เครดิตแหล่งข่าว/เจ้าของบทความโดย
https://www.bangkokbiznews.com/world/1164455#google_vignette
เปิด 10 บริษัท โกย ‘กำไร’ มากสุดในโลก ปี 2024 อันดับ 1 คือ ‘ซาอุดี อารามโก’ ทำกำไร 1.2 แสนล้านดอลลาร์ ใน 50 บริษัทที่มีกำไรสูงสุด มี 14 บริษัทที่อยู่ในอุตสาหกรรมการเงิน
เว็บไซต์ฟอร์จูนได้เปิดเผยว่าทั้งปี 2567 ที่ผ่านมา บริษัทต่างๆ ที่อยู่ในรายชื่อ 500 บริษัทที่ใหญ่ที่สุดของโลกในปีนี้ มีรายได้เพิ่มขึ้น 0.1% จากปีก่อนหน้า โดยมียอดรายได้รวมทำลายสถิติที่ 41 ล้านล้าน ซึ่งรายได้ของบริษัทที่ใหญ่ที่สุด 10 อันดับแรกของโลกมีรายได้อยู่ที่ประมาณ 4.6 ล้านล้านดอลลาร์ต่อปี มากกว่า GDP ของประเทศต่างๆ เช่น ญี่ปุ่นและเยอรมนี
“วอลมาร์ท” (Walmart) ยังคงครองอันดับ 1 เป็นปีที่ 11 ติดต่อกัน ในการมีรายได้มากที่สุดในโลก ในปี 2567 อยู่ที่ 6.4 แสนล้านดอลลาร์ ลดลง 6% โดยมีกำไร 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ลดลง 32% จากปีก่อนหน้า
ส่วนอันดับที่ 2 คือ “อเมซอน” (Amazon) ที่มีมูลค่าบริษัทใหญ่ขึ้นจากปีก่อนที่อยู่ในอันดับที่ 4 ในปี 2567 มีรายได้อยู่ที่ 5.7 แสนล้านดอลลาร์ ลดลง 11%จากปีก่อนหน้า โดยมีกำไรลดลงเหลือ 3 หมื่นล้านดอลลาร์
ส่วนซาอุดีอารามโก (Saudi Aramco) บริษัทน้ำมันแห่งชาติของซาอุดีอาราเบีย ซึ่งเป็นบริษัทที่สามารถทำกำไรได้มากที่สุดในโลกเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน อยู่ที่ 1.2 แสนล้านดอลลาร์ ด้วยปริมาณสำรองน้ำมันที่มากที่สุดในโลกและต้นทุนการผลิตของ Saudi Aramco อยู่ที่ 3 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลซึ่งมีต้นทุนที่ต่ำกว่าผู้ผลิตน้ำมันในตะวันตก ทำให้บริษัทมีกำไรมากกว่าบริษัทอื่นๆ ในโลก
แอปเปิล (Apple) เป็นบริษัทเทคโนโลยีจากสหรัฐที่สามารถทำกำไรได้มากที่สุดเป็นอันดับ 2 โดยทำกำไรไปได้ 9.7 หมื่นล้านดอลลาร์
ใน 50 บริษัทที่มีกำไรสูงสุด มี 14 บริษัทที่อยู่ในอุตสาหกรรมการเงิน รองลงมาคือ 12 บริษัทในกลุ่มพลังงาน และ 8 บริษัทในกลุ่มเทคโนโลยี
ปี 2567 เป็นครั้งแรกใน 500 บริษัทแรกที่มีบริษัทจากสหรัฐ 139 บริษัทสามารถทำรายได้มากกว่าบริษัทจากจีน 133 บริษัท โดยสหรัฐสร้างรายได้รวม 13.8 ล้านล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 6% จากปีก่อน
เปิด 10 บริษัท ‘ผลกำไร’ มากที่สุดในโลก ปี 2024
https://www.bangkokbiznews.com/world/1164455#google_vignette
เปิด 10 บริษัท โกย ‘กำไร’ มากสุดในโลก ปี 2024 อันดับ 1 คือ ‘ซาอุดี อารามโก’ ทำกำไร 1.2 แสนล้านดอลลาร์ ใน 50 บริษัทที่มีกำไรสูงสุด มี 14 บริษัทที่อยู่ในอุตสาหกรรมการเงิน
เว็บไซต์ฟอร์จูนได้เปิดเผยว่าทั้งปี 2567 ที่ผ่านมา บริษัทต่างๆ ที่อยู่ในรายชื่อ 500 บริษัทที่ใหญ่ที่สุดของโลกในปีนี้ มีรายได้เพิ่มขึ้น 0.1% จากปีก่อนหน้า โดยมียอดรายได้รวมทำลายสถิติที่ 41 ล้านล้าน ซึ่งรายได้ของบริษัทที่ใหญ่ที่สุด 10 อันดับแรกของโลกมีรายได้อยู่ที่ประมาณ 4.6 ล้านล้านดอลลาร์ต่อปี มากกว่า GDP ของประเทศต่างๆ เช่น ญี่ปุ่นและเยอรมนี
“วอลมาร์ท” (Walmart) ยังคงครองอันดับ 1 เป็นปีที่ 11 ติดต่อกัน ในการมีรายได้มากที่สุดในโลก ในปี 2567 อยู่ที่ 6.4 แสนล้านดอลลาร์ ลดลง 6% โดยมีกำไร 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ลดลง 32% จากปีก่อนหน้า
ส่วนอันดับที่ 2 คือ “อเมซอน” (Amazon) ที่มีมูลค่าบริษัทใหญ่ขึ้นจากปีก่อนที่อยู่ในอันดับที่ 4 ในปี 2567 มีรายได้อยู่ที่ 5.7 แสนล้านดอลลาร์ ลดลง 11%จากปีก่อนหน้า โดยมีกำไรลดลงเหลือ 3 หมื่นล้านดอลลาร์
ส่วนซาอุดีอารามโก (Saudi Aramco) บริษัทน้ำมันแห่งชาติของซาอุดีอาราเบีย ซึ่งเป็นบริษัทที่สามารถทำกำไรได้มากที่สุดในโลกเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน อยู่ที่ 1.2 แสนล้านดอลลาร์ ด้วยปริมาณสำรองน้ำมันที่มากที่สุดในโลกและต้นทุนการผลิตของ Saudi Aramco อยู่ที่ 3 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลซึ่งมีต้นทุนที่ต่ำกว่าผู้ผลิตน้ำมันในตะวันตก ทำให้บริษัทมีกำไรมากกว่าบริษัทอื่นๆ ในโลก
แอปเปิล (Apple) เป็นบริษัทเทคโนโลยีจากสหรัฐที่สามารถทำกำไรได้มากที่สุดเป็นอันดับ 2 โดยทำกำไรไปได้ 9.7 หมื่นล้านดอลลาร์
ใน 50 บริษัทที่มีกำไรสูงสุด มี 14 บริษัทที่อยู่ในอุตสาหกรรมการเงิน รองลงมาคือ 12 บริษัทในกลุ่มพลังงาน และ 8 บริษัทในกลุ่มเทคโนโลยี
ปี 2567 เป็นครั้งแรกใน 500 บริษัทแรกที่มีบริษัทจากสหรัฐ 139 บริษัทสามารถทำรายได้มากกว่าบริษัทจากจีน 133 บริษัท โดยสหรัฐสร้างรายได้รวม 13.8 ล้านล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 6% จากปีก่อน