เรื่องเกิดเมื่อประมาณสองปีก่อนค่ะ ยาวนิดนึงขออภัยด้วยค่ะ
พอดีมีรถยนต์ของทางบ้านต้องการปล่อยเช่า (ซื้อมาใช้ในงานกงสีกิจการบ้าน ตอนนั้นได้คันใหม่มาแทน) ทางเราเลยไปแจ้งในกลุ่ม/เพจต่างๆที่คุ้นเคย จนมีผู้เช่าคนนึงติดต่อมาแจ้งว่า รู้จักกับน้องสมัยเรียนเรา
ตกลงสัญญาเช่าระยะเวลาหนึ่งถึงสามเดือน ตอนนั้นแจ้งว่ารถเขาส่งซ่อม ไม่มีรถไปทำงาน มัดจำ 10,000 บาท ค่าเช่าล่วงหน้า 1 เดือน 8,000 บาท
ก็ได้นำรถไปส่งที่บ้านเขาแถบชานเมืองนนทบุรี (บ้านใหญ่มากค่ะ ราคาน่าจะแพง 5-8 ล้าน) ก็เขาไปเซ็นสัญญาและเอาเอกสารอ้างอิง
1. สำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้าน 2. สำเนาใบขับขี่ ซึ่งเขาเอาของน้องสาวมาให้ แจ้งว่าของเขาถูกยึดเพราะขับรถเร็ว (เราซึ่งไปบ้านเขามาก็เออไว้ใจ ไม่คิดอะไรตรงนี้)
พอเดือนที่สอง สอบถามจะนำรถคืนหรือจะเช่าต่อ เขาบอกขอเช่าต่อ ก็ตกลงแต่ไม่ได้นัดแก้สัญญา พอถึงวันที่ต้องชำระ เกิดการผัดผ่อน ล่าช้า แต่ยังจ่ายภายในเดือนเลยหยวนๆไป
ต่อมา ใช้คำว่า
ลายเริ่มออก พอถึงวันนัดไม่จ่ายไม่อ่านโทรไม่ติด ติดต่อไม่ได้ เรากังวลใจกลัวรถเป็นอะไร เลยทักไปทางไลน์แฟนเขา แฟนเขาอ่านตอนทักไปพอถามเรื่องให้ติดต่อกลับเรื่องเช่ารถ แฟนเขาบล็อคเราทันที เรานี่ว้าวุ่นเลยค่ะ แต่ตกเย็นคนเช่าเขาทักมาบอกติดนั่นนี่ตามประสา (อ้างทำงานหลับลึก ไลน์มีเป็นหมื่นๆข้อความ ไปต่างจังหวัดไม่มีเสียง) เราเลยบอกให้จ่ายเงินด้วยนะ ไม่งั้นจะขอรถคืน เขาเลยเริ่มจ่ายแบบครั้งละ 300-500 มาซึ่งมันไม่มีทางครบยอดในเดือนค่ะ และเริ่มยิดยาวออกไปเป็นทบเดือน ซึ่งทุกครั้งที่เขานัดวันจะติดต่อไม่ได้ทุกช่องทาง
จนเราบอกขอรถคืนประมาณเดือน 5-6 เขาบอกว่าติดปัญหาสารพัด ถ้าเราเอารถคืนเขาจะไม่มีรถทำงาน ไม่มีรับลูก ใจอ่อนค่ะ (เพราะเคยผ่านจังหวะชีวิตที่จะเคยโดนยึดบ้านยึดรถมา) แต่เราบอกงั้นขอค่าปรับนะ ถ้ารอบไหนนัดแล้วเลทจะปรับครั้งละ 100 บาท เขาตกลงว่ากันด้วยดี
พอเอาเข้าจริง ไม่มี ไม่จ่าย เงียบ ส่งข้อความขอปรับ ก็เงียบ และก้ออยากจ่ายเงินวันไหน ก็จ่าย กี่บาทก็จ่าย อยากอ่านก็อ่าน พอเราบอกยอดนี้เหลือเท่านี้นะกับค่าปรับเท่านี้ เขาบอกว่า จะคิดค่าปรับทำไมกัน ถ้ามีจ่ายค่าเช่าก็ไม่ต้องปรับแล้ว
เราขอรถคืน เขาก็มาบอกว่า รถเสียนะ ปัมพ์น้ำไม่ทำงาน ขับไปไหนไม่ได้ จะมาต้องมาลากรถคืนอย่างเดียว เขาจะไม่ซ่อมให้เพราะไม่ใช่ความผิดเขานะ เราเลยเอาสัญญาเช่ามาดู และให้เขาไปอู่...วีดีโอคอลคุยเลย ให้อู่สรุปว่าอาการไหนจากอะไรช่วงไหน สรุปว่าปัมพ์น้ำเกิดจากการใช้งานของเขาที่ไม่ดี ส่วนตรงอื่นมาจากระยะรถเรา เลยแบ่งการซ่อมใครซ่อมมัน พอถึงวันรับรถ (จอดอู่ประมาณสามอาทิตย์ รถหาอะไหล่ยาก) เขาบอกว่าไม่มีเงินจ่ายส่วนนี้ เราอยากเอารถออกมาเลยจ่ายหมดแล้วมีการเซ็นเอกสารรับหนี้ส่งให้ทางไลน์เป็น PDF ไว้
ต่อมา เราจะถามเรื่องรถวันส่งรับรถ เขาบ่ายเบี่ยงให้เราไปเอารถช่วงหลังสองทุ่มตลอด หรือไปตามจุดที่ดูอันตราย โครงการก่อสร้างต่างๆ ซึ่งไม่มีใครในบ้านกล้าไปเอากลัวข้อหาบุกรุก (ครอบครัวบางส่วนและเราก็อยู่ต่างประเทศด้วยช่วงนั้น)
เราเลยไปปรึกษาทนายและได้คำแนะนำมาพร้อม หนังสือทวงถาม ซึ่งช่วงที่รอเอกสาร ด้วยนิสัยเผือกก็ไปเชคประวัติเขาและภรรยา คือมีคดีฉ้อโกง รับเหมางานก่อสร้างมาแล้วไม่ทำยาวเหยียด (ตอนมาติดต่อเช่า เช็คแล้วไม่มีค่ะ) ภรรยาใช้ชีวิตในบริษัทเอกชนกินเที่ยวต่างประเทศฉ่ำๆ เราเลยพยายามคุยกับเจ้าทุกข์หลายๆราย นิสัยเดียวกันไม่มีไม่หนีไม่จ่าย ตำรวจเรียกไม่มาตามนัด บางคดีฟ้องทั้งสามีภรรยาเลยค่ะ และเจ้าทุกข์หลายคนยืนยันว่าเขามีความรู้เรื่องทนายดีมาก และเป็นลูกหลานผู้มีอิทธิพลทางใต้ จึงไม่เกรงกลัว ทำจนเป็นนิสัย
แล้วบังเอิญของบังเอิญ น้องสาวเขาที่เอาเอกสารมาค้ำ ดันเป็นเพื่อนในกลุ่มเพื่อนเราอีกที เราเลยให้เพื่อนช่วยติดต่อให้ สรุปว่าพอน้องสาวเขารู้เขาคงไปถามในกลุ่มครอบครัว ตัวพี่ชายเลยไลน์มาว่า มาตำหนิเรา หาว่าเราใส่ร้าย พร้อมแคปแชทที่เขาคุยกันในพี่น้อง (สรุปพี่ชายคนโตเป็นทนาย) เพื่อนเราเลยให้เบอร์ ให้ไลน์น้องสาวเขามา พอเราทักไปเขาก็บล็อคเราค่ะ เราเลยเออ พอเลย จบ
พอเอกสารทางกฎหมายครบกำหนด เราใช้รถลากไปรับ และจะมีทนายไปด้วย ณ วันนั้น ให้เขาเซ็นเอกสารรับสภาพหนี้ที่คงค้าง โดยให้ชำระงวดแรก 5,000 บาท ที่เหลือ คือเดือนละสามพันจนกว่าจะหมดหนี้ (ยอดนี้เขาเสนอเอง) หากงวดไหนไม่ชำระจะมีค่าปรับ เขาก็เซ็นกลับมาให้วันที่รถลากไปรับ (แต่ทนายไม่ได้ไป ติดงาน)
ณ ปัจจุบัน ชำระมางวดแรก งวดอื่นตามวันที่เซ็นสัญญา ไม่เคยจ่ายตรง ไม่อ่านไม่ตอบ นานๆจะอ่านที พอสรุปยอดค่าปรับไป แรกๆ ก็รับทราบ พอเยอะเขายอดหนี้ไม่ลด บอกว่า แค่กำหนดค่าปรับก็ผิดกฎหมายแล้ว หาทางเล่นแง่กับเรา จะขอจ่ายแค่ต้น เราบอกว่าแค่รวมจ่ายมายังไม่ถึง 1/4 ต้นเลยค่ะ ผ่อนทีละ 500 เดือนละครั้ง
แบบเดิม ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย กินใช้อย่างดี ไม่อ่านไม่ตอบ พอเราโทรไป ก็บอกจะตอบกลับมาว่าเขาทำงาน อย่ารบกวน
เจ้าทุกข์หลายคนที่โดนโกงไป ก็ท้อเหมือนกัน ถอดใจไปหลายคนค่ะ แบบนี้เราสามารถทำอะไรได้ไหมค่ะ หรือ จัดการอย่างไรบ้าง
ปรึกษาเรื่องผู้เช่าค้างค่าเช่าค่ะ อยากจัดการให้เด็ดขาด
พอดีมีรถยนต์ของทางบ้านต้องการปล่อยเช่า (ซื้อมาใช้ในงานกงสีกิจการบ้าน ตอนนั้นได้คันใหม่มาแทน) ทางเราเลยไปแจ้งในกลุ่ม/เพจต่างๆที่คุ้นเคย จนมีผู้เช่าคนนึงติดต่อมาแจ้งว่า รู้จักกับน้องสมัยเรียนเรา
ตกลงสัญญาเช่าระยะเวลาหนึ่งถึงสามเดือน ตอนนั้นแจ้งว่ารถเขาส่งซ่อม ไม่มีรถไปทำงาน มัดจำ 10,000 บาท ค่าเช่าล่วงหน้า 1 เดือน 8,000 บาท
ก็ได้นำรถไปส่งที่บ้านเขาแถบชานเมืองนนทบุรี (บ้านใหญ่มากค่ะ ราคาน่าจะแพง 5-8 ล้าน) ก็เขาไปเซ็นสัญญาและเอาเอกสารอ้างอิง
1. สำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้าน 2. สำเนาใบขับขี่ ซึ่งเขาเอาของน้องสาวมาให้ แจ้งว่าของเขาถูกยึดเพราะขับรถเร็ว (เราซึ่งไปบ้านเขามาก็เออไว้ใจ ไม่คิดอะไรตรงนี้)
พอเดือนที่สอง สอบถามจะนำรถคืนหรือจะเช่าต่อ เขาบอกขอเช่าต่อ ก็ตกลงแต่ไม่ได้นัดแก้สัญญา พอถึงวันที่ต้องชำระ เกิดการผัดผ่อน ล่าช้า แต่ยังจ่ายภายในเดือนเลยหยวนๆไป
ต่อมา ใช้คำว่า ลายเริ่มออก พอถึงวันนัดไม่จ่ายไม่อ่านโทรไม่ติด ติดต่อไม่ได้ เรากังวลใจกลัวรถเป็นอะไร เลยทักไปทางไลน์แฟนเขา แฟนเขาอ่านตอนทักไปพอถามเรื่องให้ติดต่อกลับเรื่องเช่ารถ แฟนเขาบล็อคเราทันที เรานี่ว้าวุ่นเลยค่ะ แต่ตกเย็นคนเช่าเขาทักมาบอกติดนั่นนี่ตามประสา (อ้างทำงานหลับลึก ไลน์มีเป็นหมื่นๆข้อความ ไปต่างจังหวัดไม่มีเสียง) เราเลยบอกให้จ่ายเงินด้วยนะ ไม่งั้นจะขอรถคืน เขาเลยเริ่มจ่ายแบบครั้งละ 300-500 มาซึ่งมันไม่มีทางครบยอดในเดือนค่ะ และเริ่มยิดยาวออกไปเป็นทบเดือน ซึ่งทุกครั้งที่เขานัดวันจะติดต่อไม่ได้ทุกช่องทาง
จนเราบอกขอรถคืนประมาณเดือน 5-6 เขาบอกว่าติดปัญหาสารพัด ถ้าเราเอารถคืนเขาจะไม่มีรถทำงาน ไม่มีรับลูก ใจอ่อนค่ะ (เพราะเคยผ่านจังหวะชีวิตที่จะเคยโดนยึดบ้านยึดรถมา) แต่เราบอกงั้นขอค่าปรับนะ ถ้ารอบไหนนัดแล้วเลทจะปรับครั้งละ 100 บาท เขาตกลงว่ากันด้วยดี
พอเอาเข้าจริง ไม่มี ไม่จ่าย เงียบ ส่งข้อความขอปรับ ก็เงียบ และก้ออยากจ่ายเงินวันไหน ก็จ่าย กี่บาทก็จ่าย อยากอ่านก็อ่าน พอเราบอกยอดนี้เหลือเท่านี้นะกับค่าปรับเท่านี้ เขาบอกว่า จะคิดค่าปรับทำไมกัน ถ้ามีจ่ายค่าเช่าก็ไม่ต้องปรับแล้ว
เราขอรถคืน เขาก็มาบอกว่า รถเสียนะ ปัมพ์น้ำไม่ทำงาน ขับไปไหนไม่ได้ จะมาต้องมาลากรถคืนอย่างเดียว เขาจะไม่ซ่อมให้เพราะไม่ใช่ความผิดเขานะ เราเลยเอาสัญญาเช่ามาดู และให้เขาไปอู่...วีดีโอคอลคุยเลย ให้อู่สรุปว่าอาการไหนจากอะไรช่วงไหน สรุปว่าปัมพ์น้ำเกิดจากการใช้งานของเขาที่ไม่ดี ส่วนตรงอื่นมาจากระยะรถเรา เลยแบ่งการซ่อมใครซ่อมมัน พอถึงวันรับรถ (จอดอู่ประมาณสามอาทิตย์ รถหาอะไหล่ยาก) เขาบอกว่าไม่มีเงินจ่ายส่วนนี้ เราอยากเอารถออกมาเลยจ่ายหมดแล้วมีการเซ็นเอกสารรับหนี้ส่งให้ทางไลน์เป็น PDF ไว้
ต่อมา เราจะถามเรื่องรถวันส่งรับรถ เขาบ่ายเบี่ยงให้เราไปเอารถช่วงหลังสองทุ่มตลอด หรือไปตามจุดที่ดูอันตราย โครงการก่อสร้างต่างๆ ซึ่งไม่มีใครในบ้านกล้าไปเอากลัวข้อหาบุกรุก (ครอบครัวบางส่วนและเราก็อยู่ต่างประเทศด้วยช่วงนั้น)
เราเลยไปปรึกษาทนายและได้คำแนะนำมาพร้อม หนังสือทวงถาม ซึ่งช่วงที่รอเอกสาร ด้วยนิสัยเผือกก็ไปเชคประวัติเขาและภรรยา คือมีคดีฉ้อโกง รับเหมางานก่อสร้างมาแล้วไม่ทำยาวเหยียด (ตอนมาติดต่อเช่า เช็คแล้วไม่มีค่ะ) ภรรยาใช้ชีวิตในบริษัทเอกชนกินเที่ยวต่างประเทศฉ่ำๆ เราเลยพยายามคุยกับเจ้าทุกข์หลายๆราย นิสัยเดียวกันไม่มีไม่หนีไม่จ่าย ตำรวจเรียกไม่มาตามนัด บางคดีฟ้องทั้งสามีภรรยาเลยค่ะ และเจ้าทุกข์หลายคนยืนยันว่าเขามีความรู้เรื่องทนายดีมาก และเป็นลูกหลานผู้มีอิทธิพลทางใต้ จึงไม่เกรงกลัว ทำจนเป็นนิสัย
แล้วบังเอิญของบังเอิญ น้องสาวเขาที่เอาเอกสารมาค้ำ ดันเป็นเพื่อนในกลุ่มเพื่อนเราอีกที เราเลยให้เพื่อนช่วยติดต่อให้ สรุปว่าพอน้องสาวเขารู้เขาคงไปถามในกลุ่มครอบครัว ตัวพี่ชายเลยไลน์มาว่า มาตำหนิเรา หาว่าเราใส่ร้าย พร้อมแคปแชทที่เขาคุยกันในพี่น้อง (สรุปพี่ชายคนโตเป็นทนาย) เพื่อนเราเลยให้เบอร์ ให้ไลน์น้องสาวเขามา พอเราทักไปเขาก็บล็อคเราค่ะ เราเลยเออ พอเลย จบ
พอเอกสารทางกฎหมายครบกำหนด เราใช้รถลากไปรับ และจะมีทนายไปด้วย ณ วันนั้น ให้เขาเซ็นเอกสารรับสภาพหนี้ที่คงค้าง โดยให้ชำระงวดแรก 5,000 บาท ที่เหลือ คือเดือนละสามพันจนกว่าจะหมดหนี้ (ยอดนี้เขาเสนอเอง) หากงวดไหนไม่ชำระจะมีค่าปรับ เขาก็เซ็นกลับมาให้วันที่รถลากไปรับ (แต่ทนายไม่ได้ไป ติดงาน)
ณ ปัจจุบัน ชำระมางวดแรก งวดอื่นตามวันที่เซ็นสัญญา ไม่เคยจ่ายตรง ไม่อ่านไม่ตอบ นานๆจะอ่านที พอสรุปยอดค่าปรับไป แรกๆ ก็รับทราบ พอเยอะเขายอดหนี้ไม่ลด บอกว่า แค่กำหนดค่าปรับก็ผิดกฎหมายแล้ว หาทางเล่นแง่กับเรา จะขอจ่ายแค่ต้น เราบอกว่าแค่รวมจ่ายมายังไม่ถึง 1/4 ต้นเลยค่ะ ผ่อนทีละ 500 เดือนละครั้ง
แบบเดิม ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย กินใช้อย่างดี ไม่อ่านไม่ตอบ พอเราโทรไป ก็บอกจะตอบกลับมาว่าเขาทำงาน อย่ารบกวน
เจ้าทุกข์หลายคนที่โดนโกงไป ก็ท้อเหมือนกัน ถอดใจไปหลายคนค่ะ แบบนี้เราสามารถทำอะไรได้ไหมค่ะ หรือ จัดการอย่างไรบ้าง