หุ้นไทยร่วงหนัก เปิดปี 1400 ปิดเดือน 1315 สะท้อนแนวโน้มใหม่ คนไทยฉลาดขึ้น ไม่ลงทุนในไทยแล้ว?

กระทู้สนทนา
หุ้นไทยร่วงหนัก เปิด 1400 ปิด 1315 สะท้อนแนวโน้มใหม่ คนไทยฉลาดขึ้น ไม่ลงทุนในไทยแล้ว?

ตลาดหุ้นไทยในวันแรกเปิดตัวอย่างแข็งแกร่งที่ระดับ 1400 จุด แต่กลับปิดตลาดที่ 1315 จุด ในสิ้นเดือน หายไปถึง 85 จุดภายในเดือนเดียว แนวโน้มที่น่าสนใจนี้สะท้อนอะไร? และทำไมกระแสเงินทุนจึงไหลออกจากตลาดไทยมากขึ้นเรื่อย ๆ

1. นักลงทุนไทยเริ่มตาสว่าง หันไปลงทุนต่างประเทศ

ในอดีต ตลาดหุ้นไทยเคยเป็นที่พึ่งของนักลงทุนในประเทศ แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา นักลงทุนรายย่อยเริ่มมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการลงทุนมากขึ้น รวมถึงมีช่องทางการลงทุนในต่างประเทศที่สะดวกขึ้น เช่น หุ้นต่างประเทศ กองทุน ETFs ที่อ้างอิงตลาดสหรัฐฯ และยุโรป ซึ่งให้ผลตอบแทนดีกว่าและมีความมั่นคงมากกว่าตลาดไทย

ปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนมองหาทางเลือกใหม่ ได้แก่
    •    เศรษฐกิจไทยโตช้า เมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน
    •    นโยบายการเงินที่ไม่น่าสนใจ ทำให้ตลาดทุนขาดเสน่ห์
    •    ความไม่แน่นอนทางการเมืองและนโยบายภาครัฐ ที่อาจส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจ

2. นักลงทุนต่างชาติขายหนัก เพราะไม่มั่นใจในอนาคตไทย

แรงขายที่เกิดขึ้นในตลาดวันนี้ ส่วนใหญ่มาจากนักลงทุนต่างชาติที่เทขายหุ้นไทยออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจสะท้อนมุมมองเชิงลบต่อเศรษฐกิจไทยในระยะยาว ทั้งจากปัจจัยโครงสร้างเศรษฐกิจที่ยังพึ่งพาการท่องเที่ยวสูง การขาดแคลนแรงงานคุณภาพ และแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่ยังไม่น่าสนใจ

3. หุ้นไทยไม่ใช่ “ทางรอด” อีกต่อไป?

ในอดีต หุ้นไทยเคยเป็นแหล่งทำกำไรของนักลงทุน แต่วันนี้ ความเสี่ยงสูงขึ้นมากเมื่อเทียบกับโอกาส ทำให้หลายคนเริ่มมองหาตลาดอื่นแทน เช่น เวียดนาม อินเดีย หรือแม้แต่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า

คนที่ได้ประโยชน์จากการตกของหุ้นไทยคือ นักลงทุนที่ทำกำไรจากการเก็งกำไรขาลง ซึ่งหลัก ๆ มีอยู่ 2 กลุ่มใหญ่
    1.    คนที่ทำ Short Selling (ขายชอร์ต) – นักลงทุนที่ยืมหุ้นมาขายก่อน แล้วซื้อคืนเมื่อราคาลดลง พวกเขาจะได้กำไรจากส่วนต่างของราคาขายและราคาซื้อคืน
    2.    คนที่ซื้อ Put Options – นักลงทุนที่ซื้อออปชันประเภท Put ซึ่งให้สิทธิ์ขายหุ้นในราคาที่กำหนดล่วงหน้า ถ้าหุ้นร่วง พวกเขาจะสามารถขายหุ้นในราคาที่สูงกว่าตลาด ทำให้มีกำไร

นอกจากนี้ กองทุนที่เน้นกลยุทธ์เชิงลบ เช่น Hedge Funds และนักลงทุนที่ถือครองสินทรัพย์ปลอดภัย (เช่น ทองคำ ดอลลาร์) ก็อาจได้รับผลประโยชน์จากการไหลออกของเงินทุนจากตลาดหุ้นไทยเช่นกัน




คำถามสำคัญคือ “หุ้นไทยกำลังหมดเสน่ห์จริงหรือ?” หรือว่านี่เป็นเพียงช่วงเวลาหนึ่งที่ตลาดต้องเผชิญก่อนกลับมาฟื้นตัว? แต่ที่แน่ ๆ นักลงทุนไทยจำนวนไม่น้อยเริ่มเลือก “ไม่ลงทุนในไทย” แล้ว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่