จำได้มั้ย มีคนทุบรถ CR-V ป้ายแดงเลย!
จากกรณีที่ น.ส.เดือนเพ็ญ ศิลาเกษ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 47/50 ซอยสุภาร่วม แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กทม. เจ้าของร้าน "ศิลาเกษ" ซึ่งจำหน่ายเสื้อผ้าย่านพาหุรัด ร้องเรียนกับสื่อมวลชนเมื่อวานที่ผ่านมาว่า เพิ่งซื้อรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้ารุ่นซีอาร์วี สีบรอนซ์เงิน ทะเบียนป้ายแดง ฐ-5286 กทม. แต่ปรากฏว่ารถมีปัญหาตั้งแต่ซื้อมาใหม่ๆ เข้าศูนย์ซ่อมมาหลายครั้งหลายหนแล้วก็ไม่หาย จึงต้องการร้องเรียนขอความเป็นธรรมและประกาศจะทุบรถคันนี้ทิ้งเพื่อให้ประชาชนได้รับทราบถึงปัญหาที่ตนได้รับ
วันที่ 27 ม.ค. ที่หน้าอาคารชินวัตร 3 ถ.วิภาวดีรังสิต น.ส.เดือนเพ็ญ ได้เดินทางมาด้วยรถยนต์คันดังกล่าว พร้อมกับญาติรวม 3 คน และหลังจอดรถ น.ส.เดือนเพ็ญ ได้นำป้ายพลาสติกมีข้อความว่า
"ถ้าดีจริง ฉันไม่ทำแบบนี้ ขอไว้ทุกข์ให้ฮอนด้า" นำไปติดไว้รอบตัวรถ
ต่อจากนั้น น.ส.เดือนเพ็ญ ได้ใช้ค้อนปอนด์ทุบที่กระจกหน้ารถกว่า 10 ครั้ง จนกระจกรถแตก และได้ใช้พลั่วตีที่กระโปรงหน้ารถอีกนับ 10 ครั้งจนกระโปรงหน้ารถบุบเสียหาย แรงสั่นสะเทือนในการทุบทำให้เศษกระจกที่แตกกระเด็นใส่มือ น.ส.เดือนเพ็ญ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้น.ส.เดือนเพ็ญ เปิดเผยหลังทุบรถว่า "ดิฉันเป็นแม่ค้า หาเงินมาด้วยความยากลำบาก เคยใช้รถคันละ 7-8 แสนบาท จะเปลี่ยนรถ 3-4 ปี รถในดวงใจจริงๆ แล้วคือรถฮอนด้าซีอาร์วี ซึ่งตั้งใจว่าถ้ามีเงินจะต้องซื้อให้ได้เพราะรักฮอนด้า รถฮอนด้าที่ซื้อมาแล้วนี้มีปัญหา เดิมทีไม่ต้องการเปลี่ยนรถ แต่เมื่อได้พูดคุยกับทางศูนย์ฯ แล้วเขาบอกว่ารถ 100 คันจะมีปัญหาเพียง 1 คัน เขาบอกว่าลูกค้าคาดหวังเกินไป เมื่อได้คุยกับผู้บริหารของฮอนด้า กลับได้รับคำตอบว่าเสียใจ เขาจะไม่ให้ลูกค้ามามีอิทธิพลเหนือบริษัทฯ"
น.ส.เดือนเพ็ญ กล่าวอีกว่า บริษัท ฮอนด้าไม่รับผิดชอบก็เป็นเรื่องของเขา แต่สิ่งที่ตนได้ทำลงไปก็คิดดีแล้ว อยากบอกให้ประชาชนได้รับรู้ และคิดว่าหลายคนมีปัญหาในลักษณะเดียวกันกับตน แต่ไม่กล้าที่จะทุบรถตัวเอง อย่างไรก็ตาม อยากให้บริษัทฮอนด้าออกมารับผิดชอบให้มากกว่านี้
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจาก น.ส.เดือนเพ็ญ ให้สัมภาษณ์เสร็จ ได้เดินทางไปที่ สน.พหลโยธิน เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน
สำหรับรถคันคันดังกล่าว น.ส.เดือนเพ็ญ ได้ซื้อและรับรถมาเมื่อวันที่ 29 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยซื้อในราคา 1.3 ล้านบาท หมายเลขเครื่องยนต์ K20A44PO1194 หมายเลขตัวถัง MRHRD 58804 P401092 เป็นซีอาร์วีรุ่นใหม่ล่าสุดของฮอนด้า ซื้อจากศูนย์บริการฮอนด้า สาขาศรีอยุธยา ตั้งอยู่เลขที่ 350 ถ.ศรีอยุธยา แขวงพญาไท เขตราชเทวี กทม. แต่ปรากฏว่าขับรถได้เพียง 2 วันเท่านั้นรถก็มีปัญหา เกิดเสียงดังที่เฟืองท้าย เป็นเสียงหอนดังมากจนตกใจ และยังมีสตาร์ทไม่ติดอีก พอให้ช่างของศูนย์มาดูก็บอกว่าแบตเตอรี่เสื่อม ต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่
"ตอนนั้นก็งงเหมือนกันว่ารถใหม่ๆ ทำไมแบตฯถึงเสื่อมง่ายแบบนี้ แต่ก็ให้ศูนย์ฯศรีอยุธยาเปลี่ยนแบตฯลูกใหม่ให้ พอสตาร์ทติดก็คิดว่าคงไม่มีปัญหาแล้ว พอขับรถไปสักพักก็มีเสียงดังของช่วงท้ายของรถ เสียงดังมากๆ และดังแทบจะตลอดเวลาที่รถวิ่ง จึงขับรถไปที่ศูนย์ให้ช่างตรวจอีก ช่างก็บอกว่าเฟืองท้ายมีปัญหา ดิฉันพยายามสอบถามว่าทำไมรถใหม่ถึงมีปัญหา ช่างบอกว่า 100 คันจะมีปัญหาแบบนี้แค่คันเดียว เป็นรถที่ประกอบไม่สมบูรณ์ แต่ทางศูนย์จะเปลี่ยนอะไหล่ที่มีปัญหาให้ ตอนนั้นเริ่มรู้สึกว่าไม่ถูกต้องแล้ว เป็นเรื่องแปลกมากๆ ที่ซื้อรถป้ายแดงแล้วต้องซ่อมตั้งแต่วันสองวันแรกที่รับรถ" น.ส.เดือนเพ็ญกล่าว
น.ส.เดือนเพ็ญ กล่าวต่อไปว่า ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 ม.ค.ที่ผ่านมา ตนไปรับรถที่ศูนย์บริการเดิม เพราะรถมีปัญหาสตาร์ทไม่ติดอีกแล้ว โดยช่างที่ศูนย์ก็บอกว่ารถคันนี้เช็กให้ดีหมดแล้ว และดีกว่าทุกคันที่เข้ามาซ่อมด้วย แต่ปรากฏว่าเมื่อนำรถออกมาขับกลับมีอาการกินซ้ายตลอด เหมือนศูนย์ถ่วงของรถเสีย และยังมีเสียงดังออกมาจากบริเวณท้ายรถเช่นเดิม พอสตาร์ทรถ เครื่องยนต์ก็สั่นทั้งคันจึงติดต่อไปศูนย์บริการอีกครั้งเพื่อขอคุยกับผู้ใหญ่ของบริษัทฮอนด้า เพราะไม่ต้องการซ่อมอีกแล้ว เสียความรู้สึกกับรถคันนี้มาก จึงเรียกร้องให้ทางศูนย์ฮอนด้าเปลี่ยนรถคันใหม่ให้
สาวเจ้าของซีอาร์วีกล่าวต่อไปว่า กระทั่งวันที่ 24 ม.ค.ที่ผ่านมา ตนจึงได้เข้าไปพูดคุยกับผู้ใหญ่ของบริษัทฮอนด้าซึ่งเป็นคนญี่ปุ่น ผู้บริหารคนนั้นกลับบอกว่าไม่ต้องหวังว่ารถจะดีเลิศทุกคัน รถยนต์ 100 คันจะมีสัก 1 คันที่มีปัญหา และที่สำคัญบริษัทไม่มีนโยบายเปลี่ยนรถใหม่ให้ลูกค้า แต่ถ้ารถมีปัญหาก็จะซ่อมให้เป็นจุดๆ ซึ่งตนฟังแล้วรู้สึกผิดหวังมาก ซื้อรถป้ายแดงคันนี้มาในราคา 1 ล้าน 3 แสนบาทเพื่อซ่อมหรืออย่างไร จึงทำใจไม่ได้ เพราะตั้งแต่รับรถคันนี้มาได้ประมาณเดือนกว่าๆ ก็ต้องขับเข้าศูนย์ซ่อมมาตลอด
"ไม่คิดว่าตัวเองต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ เสียเงินเป็นล้านเพื่อต้องการขับรถใหม่ บอกตรงๆรู้สึกผิดหวังมาก ดิฉันจึงบอกผู้บริหารชาวญี่ปุ่นคนนั้นไปว่าจะทุบรถทิ้ง เพราะทำใจไม่ได้จริงๆ ผู้บริหารคนนั้นยังบอกว่าถ้าจะทุบรถ ทางศูนย์ก็จะไม่ซ่อมให้เด็ดขาด ซึ่งดิฉันไม่สนว่าจะซ่อมหรือไม่ซ่อมอีกแล้ว เพราะอย่างไรก็ต้องนำรถยนต์คันนี้เข้าซ่อมที่ศูนย์บริการเป็นประจำ เสียเงินซ่อมก็ยอม สิ่งที่ดิฉันทำนั้นไม่ได้ทำเพราะความสะใจ เพียงแต่อยากให้ประชาชนรับรู้ถึงปัญหาของซีอาร์วีคันนี้" น.ส.เดือนเพ็ญกล่าว
ที่มา: https://mgronline.com/crime/detail/9480000012848
ข่าวนี้ มกราคม 2548
20 ปีแล้ว...คุ้มครองผู้บริโภคเรา ก็ยังไม่ไปไหน
กฎหมายเลมอน (Lemon Law)
กฎหมายเลมอน (Lemon Law) คือชุดของกฎระเบียบการคุ้มครองผู้บริโภคที่ออกแบบมาเพื่อปกป้องผู้ซื้อรถยนต์ใหม่และสินค้าอุปโภคบริโภคสำคัญอื่นๆ จากผลิตภัณฑ์ที่มีข้อบกพร่องซ้ำซากและไม่เป็นไปตามมาตรฐานคุณภาพและประสิทธิภาพที่ยอมรับได้ กฎหมายเหล่านี้แตกต่างกันอย่างมากในแต่ละรัฐ แต่โดยทั่วไปแล้วจะมีองค์ประกอบร่วมกัน
คำว่า
"เลมอน" เริ่มถูกใช้ในช่วงทศวรรษ 1960 เพื่ออธิบายรถยนต์ที่มีข้อบกพร่องซ้ำซาก อย่างไรก็ตาม จนกระทั่งทศวรรษ 1970 กฎหมายเลมอนก็เริ่มมีรูปเป็นรูปร่างในสหรัฐอเมริกา รัฐแรกที่ออกกฎหมายเลมอนคือคอนเนตทิคัตในปี 1982
กฎหมายเลมอนทำอะไร
โดยทั่วไปแล้ว กฎหมายเลมอนจะให้การเยียวยาแก่ผู้บริโภคเมื่อผลิตภัณฑ์ เช่น รถยนต์ ไม่สามารถตอบสนองมาตรฐานคุณภาพและประสิทธิภาพที่กำหนดได้ซ้ำซาก แม้จะซ่อมแซมหลายครั้ง
ผลกระทบ
กฎหมายเลมอนมีผลกระทบอย่างมากต่ออุตสาหกรรมยานยนต์และตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคอื่นๆ กฎหมายเหล่านี้ช่วยปรับปรุงคุณภาพและความน่าเชื่อถือของผลิตภัณฑ์ เนื่องจากผู้ผลิตมีแรงจูงใจมากขึ้นในการผลิตสินค้าที่ตรงตามความคาดหวังของผู้บริโภค นอกจากนี้ กฎหมายเลมอนยังมอบความอุ่นใจและการปกป้องที่มากขึ้นให้กับผู้บริโภคจากผลิตภัณฑ์ที่มีข้อบกพร่อง
บทบัญญัติสำคัญของกฎหมายเลมอน
1. ข้อบกพร่องที่สำคัญ: ผลิตภัณฑ์ต้องมีข้อบกพร่องที่สำคัญซึ่ง
บั่นทอนการใช้งาน มูลค่า หรือความปลอดภัยอย่างมาก ซึ่งอาจรวมถึงปัญหาเกี่ยวกับเครื่องยนต์ เกียร์ เบรก หรือระบบสำคัญอื่นๆ
2. จำนวนการซ่อมแซมที่สมเหตุสมผล: รัฐส่วนใหญ่กำหนดจำนวนการซ่อมแซมที่ไม่สำเร็จโดยเฉพาะก่อนที่จะสามารถเรียกใช้กฎหมายเลมอนได้ จำนวนนี้มักจะอยู่ระหว่าง
สามถึงสี่ครั้ง แต่สามารถแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับรัฐและความรุนแรงของข้อบกพร่อง
3. การซ่อมแซมภายในระยะเวลาการรับประกัน: การซ่อมแซมต้องเกิดขึ้นภายในระยะเวลาการรับประกันที่ระบุโดยผู้ผลิต ระยะเวลานี้อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์และผู้ผลิต
4. เวลาในการซ่อมแซมที่สมเหตุสมผล:
ผู้ผลิตต้องมีเวลาที่เหมาะสมในการซ่อมแซมข้อบกพร่อง กรอบเวลาที่กำหนดไว้โดยทั่วไปจะระบุไว้ในข้อตกลงการรับประกัน
การเยียวยา
หากผลิตภัณฑ์ถือว่าเป็น "เลมอน" ภายใต้กฎหมาย ผู้บริโภคโดยทั่วไปจะได้รับสิทธิ์ดังต่อไปนี้:
- เปลี่ยนสินค้า: ผู้ผลิตอาจถูกขอให้เปลี่ยนผลิตภัณฑ์ที่บกพร่องด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีมูลค่าเทียบเท่า
- คืนเงินค่าซื้อ: ผู้ผลิตอาจถูกขอให้คืนเงินค่าซื้อสินค้าทั้งหมดให้กับผู้บริโภค
- ซื้อคืนผลิตภัณฑ์: ผู้ผลิตอาจถูกขอให้ซื้อคืนผลิตภัณฑ์ที่บกพร่องจากผู้บริโภคในราคาตลาดที่ยุติธรรม
ทำไมประเทศไทยจึงควรมีกฎหมายเลมอนลอว์ (Lemon Law)?
สถานการณ์ในปัจจุบัน:
- ปัญหาสินค้าบกพร่อง: ปัจจุบันยังมีผู้บริโภคจำนวนมากที่ประสบปัญหาสินค้าบกพร่อง โดยเฉพาะรถยนต์ใหม่
- ขาดกฎหมายคุ้มครองที่ชัดเจน: แม้จะมีกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค แต่ก็ยังไม่มีกฎหมายที่เฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับสินค้าบกพร่องที่ครอบคลุม
- ผู้บริโภคเสียเปรียบ: ผู้บริโภคต้องต่อสู้เพื่อเรียกร้องสิทธิของตนเองอย่างยากลำบาก
เหตุผลที่ประเทศไทยควรมีกฎหมายเลมอนลอว์:
1. คุ้มครองสิทธิผู้บริโภค:
- กฎหมายนี้จะกระตุ้นให้ผู้ผลิตใส่ใจในการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพมากขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาสินค้าบกพร่อง
- ผู้บริโภคจะไม่ต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายและความเสียหายจากสินค้าที่บกพร่องซ้ำซาก
- กฎหมายเลมอนลอว์จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคในการตัดสินใจซื้อสินค้าใหม่
2. พัฒนาอุตสาหกรรม:
- ผู้ผลิตจะต้องพัฒนากระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อลดปัญหาสินค้าบกพร่อง
- กฎหมายเลมอนลอว์จะกระตุ้นให้ผู้ผลิตพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อสร้างสินค้าที่มีคุณภาพสูงขึ้น
3. แก้ไขปัญหาสังคม: การมีกฎหมายเลมอนลอว์จะช่วยลดความขัดแย้งระหว่างผู้บริโภคและผู้ผลิต
ครบรอบ 20 ปี ทุบ CRV...เมืองไทยควรจะมี Lemon Law ได้แล้ว
จากกรณีที่ น.ส.เดือนเพ็ญ ศิลาเกษ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 47/50 ซอยสุภาร่วม แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กทม. เจ้าของร้าน "ศิลาเกษ" ซึ่งจำหน่ายเสื้อผ้าย่านพาหุรัด ร้องเรียนกับสื่อมวลชนเมื่อวานที่ผ่านมาว่า เพิ่งซื้อรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้ารุ่นซีอาร์วี สีบรอนซ์เงิน ทะเบียนป้ายแดง ฐ-5286 กทม. แต่ปรากฏว่ารถมีปัญหาตั้งแต่ซื้อมาใหม่ๆ เข้าศูนย์ซ่อมมาหลายครั้งหลายหนแล้วก็ไม่หาย จึงต้องการร้องเรียนขอความเป็นธรรมและประกาศจะทุบรถคันนี้ทิ้งเพื่อให้ประชาชนได้รับทราบถึงปัญหาที่ตนได้รับ
วันที่ 27 ม.ค. ที่หน้าอาคารชินวัตร 3 ถ.วิภาวดีรังสิต น.ส.เดือนเพ็ญ ได้เดินทางมาด้วยรถยนต์คันดังกล่าว พร้อมกับญาติรวม 3 คน และหลังจอดรถ น.ส.เดือนเพ็ญ ได้นำป้ายพลาสติกมีข้อความว่า "ถ้าดีจริง ฉันไม่ทำแบบนี้ ขอไว้ทุกข์ให้ฮอนด้า" นำไปติดไว้รอบตัวรถ
ต่อจากนั้น น.ส.เดือนเพ็ญ ได้ใช้ค้อนปอนด์ทุบที่กระจกหน้ารถกว่า 10 ครั้ง จนกระจกรถแตก และได้ใช้พลั่วตีที่กระโปรงหน้ารถอีกนับ 10 ครั้งจนกระโปรงหน้ารถบุบเสียหาย แรงสั่นสะเทือนในการทุบทำให้เศษกระจกที่แตกกระเด็นใส่มือ น.ส.เดือนเพ็ญ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ข่าวนี้ มกราคม 2548
20 ปีแล้ว...คุ้มครองผู้บริโภคเรา ก็ยังไม่ไปไหน
กฎหมายเลมอน (Lemon Law)
กฎหมายเลมอน (Lemon Law) คือชุดของกฎระเบียบการคุ้มครองผู้บริโภคที่ออกแบบมาเพื่อปกป้องผู้ซื้อรถยนต์ใหม่และสินค้าอุปโภคบริโภคสำคัญอื่นๆ จากผลิตภัณฑ์ที่มีข้อบกพร่องซ้ำซากและไม่เป็นไปตามมาตรฐานคุณภาพและประสิทธิภาพที่ยอมรับได้ กฎหมายเหล่านี้แตกต่างกันอย่างมากในแต่ละรัฐ แต่โดยทั่วไปแล้วจะมีองค์ประกอบร่วมกัน
คำว่า "เลมอน" เริ่มถูกใช้ในช่วงทศวรรษ 1960 เพื่ออธิบายรถยนต์ที่มีข้อบกพร่องซ้ำซาก อย่างไรก็ตาม จนกระทั่งทศวรรษ 1970 กฎหมายเลมอนก็เริ่มมีรูปเป็นรูปร่างในสหรัฐอเมริกา รัฐแรกที่ออกกฎหมายเลมอนคือคอนเนตทิคัตในปี 1982
กฎหมายเลมอนทำอะไร
โดยทั่วไปแล้ว กฎหมายเลมอนจะให้การเยียวยาแก่ผู้บริโภคเมื่อผลิตภัณฑ์ เช่น รถยนต์ ไม่สามารถตอบสนองมาตรฐานคุณภาพและประสิทธิภาพที่กำหนดได้ซ้ำซาก แม้จะซ่อมแซมหลายครั้ง
ผลกระทบ
กฎหมายเลมอนมีผลกระทบอย่างมากต่ออุตสาหกรรมยานยนต์และตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคอื่นๆ กฎหมายเหล่านี้ช่วยปรับปรุงคุณภาพและความน่าเชื่อถือของผลิตภัณฑ์ เนื่องจากผู้ผลิตมีแรงจูงใจมากขึ้นในการผลิตสินค้าที่ตรงตามความคาดหวังของผู้บริโภค นอกจากนี้ กฎหมายเลมอนยังมอบความอุ่นใจและการปกป้องที่มากขึ้นให้กับผู้บริโภคจากผลิตภัณฑ์ที่มีข้อบกพร่อง
บทบัญญัติสำคัญของกฎหมายเลมอน
1. ข้อบกพร่องที่สำคัญ: ผลิตภัณฑ์ต้องมีข้อบกพร่องที่สำคัญซึ่งบั่นทอนการใช้งาน มูลค่า หรือความปลอดภัยอย่างมาก ซึ่งอาจรวมถึงปัญหาเกี่ยวกับเครื่องยนต์ เกียร์ เบรก หรือระบบสำคัญอื่นๆ
2. จำนวนการซ่อมแซมที่สมเหตุสมผล: รัฐส่วนใหญ่กำหนดจำนวนการซ่อมแซมที่ไม่สำเร็จโดยเฉพาะก่อนที่จะสามารถเรียกใช้กฎหมายเลมอนได้ จำนวนนี้มักจะอยู่ระหว่างสามถึงสี่ครั้ง แต่สามารถแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับรัฐและความรุนแรงของข้อบกพร่อง
3. การซ่อมแซมภายในระยะเวลาการรับประกัน: การซ่อมแซมต้องเกิดขึ้นภายในระยะเวลาการรับประกันที่ระบุโดยผู้ผลิต ระยะเวลานี้อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์และผู้ผลิต
4. เวลาในการซ่อมแซมที่สมเหตุสมผล: ผู้ผลิตต้องมีเวลาที่เหมาะสมในการซ่อมแซมข้อบกพร่อง กรอบเวลาที่กำหนดไว้โดยทั่วไปจะระบุไว้ในข้อตกลงการรับประกัน
การเยียวยา
หากผลิตภัณฑ์ถือว่าเป็น "เลมอน" ภายใต้กฎหมาย ผู้บริโภคโดยทั่วไปจะได้รับสิทธิ์ดังต่อไปนี้:
- เปลี่ยนสินค้า: ผู้ผลิตอาจถูกขอให้เปลี่ยนผลิตภัณฑ์ที่บกพร่องด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีมูลค่าเทียบเท่า
- คืนเงินค่าซื้อ: ผู้ผลิตอาจถูกขอให้คืนเงินค่าซื้อสินค้าทั้งหมดให้กับผู้บริโภค
- ซื้อคืนผลิตภัณฑ์: ผู้ผลิตอาจถูกขอให้ซื้อคืนผลิตภัณฑ์ที่บกพร่องจากผู้บริโภคในราคาตลาดที่ยุติธรรม
ทำไมประเทศไทยจึงควรมีกฎหมายเลมอนลอว์ (Lemon Law)?
สถานการณ์ในปัจจุบัน:
- ปัญหาสินค้าบกพร่อง: ปัจจุบันยังมีผู้บริโภคจำนวนมากที่ประสบปัญหาสินค้าบกพร่อง โดยเฉพาะรถยนต์ใหม่
- ขาดกฎหมายคุ้มครองที่ชัดเจน: แม้จะมีกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค แต่ก็ยังไม่มีกฎหมายที่เฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับสินค้าบกพร่องที่ครอบคลุม
- ผู้บริโภคเสียเปรียบ: ผู้บริโภคต้องต่อสู้เพื่อเรียกร้องสิทธิของตนเองอย่างยากลำบาก
เหตุผลที่ประเทศไทยควรมีกฎหมายเลมอนลอว์:
1. คุ้มครองสิทธิผู้บริโภค:
- กฎหมายนี้จะกระตุ้นให้ผู้ผลิตใส่ใจในการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพมากขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาสินค้าบกพร่อง
- ผู้บริโภคจะไม่ต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายและความเสียหายจากสินค้าที่บกพร่องซ้ำซาก
- กฎหมายเลมอนลอว์จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคในการตัดสินใจซื้อสินค้าใหม่
2. พัฒนาอุตสาหกรรม:
- ผู้ผลิตจะต้องพัฒนากระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อลดปัญหาสินค้าบกพร่อง
- กฎหมายเลมอนลอว์จะกระตุ้นให้ผู้ผลิตพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อสร้างสินค้าที่มีคุณภาพสูงขึ้น
3. แก้ไขปัญหาสังคม: การมีกฎหมายเลมอนลอว์จะช่วยลดความขัดแย้งระหว่างผู้บริโภคและผู้ผลิต