึ่งทั้งเจ้าของใหม่ ส่งสัญญาให้ดูและทนายอ่านข้อความว่าให้ติดต่อมา อ่านแต่ไม่ตอบกลับ 

จนวันที่1กุมภาพันธ์2568 จึงสามารถโทรคุยกับภรรยาทนายได้ซึ่งคำตอบที่ได้คือเจ๊โดนบีบให้อยู่ตรงนั้น ไม่ย้ายแล้ว เหตุผลที่พอรู้มาคือร้านที่เจ้าของใหม่ว่าจะสร้างด้านหน้าเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง ยังไม่ขยาย จึงน่าจะทำให้ เค้ามองว่าตลาดอยู่ต่อที่เดิมได้

แล้วบอก จขก.ว่าจะยกเลิกสัญญา ค่าเช่าก็ไปตามกับเจ้าของใหม่ ทั้งที่ใช้พื้นที่ของจขก.ตลอดมา ร่วมกันทำธุรกิจ จ่ายค่าเช่ากัน ทั้งที่ใช้พื้นที่ของจขก.เป็นไร่สองไร่ด้วยซ้ำ จอดตรงไหนก็ไม่ว่า ถ้าไม่เข้าทางนี้ ก็ทำตลาดไม่ได้เลย แต่กลับเพิกเฉยทั้งคู่และค่าเช่าเจ้าของใหม่เก็บหมด

สัญญาใหม่ที่ทำ ทนายบอกจะยกเลิก บอกว่าให้ตามค่าเช่ากับเจ้าของใหม่ ซึ่งถ้าเค้าอ่านไลน์ไม่ตอบ โทรไม่รับ เราก็ตามค่าเช่าไม่ได้ และบอกว่าถ้าไม่ให้ผ่านทาง ก็ปิดเลย จะหาทางเข้าออกในพื้นที่นั้นเอง ไม่ก็เก็บค่าจอดกับลูกค้าที่มาซื้อของเอง

จึงขอคำแนะนำและสอบถามว่า

1.จะส่งจดหมายทวงถามค่าเช่าไปถึงทนายเป็นลายลักษณ์อักษร นอกจากนี้ สามารถทำอะไรได้อีกค่ะ มีขั้นตอนแบบไหน เพื่อให้เค้ารับผิดชอบค่าเช่า หากตามกับเจ้าของใหม่ไม่ได้ เค้าเป็นทนาย อยากได้คำแนะนำ ขั้นตอนที่รัดกุมค่ะ

2.กับเจ้าของใหม่ ไม่ได้ทำสัญญากับจขก.ก็จริง แต่เงินที่รับมา มาจากการใช้พื้นที่ของจขก.สามารถดำเนินการอะไรได้บ้างคะ

ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำแนะนำค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่