อยากหาคนมาช่วยทำงานร้านอาหารเพิ่ม เพราะที่ร้านขาดคน

        เล่าก่อนนะคะ ที่บ้านเราน่ะทำธุรกิจส่วนตัว คือขายอาหารริมทาง เราทำกันเองมีคนทำอยู่ 6 คน คือครอบครัวเราเองมี พ่อ แม่ อา น้า ตัวเรากับลูกจ้างอีก 1 คน วันนึงมีคนรู้จักขายของชำอยู่ที่ตลาดที่เราไปซื้อของประจำ (ปกติคุณแม่เราจะเป็นคนไปซื้อของ) เขาถามว่า อยากมาเช่าขายของชำที่ร้านเขาไหม ก็คือขายในบ้านเขานั่นแหละเขาให้เช่าขายของในร้าน ตัวเขาอยากจะมีเวลาได้ไปใช้ชีวิตวัยเกษียณบ้าง (ร้านขายของชำเป็นร้านส่ง เงินที่ขายได้แต่ละวันประมาณ 30,000 บาท/วัน ขายทุกวันไม่มีวันหยุด) ซึ่งครอบครัวเรายังมีหนี้และต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายอีกค่อนข้างเยอะ เรากับแม่จึงตกลงจะเอาร้านของชำนั้น ซึ่งพ่อเราก็ไม่ค่อยจะเห็นด้วยเท่าไหร่ เพราะเขาบอกว่าขายของชำมันได้กำไรน้อย แต่เรากับแม่มองว่าถึงจะได้น้อยแต่มันก็ดีกว่าจะให้มีแหล่งรายได้แค่ที่เดียว เพราะว่ามันจะมีอยู่ช่วงนึงที่พ่อเราป่วยจนลุกไปขายของไม่ได้ (พ่อเราเป็นคนผัดอาหาร) ซึ่งมันทำให้ที่ร้านได้หยุดจึงขาดรายได้ เรากับแม่ก็เลยตกลงเช่าร้านของชำ แม้ว่าพ่อจะไม่ค่อยพอใจก็ตาม
       เมื่อมาขายของชำ (แม่เรามาขายคนเดียว ได้ลูกจ้างเก่าของคนรู้จักมาเป็นลูกจ้างช่วยขายด้วย) ส่วนเราก็ช่วยขายที่ร้านอาหารและทำในส่วนของแม่แทนด้วย ปรากฎว่าที่ร้านของชำขายดีมาก วันนึงขายได้ไม่ต่ำกว่า 30,000 บาท/วัน แต่แล้วมันก็เกิดปัญหาที่ไม่คาดคิดขึ้น คือ จะมีโครงการมาทำ MRT (รถไฟฟ้าใต้ดิน) ขึ้นซึ่งเขาต้องมาก่อสร้างและทำทาง MRT  ยาวมาจนถึงหน้าร้านชำเราเลย ซึ่งจะต้องมีการเจาะพื้น ทำให้ไม่แน่ใจว่าร้านชำจะยังขายได้อยู่รึเปล่า แต่เราก็จะขายจนถึงวันที่เขาบอกว่าขายไม่ได้นั่นแหละ พยายามเก็บให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
       ส่วนร้านอาหารที่เราขายกันกับคนที่เหลือทุกอย่างก็ยังดำเนินไปตามปกติ แต่อาของเราเขามีปัญหาคือ เขาต้องหยุดงานบ่อยเพื่อไปช่วยแฟนเขาทำงาน (เราไม่แน่ใจว่าแฟนอาทำงานอะไร แต่อาเราต้องไปช่วยเขาทำบัญชี เพราะเขาไม่ยอมจ้างคนมาทำงานส่วนนี้) ซึ่งอาเราหยุดบ่อยมาก จนที่ร้านขาดคนไปอีกเลยต้องหยุดบ่อยๆ ตามอา เพราะแต่ละคนจะมีหน้าที่คือ พ่อผัดข้าว อาตักก๋วยเตี๋ยว น้าตักข้าวราด เราเดินเสิร์ฟ ส่วนลูกจ้างอีกคนช่วยจัดใส่ถุงส่งให้ลูกค้า พออาของเราหยุดบ่อย คนมันก็จะขาด เพราะว่าเราตักข้าวช้าและทำไม่ทัน ถ้าเรามาตักข้าวก็จะไม่มีคนมาเดินเสิร์ฟอาหารที่โต๊ะ แต่แล้วอยู่มาวันนึงอาของเราก็บอกว่าเขาจะลาออก เพราะเขาปวดหลังปวดขาทำต่อไม่ไหว เราก็แย่เลยทีนี้ ซึ่งตอนนี้อาเราออกไปแล้วและที่ร้านก็ได้หยุดขายด้วย เราก็เลยจะไปช่วยงานแม่ที่ร้านของชำจนกว่าจะหาคนเพิ่มได้
       ทีนี้พ่อเราเขาก็ประมาณว่าอาออกไปแล้ว เขาก็จะขายต่อ โดยมีคนทำแค่ พ่อ เรา น้าและลูกจ้าง ซึ่งเราบอกพ่อเราว่าเราทำไม่ไหว เพราะว่า เราต้องออกมาช่วยจัดร้าน ขายของแล้วยังต้องเก็บร้านอีก ซึ่งมันหนักมากสำหรับเรา แต่เรารู้สึกเหมือนพ่อเราอยากจะเอาชนะอาของเราว่า ไม่มีกูก็อยู่ได้ โดยไม่สนใจเลยว่าเราจะเหนื่อยแค่ไหน แถมยังบอกเราอีกว่า อย่าอ่อนแอนัก เขาบอกว่าถ้าร้านอาหารหยุด รายจ่ายทั้งหมดจะไปตกที่ร้านของชำ เราเห็นด้วยกับคำพูดของพ่อนะ แต่เราก็รู้สึกเสียใจที่พ่อพูดกับเราแบบนั้น 

คำถามต่อไปนี้เราอยากให้เพื่อนๆช่วยเราหาทางออกหน่อยค่ะ
1. จะหาคนเพิ่มยังไงดี โดยที่ไม่ต้องประกาศหาคนในเว็บไซต์ เรากลัวจะได้คนแบบเป็นมิจฉาชีพหรือผู้ร้ายหนีคดีอะค่ะ
2. ช่วงหลังมานี้แม่กับพ่อของเราเขาทะเลาะกันบ่อย เพราะพ่อต้องการจะให้แม่มาช่วยงานที่ร้าน แต่แม่เราก็ไม่ยอมเพราะร้านของชำมันหยุดไม่ได้ พ่อเราเลยจะเอาเราไปช่วยงานมีคนทำแค่ไหนก็แค่นั้น แล้วแม่เราก็ไม่ยอมเหมือนกัน เพราะกลัวว่าเราจะรับมือลูกค้าไม่ได้ (เพราะลูกค้าที่ร้านเราก็ไม่ใช่เล่นๆคนเยอะ แถมยังเคยมีเรื่องมีราวจนเกือบต่อยกันที่ร้านเราด้วย) เราควรจะพูดคุยกับพ่อแม่ยังไงดี?
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่