ศรีสะเกษแห่โพสต์ จะไล่หนูกี่โมง แชร์ภาพ ‘ทักษิณ’ ถ่ายคู่ ‘อนุทิน’ ปลุกตาสว่างกันสักที!
https://www.matichon.co.th/social/news_5017471

ศรีสะเกษแห่โพสต์ ไล่หนูกี่โมง แชร์ภาพ ‘ทักษิณ’ ถ่ายคู่ ‘อนุทิน’ ปลุกตาสว่างกันสักที!
 
ไล่หนูกี่โมง – จากกรณี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ ปราศรัยช่วยหาเสียงในการเลือกตั้งนายก อบจ. กล่าวตอนหนึ่งว่า ขอให้เลือกผู้สมัครนายก อบจ.พรรคเพื่อไทย และเลือกตั้งรอบที่แล้ว ได้ใช้ยุทธการ “ไล่หนูตีงูเห่า” ได้ สส.ศรีสะเกษ มา 7 เขต จากทั้งหมด 9 เขต แต่มารอบนี้นายก อบจ. ด้วย พร้อม ส.ส. ทั้งหมด 9 เขต
 
ปรากฎว่าสื่อสังคมออนไลน์ ในจังหวัดศรีสะเกษ อาทิ ศรีสะเกษ sisaket today และ si sa ket ให้ความสนใจนำภาพ นายทักษิณ ถ่ายภาพกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมตั้งคำถามว่า บ่อเกี่ยวกับนายก อบจ.เลย, เข้าใจผิดบ่นี่, ไล่หนูกี่โมง และตาสว่างกันสักทีเถอะพี่น้องชาวศรีสะเกษ
 
ซึ่งการถ่ายภาพคู่ แบบนี้ และนำพรรคภูมิใจไทย เข้าร่วมรัฐบาล เป็นการขัดกับสิ่งที่นายทักษิณ บอกว่า “ไล่หนูตีงูเห่า”

---

นิด้าโพลเผย กว่า 59% ไม่เห็นด้วยนโยบายลงทุนทั้งสถานบันเทิงครบวงจรและกาสิโน
https://www.matichon.co.th/politics/news_5017716

นิด้าโพลเผย กว่า 59% ไม่เห็นด้วยนโยบายลงทุนทั้งสถานบันเทิงครบวงจรและกาสิโน
 
เมื่อวันที่ 26 มกราคม ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ได้เปิดเผยผลการสำรวจของประชาชน เรื่อง “การพนันร้อน ๆ มาแล้วจ้า …” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 20-21 มกราคม 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ รวมจำนวนทั้งสิ้น 1,310 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อเรื่องสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) การสำรวจอาศัยการสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ “นิด้าโพล” สุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-stage Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความเชื่อมั่น ร้อยละ 97.0
 
จากการสำรวจเมื่อถามความคิดเห็นของประชาชนต่อนโยบายการอนุญาตการลงทุนสถานบันเทิงครบวงจรที่รวมกาสิโน พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 59.16 ระบุว่า ไม่เห็นด้วยทั้งสถานบันเทิงครบวงจรและกาสิโน รองลงมา ร้อยละ 28.93 ระบุว่า เห็นด้วยทั้งสถานบันเทิงครบวงจรและกาสิโน ร้อยละ 8.63 ระบุว่า เห็นด้วยกับสถานบันเทิงครบวงจร ที่ไม่มีกาสิโน ร้อยละ 1.68 ระบุว่า อย่างไรก็ได้ ไม่มีความเห็น และร้อยละ 1.60 ระบุว่า เห็นด้วยกับกาสิโนเพียงอย่างเดียว
สำหรับความคิดเห็นของประชาชนต่อนโยบายการแก้กฎหมายให้การพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 58.32 ระบุว่า ไม่เห็นด้วยเลย รองลงมา ร้อยละ 19.92 ระบุว่า เห็นด้วยมาก ร้อยละ 11.45 ระบุว่า ค่อนข้างเห็นด้วย และร้อยละ 10.31 ระบุว่า ไม่ค่อยเห็นด้วย
 
ท้ายที่สุดเมื่อถามความคิดเห็นของประชาชนต่อการทำประชามติเรื่องสถานบันเทิงครบวงจรที่มีกาสิโน และการพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 51.07 ระบุว่า ไม่เห็นด้วยกับการทำประชามติทั้งเรื่องสถานบันเทิงครบวงจรที่มีกาสิโน และเรื่องการพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย รองลงมา ร้อยละ 37.86 ระบุว่า เห็นด้วยกับการทำประชามติ ทั้งเรื่องสถานบันเทิงครบวงจรที่มีกาสิโน และเรื่องการพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย ร้อยละ 5.11 ระบุว่า เห็นด้วยกับการทำประชามติ เฉพาะเรื่องสถานบันเทิงครบวงจรที่มีกาสิโน ร้อยละ 3.89 ระบุว่า เห็นด้วยกับการทำประชามติ เฉพาะเรื่องการพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย ร้อยละ 1.99 ระบุว่า อย่างไรก็ได้ ไม่มีความเห็น และร้อยละ 0.08 ระบุว่า ไม่ตอบ
 
เมื่อพิจารณาลักษณะทั่วไปของตัวอย่าง พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 8.55 มีภูมิลำเนาอยู่กรุงเทพฯ ร้อยละ 18.63 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคกลาง ร้อยละ 17.86 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคเหนือ ร้อยละ 33.35 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร้อยละ 13.82 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคใต้ และร้อยละ 7.79 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคตะวันออก โดยตัวอย่าง ร้อยละ 48.09 เป็นเพศชาย และร้อยละ 51.91 เป็นเพศหญิง
 
ตัวอย่าง ร้อยละ 12.37 อายุ 18-25 ปี ร้อยละ 17.94 อายุ 26-35 ปี ร้อยละ 18.24 อายุ 36-45 ปี ร้อยละ 26.64 อายุ 46-59 ปี และร้อยละ 24.81 อายุ 60 ปีขึ้นไป โดยตัวอย่าง ร้อยละ 96.18 นับถือศาสนาพุทธ ร้อยละ 2.98 นับถือศาสนาอิสลาม และร้อยละ 0.84 นับถือศาสนาคริสต์ และศาสนาอื่น ๆ
 
ตัวอย่าง ร้อยละ 37.25 สถานภาพโสด ร้อยละ 60.46 สมรส และร้อยละ 2.29 หม้าย หย่าร้าง แยกกันอยู่ โดยตัวอย่าง ร้อยละ 0.61 ไม่ได้รับการศึกษา ร้อยละ 17.56 จบการศึกษาประถมศึกษา ร้อยละ 36.56 จบการศึกษามัธยมศึกษาหรือเทียบเท่า ร้อยละ 8.70 จบการศึกษาอนุปริญญาหรือเทียบเท่า ร้อยละ 28.94 จบการศึกษาปริญญาตรีหรือเทียบเท่า และร้อยละ 7.63 จบการศึกษาสูงกว่าปริญญาตรี
 
ตัวอย่าง ร้อยละ 10.92 ประกอบอาชีพข้าราชการ/ลูกจ้าง/พนักงานรัฐวิสาหกิจ ร้อยละ 17.71 ประกอบอาชีพพนักงานเอกชน ร้อยละ 20.46 ประกอบอาชีพเจ้าของธุรกิจ/อาชีพอิสระ ร้อยละ 11.98 ประกอบอาชีพเกษตรกร/ประมง ร้อยละ 14.73 ประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป/ผู้ใช้แรงงาน ร้อยละ 19.54 เป็นพ่อบ้าน/แม่บ้าน/เกษียณอายุ/ว่างงาน และร้อยละ 4.66 เป็นนักเรียน/นักศึกษา
 
ตัวอย่าง ร้อยละ 19.92 ไม่มีรายได้ ร้อยละ 3.36 รายได้เฉลี่ยต่อเดือนไม่เกิน 5,000 บาท ร้อยละ 14.96 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 5,001-10,000 บาท ร้อยละ 31.76 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 10,001-20,000 บาท ร้อยละ 10.69 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 20,001-30,000 บาท ร้อยละ 5.11 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 30,001-40,000 บาท ร้อยละ 3.59 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 40,001-50,000 บาท ร้อยละ 1.60 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 50,001-60,000 บาท ร้อยละ 0.23 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 60,001-70,000 บาท ร้อยละ 0.15 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 70,001-80,000 บาท ร้อยละ 0.46 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 80,001 บาทขึ้นไป และร้อยละ 8.17 ไม่ระบุรายได้

---

โรม ควันออกหู ซัดมี ‘หนู’ เป็นรมต.แทนที่จะตัดไฟแก๊งคอล ดันพูดไม่ใช่มหาดพม่า
https://www.matichon.co.th/politics/local-election/news_5017458
 
“โรม” ปราศรัยควันออกหู ซัดมี ‘หนู’ ตัวหนึ่ง เป็น รมต.แทนที่จะตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ดันมาพูดมั่วๆ บอกเป็น รมต.มหาดไทย ไม่ใช่ มหาดพม่า บอกรู้นะแซะพรรค “ประชาชน” เย้ย นายก อบจ.ระยองคนก่อน อยู่มา 3 สมัย พาระยองมาไกลแค่นี้ ชี้ถึงเวลาต้องเปลี่ยนแล้ว

เมื่อวันที่ 25 มกราคม พรรคประชาชน นำโดย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน , นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรค และนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรค จัดปราศรัยใหญ่ช่วยนายทรงธรรม สุขสว่าง ผู้สมัครนายก อบจ.ระยอง หาเสียงที่ลานน้ำพุ สตาร์ ไอทีเซ็นเตอร์

ช่วงหนึ่ง นายรังสิมันต์ ขึ้นปราศรัยอย่างดุเดือดว่า เดี๋ยวฝ่ายค้านคงมีการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจแน่นอน ก่อนจะมีเลือกตั้ง อบจ. เรารู้ใช่ไหมว่าตระกูลไหนมากบารมีที่สุดในระยอง เรารู้ว่าตระกูลไหนที่ครองพื้นที่ ไม่ว่าการเมืองระดับท้องถิ่นหรือระดับชาติ แล้วถามว่าตลอดยุคสมัยของบ้านใหญ่บ้านนี้ ระยองมันดีกว่าเดิมหรือไม่ ไม่ดีกว่าเดิมเลย ปัญหาที่ไม่ควรเป็นปัญหาก็เป็นปัญหา โครงการที่ไม่ควรจะเป็นปัญหา ก็เป็นปัญหาได้ ที่ผ่านมาระยองซึ่งควรดีกว่านี้ งบประมาณนี้มากมายขนาดนี้ แต่ทำไมถึงไม่ได้ถูกใช้เพื่อประโยชน์สุขของชาวระยอง วันนี้พวกเราต้องบอกความจริงให้พี่น้องประชาชนทราบ การเมืองระดับชาติ เมื่อผ่านการเลือกตั้งมาปี 2566 เราจึงพบว่าบ้านใหญ่ได้สูญพันธุ์ไปจากการเลือกตั้งไปแล้ว

“วันนี้เป็นการเลือกตั้งท้องถิ่น อยู่มาแล้ว 3 สมัย นี่มันนานนะ ถ้าทำได้แค่นี้ พาระยองมาได้แค่นี้ ก็ถึงเวลาเปิดคนใหม่ให้มันเต็มถังไปเลย” นายรังสิมันต์ กล่าวถึง นายก อบจ.ระยองคนก่อน
 
นายรังสิมันต์ กล่าวว่า การเมืองประเทศไทย แบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรก ไม่ว่าจะเป็นพรรคการเมืองไหน แต่กลุ่มนี้จะมีอยู่จุดหนึ่งที่ร่วมกัน คือเป็นนักการเมืองแบบเดิม เชื่อในเรื่องของระบบอุปถัมภ์ ขณะที่พรรคการเมืองอย่างพรรคประชาชน ที่มีจุดเริ่มต้นมาจากพรรคอนาคตใหม่ เราเชื่อว่าวันนี้การเมืองได้เปลี่ยนไปแล้ว สิ่งที่เราต้องทำคือจัดการกับนักการเมืองแบบนี้ เราจึงเห็น ไม่ว่าจะเป็นช้างหรือเป็นหนู นักการเมือง 2 สัตว์ตัวนี้ มีความคิดคล้ายๆกัน คือเป็นการเมืองที่คิดแต่ตัวเองจะอยู่ในอำนาจให้มากที่สุด ขอให้มีงบประมาณ แต่ใช้เงินเพื่อประโยชน์สุขของประชาชนหรือไม่ ไม่ต้องถามเลย เพราะมันไม่มี

“มันมีหนูตัวหนึ่ง ไม่รู้ประเทศไหน เป็นรัฐมนตรี เขาบอกให้แก้ปัญหาคอลเซ็นเตอร์ วันนี้ประเทศไทยเป็นแบตเตอรีให้กับพวกคอลเซ็นเตอร์ หนูตัวนี้แทนที่จะตัดไฟ ก็ไปพูดมั่วๆ บอกว่าตัวเองเป็นรัฐมนตรีมหาดไทย ไม่ใช่รัฐมนตรีมหาดพม่า รู้แหละว่าต้องการแซะพรรคประชาชน แต่วันนี้ตกลงเป็นรัฐมนตรีคอลเซ็นเตอร์ใช่หรือไม่ ผมพูดให้พี่น้องได้เข้าใจ ว่าการเมืองวันนี้คือการเมืองที่เราต้องการเปลี่ยนแปลง” นายรังสิมันต์ กล่าว

นายรังสิมันต์ ระบุว่า เราต้องการพลังสีส้มในทุกระดับ ระดับชาติพี่น้องมีตน พี่น้องมีนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน และอีกหลายคน วันนี้ขอได้หรือไม่ ให้การเมืองระดับท้องถิ่น งบประมาณในท้องถิ่นได้ใช้เพื่อพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง เราจะทำให้ระยองไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป