JJNY : เท้งจี้อิ๊งค์เลิกลอยตัว│ปชน.คาใจเลือกตั้ง อบจ.│กขค.จับตาทรัมป์ 2.0 ปลุกกระแสควบกิจการพุ่ง│บาทหลวงวอนทรัมป์เมตตา

เท้ง จี้ นายกฯอิ๊งค์ เลิกลอยตัว แก้ PM2.5 จริงจัง ขอโอกาสให้ คนไทย สูดอากาศดีบ้าง โอดพื้นที่เผาไหม้พุ่ง
https://www.matichon.co.th/politics/news_5011174
 
 
เท้ง จี้ นายกฯอิ๊งค์ เลิกลอยตัว แก้ PM2.5 จริงจัง ขอโอกาสให้ คนไทย สูดอากาศดีบ้าง โอดพื้นที่เผาไหม้พุ่ง
 
เมื่อวันที่ 22 มกราคม นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน โพสต์เฟซบุ๊กถึงวิกฤติฝุ่น PM 2.5 ในประเทศ ว่า 
 
ขอโอกาสให้คนไทยสูดอากาศสะอาดบ้างได้ไหม
 
ในขณะที่ท่านนายกรัฐมนตรีกำลังสูดอากาศดีที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์อย่างเต็มปอด ระหว่างเดินทางเชิญชวนนักลงทุนเพื่อหวังให้ปี 2568 เป็นปีแห่งโอกาสของประเทศ แต่คนไทยจำนวนหลายล้านคนก็กำลังหายใจรับอากาศพิษขั้นวิกฤตรุนแรงเข้าสู่ปอด
 
พื้นที่เผาไหม้เพิ่มขึ้นจากปีก่อน มาตรการการห้ามนำเข้าสินค้าเกษตรที่มาจากการเผาไม่เกิดเป็นรูปธรรม มาตรการสนับสนุนอ้อยสด จนถึงวันนี้ยังไม่เข้า ครม. การช่วยเหลือพี่น้องชาวนาก็ไม่มีมาตรการจูงใจให้ลดการเผา
 
การป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นพิษ PM2.5 สามารถทำได้ แต่ต้องวางแผนและดำเนินการให้ทุกฝ่ายทราบชัดเจนล่วงหน้า ก่อนการเดินทางหา ‘โอกาส’ จากต่างประเทศ คนไทยอยากขอเพียง ‘อากาศ’ ในประเทศที่จะให้เราทุกคนหายใจได้อย่างเต็มปอดในแต่ละวัน
ขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร และคณะรัฐมนตรีของท่านจริงจังกับการแก้ปัญหา โดยเฉพาะตัวนายกรัฐมนตรี เลิกลอยตัวเหนือปัญหาเสียทีครับ
 
https://www.facebook.com/natthaphong.ruengpanyawut/posts/pfbid02WNxVHA2ri1kiWTspr9ppPAkveDveudS3ZuVNquduR1JEzCyQTC5ZU4ySR6TMxYMHl
 


ปชน. คาใจเลือกตั้ง อบจ. ส่อไม่โปร่งใส พบพิรุธหลายหน่วยที่ปากน้ำ จี้สอบตร.นนท์
https://www.khaosod.co.th/politics/news_9600508
 
สส.ปชน. คาใจ เลือกตั้งท้องถิ่น ส่อไม่โปร่งใส จี้ นายกฯตรวจสอบ ตร.นนทบุรี คุกคามผู้สมัคร ส.อบจ. พร้อมฟ้องบางหน่วยในสมุทรปราการ ไม่ติดเบอร์ผู้สมัคร
 
เมื่อวันที่ 22 ม.ค.2568 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาฯคนที่สอง ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ช่วงหารือปัญหาความเดือดร้อน พบว่า มี สส.จากพรรรคประชาชน หารือถึงประเด็นการเลือกตั้งท้องถิ่น ในวันที่ 1 ก.พ.นี้ ที่พบประเด็นส่อว่าไม่โปร่งใส นายปรีติ เจริญศิลป์ สส.นนทบุรี พรรคประชาชน หารือว่าจากที่ตนร้องเรียนถึงกรณีตำรวจวางตัวไม่เป็นกลางต่อการเลือกตั้งท้องถิ่น ในจ.นนทบุรี พบพฤติกรรม ข่มขู่ คุกคาม ทั้งแม่ของผู้สมัครสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(ส.อบจ.) พรรคประชาชน และติดต่อไปยังผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านที่รู้จักกับผู้สมัคร ส.อบจ.เพื่อขอรายชื่อผู้ช่วยหาเสียง
 
ทั้งนี้ ตนมีหลักฐานเป็นแชทไลน์ ซึ่งตรวจสอบข้อมูลแล้วพบข้อเท็จจริงเชื่อถือได้ จึงทำหนังสือไปยังผู้บังคับการรตำรวจภูธรนนทบุรี เลขรับที่ 405 เมื่อวันที่ 14 ม.ค.ที่ผ่านมาแต่เรื่องเงียบ จึงอยากฝากแจ้งไปยัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ที่กำกับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติและนั่งหัวโต๊ะปราบผู้มีอิทธิพล เร่งพิจารณาตรวจสอบว่าคำสั่งดังกล่าวมาจากใคร และให้รีบแจ้งผลโดยเร็ว
 
น.ส.พนิดา มงคลสวัสดิ์ สส.สมุทรปราการ พรรคประชาชน หารือด้วยว่า จากการติดตามกระบวนการจัดการเลือกตั้งท้องถิ่น พบว่ากระดานติดประกาศ แนะนำผู้สมัครเลือกตั้ง นายก อบจ. และ ส.อบจ. พบปัญหาในหลายหน่วย มีการปิดประกาศรายชื่อผู้สมัครไม่เป็นมาตรฐานเดียวกัน เช่น
ในพื้นที่จ.สมุทรปราการ บางหน่วยใช้วิธีติดใบผู้สมัครซ้อนกัน ทำให้ไม่สามารถเห็นหมายเลขทุกหมายเลขได้ชัดเจน การติดหมายเลขผู้สมัครที่ไม่เรียงตามลำดับ หรือบางหมายเลขหายไป และร้ายที่สุด คือ ไม่ติดเบอร์ผู้สมัครบางคนบนกระดาน ทั้งนี้ ได้แจ้งหน่วยงานท้องถิ่นแล้วพบว่ามีการปรับปรุงแก้ไข แต่บางกระดานที่ไม่ถูกตรวจสอบ อาจมีปัญหาที่ทำให้ประชาชนสับสนได้
 
น.ส.พนิดา กล่าวต่อว่า ทราบว่ามีเรื่องร้องเรียนหลายจังหวัดด้วยว่า หมึกปริ้นท์หมด สีซีดเฉพาะบางหมายเลข หรือไม่ติดหมายเลขผู้สมัครบางคน ขอให้คณะกกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)กำชับ สั่งการไปยัง กกต.จังหวัด ให้สั่งการไปยังผู้อำนวยการเลือกตั้งท้องถิ่นตรวจสอบการติดประกาศหมายเลขผู้สมัครทุกคน และดำเนินการตามหน้าที่อย่างโปร่งใส เป็นธรรม เป็นกลาง เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ


 
กขค.จับตาทรัมป์ 2.0 ปลุกกระแสควบกิจการพุ่ง เผยปี67ขนส่ง-โลจิสติกส์รวมธุรกิจมากสุด
https://www.matichon.co.th/economy/news_5011268

กขค.จับตาทรัมป์ 2.0 ปลุกกระแสควบกิจการพุ่ง เผยปี67ขนส่ง-โลจิสติกส์รวมธุรกิจมากสุด
 
ผศ.ดร.วิษณุ วงศ์สินศิริกุล เลขาธิการคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.) เปิดเผยถึงการคาดการณ์อุตสาหกรรมประเภทบริการ และสินค้าอุตสาหกรรม ว่า ยังเป็นอุตสาหกรรมที่น่าจับตามองด้านการรวมธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากข้อมูลสถิติการรวมธุรกิจในประเทศไทย ปี 2566-2567 สะท้อนจำนวนและมูลค่าการรวมธุรกิจที่สูงเป็นสองอันดับแรกของประเภทอุตสาหกรรม โดยอุตสาหกรรมประเภทบริการในหมวดธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ เป็นตลาดที่มีผู้เล่นหลากหลาย ทั้งผู้เล่นในตลาดขนส่งรายใหญ่ ผู้เล่นจากแพลตฟอร์มออนไลน์ และผู้ค้าออนไลน์รายใหญ่ในตลาดขนส่งพัสดุ ในช่วงเวลาเร่งด่วนและระยะทางสั้น จึงทำให้ตลาดมีความซับซ้อนและการแข่งขันรุนแรงขึ้น เนื่องจากบริการขนส่งของผู้ให้บริการรายต่างๆ มีความคล้ายคลึงกันสูง ทำให้เกิดการแข่งขันด้านราคาเป็นหลัก จากการคาดการณ์เห็นว่า ในระยะสั้นอาจทำให้ผู้ประกอบธุรกิจขาดทุนจากการแข่งขันกันลดราคาเพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งตลาด แต่ในระยะยาวรายเล็กอาจไม่สามารถแข่งขันได้ และอาจมีความเสี่ยงที่รายใหญ่หรือผู้ที่มีอำนาจในตลาด จะได้มาซึ่งส่วนแบ่งตลาดและสามารถเพิ่มราคาได้ในที่สุด ดังนั้น ผู้ประกอบธุรกิจขนส่งจึงจำเป็นต้องมีกลยุทธ์ที่แตกต่างและสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน เพื่อให้อยู่รอดและเติบโตได้ในตลาดที่แข่งขันสูง
 
ผศ.ดร.วิษณุ กล่าวต่อว่า สถิติการรวมธุรกิจของสำนักงาน กขค. ตั้งแต่ปี 2562-2567 พบว่า มีจำนวนการรวมธุรกิจทั้งหมด 163 กรณี หรือ คิดเป็นมูลค่าการรวม 4.88 ล้านล้านบาท โดยปี 2565 มีจำนวนการรวมธุรกิจมากที่สุดถึง 42 กรณี ขณะที่ปี 2564 มีมูลค่าการรวมธุรกิจมากสุดถึง 2.05 ล้านล้านบาท เนื่องจากในปีดังกล่าวมีกรณีการรวมธุรกิจที่เข้าหลักเกณฑ์จะต้องขออนุญาตรวมธุรกิจ ซึ่งมักมีมูลค่าการรวมธุรกิจสูง นอกจากนี้ ปีที่ผ่านมามีจำนวนการรวมธุรกิจ 21 กรณี คิดเป็นมูลค่า 5.99 แสนล้านบาท แบ่งเป็น กรณีการแจ้งผลการรวมธุรกิจ 17 กรณี และขออนุญาตรวมธุรกิจ 4 กรณี โดยธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ มีมูลค่าการรวมธุรกิจสูงที่สุดถึง 1.82 แสนล้านบาท รองลงมาเป็นธุรกิจการแพทย์ที่แม้จะมีเพียง 1 กรณี แต่เข้าหลักเกณฑ์จะต้องขออนุญาตรวมธุรกิจ ซึ่งมีมูลค่าการรวมธุรกิจสูงถึง 1.25 แสนล้านบาท หากรวมมูลค่าการรวมธุรกิจของทั้งสองธุรกิจดังกล่าวพบว่ามีมูลค่ากว่า 51% ของมูลค่าการรวมธุรกิจในปี 2567
 
สถานการณ์การรวมธุรกิจปีที่ผ่านมาในต่างประเทศ เช่น การรวมธุรกิจในประเทศญี่ปุ่นพุ่งสูงสุด เป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ปี 2528 ปัจจัยสำคัญมาจากกองทุนไพรเวทอิควิตี้ ซึ่งเป็นกองทุนที่ระดมเงินทุนจากผู้ลงทุนสถาบัน ได้เข้าซื้อธุรกิจที่เหล่าบริษัทญี่ปุ่นขายออกไป นอกจากนี้ แนวโน้มการรวมธุรกิจปี 2568 ของสหรัฐ จากรายงานการรวบรวมความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน มองว่า จะมีแนวโน้มทะลุถึง 4 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ น่าจะสูงที่สุดในรอบ 4 ปี เนื่องจากการกลับเข้าสู่ตำแหน่งอีกครั้งหนึ่งของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ที่เตรียมผลักดันและสนับสนุนภาคเอกชนอย่างเต็มที่ โดยการลดกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคต่อการซื้อกิจการหรือรวมธุรกิจ” ผศ.ดร.วิษณุ กล่าว
 
ผศ.ดร.วิษณุ กล่าวปิดท้ายว่า มองว่าบรรยากาศการรวมธุรกิจของประเทศไทยในปี 2568 น่าจะคึกคักและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกันกับประเทศอื่น จึงมีความท้าทายในการกำกับดูแลและติดตามด้านโครงสร้างตลาด สร้างสภาพแวดล้อมการแข่งขันทางการค้าในอุตสาหกรรมต่างๆ ให้เอื้อต่อการแข่งขันมากที่สุด อย่างไรก็ตาม สำนักงาน กขค. ได้เฝ้าระวัง ติดตาม และตรวจสอบการรวมธุรกิจที่อาจเข้าข่ายการกระทำความผิดตามกฎหมายการแข่งขันทางการค้าอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น ขอย้ำหากผู้ประกอบธุรกิจจะรวมธุรกิจขอให้ศึกษาทำความเข้าใจกฎหมายการแข่งขันทางการค้า และหลักเกณฑ์ตามประกาศ กขค. อย่างละเอียดก่อนดำเนินการรวมธุรกิจ เพื่อให้ไม่เกิดความเสียหายต่อธุรกิจ เพราะท้ายที่สุดแล้ว ความไม่รู้ย่อมมีราคาที่ต้องจ่ายเช่นกัน และไม่สามารถนำมาอ้างให้พ้นผิดได้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่