JJNY : 5in1 พิธาอ้อนชาวสมุทรปราการ│แฉผู้ต้องขังจีน│ร้องเอาผิดติดแอพพ์│อสังหาหวั่นซ้ำเติมซัพพลาย│“อียู”เจรจารับมือทรัมป์

พิธา โหมโรงขึ้นรถแห่ ช่วยหาเสียง อบจ. อ้อนชาวสมุทรปราการ เลือก ปชน.ให้ถล่มทลาย
https://www.matichon.co.th/politics/news_5010552
 
 
“พิธา” โหมโรงขึ้นรถแห่ท่ามกลางอากาศร้อนระอุ ชวนคนฟังปราศรัยเย็นนี้ ไม่วายแวะชิม “ข้าวเหนียวปิ้ง” เติมพลัง ลั่น เอาไส้กล้วย จะได้กล้วยๆ อ้อน ไม่ขออะไรมาก แค่เลือก ปชน.ให้ถล่มทลาย ด้านแฟนคลับแน่น แห่กรี๊ด ผูกโบว์ส้มอันเบ้อเริ่มสวมกอด
 
เมื่อวันที่ 21 มกราคม ที่จ.สมุทรปราการ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน ลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครนายก อบจ.สมุทรปราการ หาเสียง
 
โดยช่วงบ่ายนี้ นายพิธา สวมใส่เสื้อเชิ้ตสีฟ้า กางเกงยีนส์ ได้ลงพื้นที่พบปะแฟนคลับที่ไอมอล ปากน้ำ ก่อนจะขึ้นรถแห่ไปรอบเมืองสมุทรปราการ
 กว่า 30 นาที ท่ามกลางอากาศที่ร้อนระอุ เชิญชวนให้คนไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง อบจ. ในวันที่ 1 ก.พ.นี้ พร้อมเน้นย้ำถึงบัตรเลือกตั้งว่าให้จำให้ดี เพราะมีทั้งเลือกตำแหน่งนายกและสมาชิก การเลือกตั้งในครั้งนี้มีส่วนที่จะเปลี่ยนสมุทรปราการไปในทางที่ดีขึ้นได้ ตนไม่ขออะไรมาก ขอให้พี่น้องทำให้พวกเราเหมือนตอนเลือกตั้งปี 2566 เลือกผม พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี และเลือก สส.ทั้ง 8 เขตถล่มทลาย ที่นี่คือเมืองหลวงของอดีตพรรคก้าวไกล ขอให้ไม่เบื่อการเมือง และเชื่อในพลังการเปลี่ยนแปลงของประเทศไทย การเลือกตั้งเป็นของประชาชน ไม่ใช่ของพรรคประชาชน ดังนั้น อยากให้ทุกคนสร้างการเปลี่ยนแปลง การมาวันนี้ตนไม่ได้เตรียมการอะไรมากมาย แค่อยากมาพบปะพ่อแม่พี่น้องประชาชนอย่างอบอุ่น วันนี้ลงพื้นที่มา ได้รับกำลังใจเต็มๆ
 
ช่วงหนึ่ง นายพิธา พูดสีบัตรเลือกตั้งผิด เลยกล่าวว่า “ขนาดอดีตหัวหน้าพรรคยัง งง แล้วประชาชนไม่งงได้อย่างไรครับ กกต.ครับ จริงๆ น่าจะอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน จะได้ไม่สับสน ในฐานะอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองเดี๋ยวจะให้นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองฯ สภาฯ หารือหน่อย
 
จากนั้น นายพิธา ได้ลงจากรถมาถ่ายรูปแจกลายเซ็นให้กับแฟนคลับและผู้สนับสนุนพรรค ซึ่งมีผู้มอบพวงมาลัยดอกดาวเรืองให้และส่งเสียงกรี๊ดชื่นชมนายพิธา ก่อนที่จะเดินไปทักทายพ่อค้าแม่ค้าในตลาดปากน้ำ เชิญชวนให้ไปฟังปราศรัยช่วงเย็นวันนี้ โดยขณะที่อยู่ในตลาดนั้น ได้มีแฟนคลับใส่โบว์สีส้มอันใหญ่มาสวมกอดนายพิธา ทำให้เรียกเสียงฮือฮาได้อย่างมาก
 
โดยนายพิธา หาเสียงสักระยะ ได้แวะซื้อข้าวเหนียวปิ้งชิม ก่อนจะพูดติดตลกว่า “เอาไส้กล้วย จะได้กล้วยๆ
 
ขณะที่ช่วงเย็นวันนี้ นายพิธา มีกำหนดการปราศรัยที่ตลาดแบล็คมาร์เก็ต (ตรงข้ามโรงเรียนสมุทรปราการ) อำเภอเมือง พร้อมทีม อบจ. สมุทรปราการ
 เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป


 
เอกชัย แฉผู้ต้องขังจีน ใช้ชีวิตหรูหรา กินแซลมอน สูบซิการ์ตัวเป็นหมื่น กลัวสุดคือถูกส่งกลับ
https://www.matichon.co.th/local/crime/news_5009739

เอกชัย แฉผู้ต้องขังจีน กลัวโดนส่งกลับประเทศไปรับโทษ อาจโดนประหาร ชี้ติดคุกไทย จ่ายใต้โต๊ะหนัก ได้อยู่อย่างสุขสบาย

เมื่อวันที่ 21 มกราคม นายเอกชัย หงส์กังวาน นักกิจกรรมทางการเมือง เปิดเผยทางเฟซบุ๊กส่วนตัว เอกชัย หงส์กังวาน เล่าความเป็นอยู่ระหว่างรับโทษในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ช่วงปี 2565-2566 พบว่า ผู้ต้องขังชาวจีนในคดีแก๊งคอลเซ็นเตอร์อยู่ในเรือนจำอย่างสุขสบาย ไม่ต้องทำงาน มีอาหารพิเศษทาน จ้างผู้ต้องขังไทยคอยรับใช้ ทั้งนี้ สิ่งที่ผู้ต้องขังชาวจีนกลัวคือการถูกส่งตัวกลับจีนไปดำเนินคดี เพราะอาจได้รับโทษประหารชีวิตได้
 
นายเอกชัยเล่าว่า ช่วงที่ผมอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ (พ.ศ.2565/2566) มีผู้ต้องขังจีนในคดีแก๊ง Call center หลายคนอยู่แดนเดียวกับผม
ผู้ต้องขังจีนเหล่านี้เกาะกลุ่มกันอย่างเหนียวแน่น มีอิทธิพลมาก จ่ายใต้โต๊ะเยอะ พวกเขาจึงอยู่อย่างสุขสบายในเรือนจำ
พวกเขาไม่ต้องทำงาน ไม่ต้องเข้าแถวเพลงชาติ/กิจกรรม มีอาหารพิเศษ เช่น ปลาแซลมอนตัวใหญ่แช่แข็งทอดกินสดๆ มีซิการ์มวนละ ฿15,000 สูบ แถมยังมีเครื่องเสียงส่วนตัวเปิดเพลงจีนลั่นแดน
 
พวกเขานอนรวมกันในห้อง 11 เป็นส่วนตัว โดยจ้างผู้ต้องขังไทยคอยรับใช้อำนวยความสะดวกให้ตลอด
 
ตอนที่พวกเขามีเรื่องกับผู้ต้องขังไทย พวกเขาเป็นฝ่ายถูกตลอด ผู้ต้องขังไทยจะถูกลงโทษ เช่น สวมตรวนเท้า แออัดกว่า 30 คนในห้องขังขนาด 30 ตร.ม. ตลอด 24 ชม. ไม่มีพัดลมในฤดูร้อน ไม่มีน้ำใช้ในตอนกลางวัน
 
สิ่งที่พวกเขากลัวที่สุดไม่ใช่เรือนจำไทย แต่เป็นการถูกส่งตัวกลับจีน
 
ผู้ต้องขังจีนบางคนฉลองดีใจที่ศาลไทยพิพากษาให้จำคุก 20 ปี เพราะพวกเขาติดคุกจริงเพียงไม่กี่ปีก็ได้รับการอภัยโทษจนออกจากเรือนจำ
หากพวกเขาต้องถูกส่งตัวไปตัดสินคดีในจีน โทษของพวกเขาคือประหารชีวิต โชคดีหน่อยก็จำคุกตลอดชีวิต

https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=pfbid031PLaWnSnZRB3iXrckVH4e3Kt7B17t47m5zh4Qp7m1uLyWHPDYaPp9houqDrwB8gGl&id=100012144304366



สภาผู้บริโภคร้องเอาผิด OPPO-Realme ติดแอพพ์เงินกู้เถื่อน เร่งบี้ใครคือเจ้าของ
https://www.matichon.co.th/local/crime/news_5009525

เมื่อวันที่ 21 ม.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายภัทรกร ทีปบุญรัตน์ รองหัวหน้าฝ่ายคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิผู้บริโภค สภาผู้บริโภค, นายพรวุฒิ พิพัฒนเดชศักดิ์ หัวหน้าฝ่ายนโยบายและนวัตกรรม สภาผู้บริโภค และนายจิณณะ แย้มอ่วม ทนายความ พร้อมผู้เสียหายหลายราย เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ปริญญา ปาละ รอง ผกก.(สอบสวน) กก.1 บก.ปคบ. เพื่อแจ้งความเอาผิดกับ 2 ค่ายมือถือดัง OPPO และ realme กรณีพบแอพพลิเคชั่นกู้เงินเถื่อนฝังในโทรศัพท์
 
นายภัทรกร เปิดเผยว่า วันนี้พาผู้เสียหายกรณีมือถือ OPPO และ realme มาแจ้งความเพื่อดำเนินการในส่วนของกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค ที่ติดตั้งแอพพ์สินเชื่อที่ไม่ได้รับอนุญาต ขณะนี้มีผู้เสียหายที่เข้ามาร้องเรียนแล้วประมาณ 192 ราย แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือความผิดต่อข้อมูลส่วนบุคคล และการทวงถามหนี้ที่ผิดกฎหมาย กรณีมีการกู้ยืมเงิน ในส่วนของผู้เสียหายที่กู้ยืมเงินไปแล้ว มีการเปิดเผยว่ามีการชำระเงินผ่านบัญชีม้าลักษณะนิติบุคคล และบริษัททวงถามหนี้ที่เป็นลักษณะนิติบุคคลไทย มีเครือข่ายเชื่อมโยงไปยังต่างประเทศ ซึ่งเราได้ข้อเท็จจริงว่าชื่อบริษัทที่รับชำระหนี้ให้เงินกู้ต่างๆนั้น ชื่อบริษัทแสนเปย์ซึ่งเป็นของคนไทย
 
นายจิณณะ กล่าวว่า ที่มาแจ้งความในครั้งนี้ก็ต้องการให้ดำเนินคดีทั้งทางอาญาและทางแพ่ง ซึ่งสภาผู้บริโภคมีเจตนาที่จะคุ้มครองสิทธิ และช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียหายรายบุคคล โดยมีแผนที่จะดำเนินคดีกับบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ตอนนี้อาจจะยังไม่เปิดเผยชื่อ แต่ก็เคยมีปรากฏในสื่อบ้างแล้วว่ามีใครบ้าง และหากไปดูจริงๆเจ้าของเครื่องหมายการค้าของแอพฯจะทราบว่าเป็นบุคคลที่อยู่ต่างประเทศ แต่ใช้ตัวแทนเป็นคนไทยจดทะเบียน ซึ่งบุคคลดังกล่าวก็จะต้องถูกดำเนินคดีด้วยเช่นกัน เนื่องจากแอพพ์นี้มาจากค่ายมือถือ แต่อ้างว่าติดตั้งมาจากโรงงาน นอกจากนี้ยังพบว่าเมื่ออัพเดทซอฟต์แวร์ ก็จะมีแอพฯที่ไม่พึงประสงค์เด้งขึ้นมาด้วย ซึ่งค่ายมือถือยังไม่ชี้แจง ที่แถลงมานั้นยังไม่เห็นภาพชัดเจนว่าจะเยียวยาผู้เสียหายอย่างไร และไม่แน่ใจว่าข้อมูลต่างๆนั้นหลุดไปถึงแก๊งคอลเซ็นเตอร์แล้วหรือยัง
 
สิ่งที่เราต้องการอีกอย่างคืออยากให้ OPPO เปิดเผยว่าใครคือเจ้าของแอพพ์เงินกู้ มีการช่วยเหลือปิดบังหรือไม่ให้ข้อมูลใดๆที่เกี่ยวกับเจ้าของแอพพ์จะเข้าข่ายตัวการร่วมหรือเป็นผู้สนับสนุน เพราะการที่มีแอพพ์เงินกู้ผิดกฎหมายเข้ามาอยู่ใน FinEasy จะต้องมีการตอบแทนกันอย่างแน่นอน เพราะคงไม่มีใครให้มาฟรีๆ” นายจิณณะ กล่าว
 
ส่วน นายพรวุฒิ ระบุว่า ในส่วนนโยบาย มองว่าปัญหาเงินกู้ค่อนข้างปลายเหตุแล้ว เพราะมีการติดตั้งแอพพ์เงินกู้ดอกเบี้ยเกินอัตราที่ผิดกฎหมาย แต่ต้นเหตุคือแพลตฟอร์มที่ติดตั้งแอพพ์อาทิ แอพพ์สโตร์ และเพลย์สโตร์ ที่ติดตั้งมาก่อนหน้านี้ โดยไม่ได้ตรวจสอบการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล นอกจากนี้แอพพ์ที่ติดตั้งมาจากโรงงาน ถือว่าละเมิดสิทธิผู้บริโภคด้วย ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ความจุ แอพฯที่ติดตั้งนั้นไม่สามารถถอนการติดตั้งได้ด้วย รวมถึงการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล ปัญหาเหล่านี้อาจจะได้รับการแก้ไขโดยที่สภาผู้บริโภคหรือหน่วยงานรัฐอื่นๆที่จะต้องทำงานร่วมกัน
 
ผมมองว่าบริษัท OPPO เป็นบริษัทขนาดใหญ่ การอัปเดตฟีเจอร์ใหม่ๆ จะใช้เวลาเพียงไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ในการส่งชุดคำสั่งเพื่อติดตั้งอัพเดตแอพพ์เข้าไปในมือถือของผู้ใช้งาน แต่สวนทางกับการแก้ไขปัญหาที่ใช้เวลาหลายวัน ตามคำสัญญาเคยหารือว่าจะแก้ไขให้ไม่เกินวันที่ 27 ม.ค. นี้ ซึ่งผมมองว่า OPPO ใช้เวลานานมากเกินไป” นายพรวุฒิ กล่าว
 
ขณะที่ นายปฏิพล (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี หนึ่งในผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนซื้อโทรศัพท์ OPPO Reno 11F ตั้งแต่ได้เครื่องมา เมื่อเปิดเครื่องก็มีแอพพ์ FinEasy และยืมอย่างมีความสุข เมื่ออัพเดทซอฟแวร์ ก็มีแอพพ์อื่นๆกว่า 10 แอพพ์ที่เป็นเกมส์เหมือนการพนันออนไลน์ติดมาด้วย ตนมองว่าไม่สมควร เพราะเป็นสิทธิของผู้บริโภคที่ประสงค์จะติดตั้งแอพฯเองอีกด้วย
 

 
อสังหาหวั่น บ้านเพื่อคนไทย ล้านหลัง ซ้ำเติมซัพพลายเหลือขายบ้าน-คอนโดต่ำ 3 ล้าน
https://www.matichon.co.th/economy/news_5009953

อสังหาหวั่นใจ บ้านเพื่อคนไทย ล้านหลัง ซ้ำเติมซัพพลายเหลือขายบ้าน-คอนโดต่ำ 3 ล้าน
 
นายสุนทร สถาพร นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร เปิดเผยว่า เมื่อดูรายละเอียดของโครงกรบ้านเพื่อคนไทยแล้ว ซึ่งถือเป็นโครงการที่ดีที่จะช่วยให้ผู้มีรายได้น้อย กลุ่มเฟิร์สจ็อบเบอร์ได้มีที่อยู่อาศัย และได้รับความสนใจจำนวนมากนั้นในเฟสแรกที่เปิดจอง 4 ทำเล ได้แก่ บางซื่อ กม.11 เชียงราก เชียงใหม่ และธนบุรี(ศิริราช) แม้ว่าจะเป็นคนละตลาดกับกลุ่มผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ แต่ในเฟสต่อไปก็อยากให้รัฐบาลพิจารณาเรื่องรายได้ต่อเดือนใหม่ จากเดิมกำหนดไม่เกิน 50,000 บาทต่อเดือนนั้น มองว่าเป็นกลุ่มระดับกลางและมีกำลังซื้อระดับราคาถึง 3 ล้านบาทได้อยู่แล้ว ควรจะปรับลดเหลือไม่เกิน 25,000 บาท และตั้งราคาขายไม่เกิน 1.5 ล้านบาท เพื่อให้ผ่อนได้ 4,000 บาทต่อเดือน จะทำให้ผู้มีรายได้น้อยสามารถมีที่อยู่อาศัยได้อย่างแท้จริง

นายสุนทรกล่าวว่า ส่วนที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาระบุว่าจะให้ขยายโครงการบ้านเพื่อคนไทยจาก 2 แสนยูนิต เป็น 1 ล้านยูนิตนั้น มองว่าจะเป็นการซ้ำเติมซัพพลายที่อยู่อาศัยราคาต่ำ 3 ล้านบาทในตลาดที่ยังเหลือขายอยู่กว่า 50% และกว่าที่ซัพพลายจะระบายได้หมดต้องใช้เวลา 2-3 ปี ทั้งนี้หากภาครัฐอยากให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยในราคาที่ไม่แพงมาก มองว่าน่าจะเข้าไปซัพพอร์ตด้านอัตราดอกเบี้ยให้ต่ำเพื่อให้ประชาชนมีกำลังผ่อนและเข้าถึงสินเชื่อได้ง่าย มากกว่าที่จะเพิ่มจำนวนปริมาณการสร้างบ้านเพื่อคนไทยถึง 1 ล้านยูนิต
 
ด้านนายอิสระ บุญยัง ประธานคณะกรรมการสมาคมการค้ากลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ออกแบบ และก่อสร้าง สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และนายกกิตติมศักดิ์สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า ถ้ารัฐบาลมีนโยบายจะสร้าง “บ้านเพื่อคนไทย” 1 ล้านหลัง จะกระทบต่อการพัฒนาของเอกชนหรือไม่นั้น ในมุมมองของตนนั้น คือ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่