สวัสดีครับ ผมขอแชร์ประสบการณ์การ การตรวจสอบบ้านกับทาง JRP HOME เผื่อใครที่อยากตรวจรับบ้าน แต่ไม่รู้ไปหาที่ไหนดี
ก่อนอื่นผมขอบอกก่อนว่าผมไม่ได้มีส่วนได้เสีย หรือได้ค่าโฆษณาจากทางบริษัทนะครับ ผมแค่ติดว่าทีมงานเค้าดีและผมก็อยากเป็นส่วนนึงที่ขอบคุณพวกเค้าผ่านการโพสครั้งนี้ของผม
รายละเอียดบ้านผม
ทาวน์โฮม
พื้นที่ใช้สอย : 135 ตร.ม
พื้นที่ : 25.3 ตร.ว
เริ่มแรกผมหาบริษัทรับตรวจบ้าน พยายามค้นหาตาม Internet, FB, TIKTOK etc. ถามเรื่องสิ่งที่เค้าตรวจว่ามีอะไรบ้างและราคา เปรียบเทียบ หลายๆที่ ปรากฏว่าราคาถูกที่สุด(ที่อื่นประมาณ 6,500-7,000พันบาท) จากที่ผมลองเปรียบเทียบรายการที่เค้าตรวจ, ราคา, คะแนนรีวิว
ผมเลยตัดสินใจเลือก JRP HOME จากนั้น ก็นัดวันเข้าไปตรวจครับ ส่วนตัวผมเป็นคนที่ชอบกังวนเพราะในสัญญามีกำหนดวันโอนกรรมสิทธิ์อยู่ แต่ในใจผมไม่อยากโอน ถ้ายังแก้ defects ไม่หมด ผมเลยปรึกษากับทาง admin แล้วเค้าก็ขอโทรหาเลย ผมก็เลยถ่ายสัญญาจองกับโครงการไปให้แล้วสักพักพี่โก้ก็โทรมาอธิบายอีกว่าเงื่อนไขเราเป็นแบบไหนได้บ้าง แล้วเราควรจะปฎิบัติตัวอย่างไรต่อ
( ดูทีมงานเค้าใส่ใจเรามากครับ ผมให้ห้าดาวจากใจ )
แล้วก็เลยมาถึงวันตรวจบ้าน ทีมงานจะบรีฟก่อนครับว่าเค้าจะตรวจอะไรบ้างให้เราเข้าใจสเต็ปต่างๆ
จากนั้นทีมเค้าจะมาดูเรื่องงานสถาปัตยกรรมว่ามีรอยร้าว ซิลิโคนตามขอบเก็บงานดีไหม ตามมุมตามมขอบเป็นเหลี่ยมไปหรือไม่ บินโดรนดูหลังคาว่ามีสกูลที่ยึดถูกต้องไหม กระเบื้องแตกไหม แฟลชชิ่งฉีกขาดไหม มีขยะไหม
ดูพื้นที่ใต้หลังคา มีน้ำฝนรั่วไหม สายไฟเดินเรียบร้อยไหม ทางทีมงานก็จะสอนเราต่อเรื่องโครงสร้างที่นำมาใช้ว่าเป็นแบบใด เพื่อให้เรารู้จักบ้านมากขึ้น
ต่อมาก็ระบบสำคัญๆ เช่น เรื่องระบบไฟ เช็คตู้เมนต์ไฟ จำลองไฟฟ้าลัดวงจร พื่อดูว่าระบบ safety ทุกจุดถูกต้องตามมาตรฐานหรือไม่
ระบบน้ำตรวจสอบว่ามีรั่วซึมตรงไหนบ้าง (ฝ้า หน้าต่าง ประตู) จากนั้นใช้กล้องสแกน
ระบบระบายน้ำทิ้ง จากห้องน้ำต่างๆ ว่าที่ใส่ขนมปัง หลังกดชักโคกลงมาที่ถังบำบัดน้ำเสียไหม(ให้โอกาสกดห้าครั้งต้องมา ^^)
ในระหว่างที่เค้าตรวจ เค้าก็จะให้ความรู้เราตลอดว่า เราควรต้อง Maintenance ระบบต่างอย่างไร เช่น บ่อดักไขมัน บ่อดักกลิ่น บ่อบำบัดน้ำเสีย
หลังจากเสร็จกระบวนการทุกอย่างแล้วทีมงาน ก็จะทำรายงานส่งให้โครงการประมาณ 2-3 วันครับ
จากที่เล่ามาผมขอสรุปผลงานดังนี้
1. ความใสใจ : ดี
2. ราคา : ดี(เมื่อเทียบกับเจ้าอื่น)
3. คุณภาพ : ดี(เมื่อเทียบราคา)
4. การให้ความรู้ : ดี
ทั้งนี้คือความเห็นส่วนตัวนะครับ เป็นมุมมองของผมเอง
[CR] รีวิวประสบการณ์ตรวจบ้านกับ JRP HOME
ก่อนอื่นผมขอบอกก่อนว่าผมไม่ได้มีส่วนได้เสีย หรือได้ค่าโฆษณาจากทางบริษัทนะครับ ผมแค่ติดว่าทีมงานเค้าดีและผมก็อยากเป็นส่วนนึงที่ขอบคุณพวกเค้าผ่านการโพสครั้งนี้ของผม
รายละเอียดบ้านผม
ทาวน์โฮม
พื้นที่ใช้สอย : 135 ตร.ม
พื้นที่ : 25.3 ตร.ว
เริ่มแรกผมหาบริษัทรับตรวจบ้าน พยายามค้นหาตาม Internet, FB, TIKTOK etc. ถามเรื่องสิ่งที่เค้าตรวจว่ามีอะไรบ้างและราคา เปรียบเทียบ หลายๆที่ ปรากฏว่าราคาถูกที่สุด(ที่อื่นประมาณ 6,500-7,000พันบาท) จากที่ผมลองเปรียบเทียบรายการที่เค้าตรวจ, ราคา, คะแนนรีวิว
ผมเลยตัดสินใจเลือก JRP HOME จากนั้น ก็นัดวันเข้าไปตรวจครับ ส่วนตัวผมเป็นคนที่ชอบกังวนเพราะในสัญญามีกำหนดวันโอนกรรมสิทธิ์อยู่ แต่ในใจผมไม่อยากโอน ถ้ายังแก้ defects ไม่หมด ผมเลยปรึกษากับทาง admin แล้วเค้าก็ขอโทรหาเลย ผมก็เลยถ่ายสัญญาจองกับโครงการไปให้แล้วสักพักพี่โก้ก็โทรมาอธิบายอีกว่าเงื่อนไขเราเป็นแบบไหนได้บ้าง แล้วเราควรจะปฎิบัติตัวอย่างไรต่อ
( ดูทีมงานเค้าใส่ใจเรามากครับ ผมให้ห้าดาวจากใจ )
แล้วก็เลยมาถึงวันตรวจบ้าน ทีมงานจะบรีฟก่อนครับว่าเค้าจะตรวจอะไรบ้างให้เราเข้าใจสเต็ปต่างๆ
จากนั้นทีมเค้าจะมาดูเรื่องงานสถาปัตยกรรมว่ามีรอยร้าว ซิลิโคนตามขอบเก็บงานดีไหม ตามมุมตามมขอบเป็นเหลี่ยมไปหรือไม่ บินโดรนดูหลังคาว่ามีสกูลที่ยึดถูกต้องไหม กระเบื้องแตกไหม แฟลชชิ่งฉีกขาดไหม มีขยะไหม
ดูพื้นที่ใต้หลังคา มีน้ำฝนรั่วไหม สายไฟเดินเรียบร้อยไหม ทางทีมงานก็จะสอนเราต่อเรื่องโครงสร้างที่นำมาใช้ว่าเป็นแบบใด เพื่อให้เรารู้จักบ้านมากขึ้น
ต่อมาก็ระบบสำคัญๆ เช่น เรื่องระบบไฟ เช็คตู้เมนต์ไฟ จำลองไฟฟ้าลัดวงจร พื่อดูว่าระบบ safety ทุกจุดถูกต้องตามมาตรฐานหรือไม่
ระบบน้ำตรวจสอบว่ามีรั่วซึมตรงไหนบ้าง (ฝ้า หน้าต่าง ประตู) จากนั้นใช้กล้องสแกน
ระบบระบายน้ำทิ้ง จากห้องน้ำต่างๆ ว่าที่ใส่ขนมปัง หลังกดชักโคกลงมาที่ถังบำบัดน้ำเสียไหม(ให้โอกาสกดห้าครั้งต้องมา ^^)
ในระหว่างที่เค้าตรวจ เค้าก็จะให้ความรู้เราตลอดว่า เราควรต้อง Maintenance ระบบต่างอย่างไร เช่น บ่อดักไขมัน บ่อดักกลิ่น บ่อบำบัดน้ำเสีย
หลังจากเสร็จกระบวนการทุกอย่างแล้วทีมงาน ก็จะทำรายงานส่งให้โครงการประมาณ 2-3 วันครับ
จากที่เล่ามาผมขอสรุปผลงานดังนี้
1. ความใสใจ : ดี
2. ราคา : ดี(เมื่อเทียบกับเจ้าอื่น)
3. คุณภาพ : ดี(เมื่อเทียบราคา)
4. การให้ความรู้ : ดี
ทั้งนี้คือความเห็นส่วนตัวนะครับ เป็นมุมมองของผมเอง
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้