การใช้จินตภาพเชื่อมต่อกับจุดสำคัญบนกระดูกไขสันหลัง อันเป็นที่ตั้งของเซลล์ประสาทหลายล้านเซลล์ ดังนั้นจุดจักระจึงเปรียบเสมือนจุดศูนย์รวมประสาท ที่เกิดขึ้นโดยการสร้างจินตภาพและกำหนดความรู้สึกของผู้ฝึก และผู้ฝึกปราณจักระจะต้องทำร่างกายให้เสมือนเป็นทางผ่านของพลังงานเหล่านั้น ที่หมุนวนเข้าออกอย่างอิสระ หรือช่วยสนับสนุนการทำงานโดยอัตโนมัติของระบบสำคัญของร่างกาย อย่างที่กล่าวไปในตอนต้นว่า ระบบเหล่านี้อยู่คู่กับเราไปจนวันตาย และทำงานแบบ 24 ชม.

     เมื่อทำการฝึกสมาธิในแบบปราณจักระ คือรับเข้ามาผ่านลมหายใจเข้า และถ่ายเทออกไปผ่านลมหายใจออก การจินตภาพก็คือจินตนาการกำหนดรูปร่างลักษณะให้ภาพนั้นชัดในจิต เมื่อหายใจเข้าให้นึกภาพของการหมุนวนของแสงสีนั้นไปในทิศทางตามเข็มนาฬิกา และเมื่อหายใจออกให้กำหนดจินตภาพเป็นการหมุนของแสงสีนั้นไปในทิศทางทวนเข็มนาฬิกา
ลักษณะของการทวนเข็มนาฬิกา หรือตามเข็มนาฬิกาก็เทียบเคียงกับการเอานาฬิกาวางที่พื้น จากซ้ายหมุนไปหน้า ทวนเข็มก็จากขวาหมุนไปหน้า ทิศทางตามภาพที่แสดงตัวอย่างแต่วางลงในแนวนอนเสมือนกงจักรจริง และเมื่อสามารถเปิดจักระใดสำเร็จแล้ว จักระนั้นจะทำงานแบบอัตโนมัติ คือช่วยดูแลระบบการทำงานของร่างกายในบริเวณนั้นให้มีประสิทธิภาพ และเพิ่มศักยภาพมากกว่าคนปกติธรรมดาที่ไม่ผ่านการฝึกไม่ได้เรียนรู้ระบบหายใจ เพราะมีความเป็นไปได้ว่า การกำหนดจินตภาพของมนุษย์นั้น สามารถเชื่อมโยงพลังงานจากสนามแม่เหล็กไฟฟ้าภายนอกเข้าสู่สมองได้ในปริมาณเล็กน้อย แต่ยังคงเป็นเพียงข้อสันนิษฐานเท่านั้น ยังไม่มีงานวิจัยรับรองในเรื่องนี้ ในขณะเดียวกัน แนวคิดดังกล่าวก็สอดคล้องกับหลักปฏิบัติของปราณจักระอยู่พอสมควรเช่นเดียวกัน

---